ไร้สารคดี Aloha Hawaii 4

ผมหยุดเรื่องฮาวายไปสองครั้ง เท่ากับว่าหยุดไปหนึ่งเดือน เพราะสลับกันเขียนกับพี่แมวคนละวีค แฟนานุแฟนเจอกันที่ตลาดนัดวันอาทิตย์ที่วัดก็ต่อว่าต่อขานกันพอหอมปากหอมคอ ขนาดลงไปงาน..สิงห์อาสา แอลเอ ยังอุตส่าห์มีคนรู้จักมาถามไถ่ว่าเรื่อง..ไร้สารคดี จะต่ออีกเมื่อไร ทำให้นึกคุณชายคึกฤทธิ์เขียนเรื่อง สี่แผ่นดิน บรรดาแฟนแม่พลอยไปออกันหน้าโรงพิมพ์สยามรัฐ ถนนราชดำเนิน รอหนังสือพิมพ์ออกเพื่อจะได้อ่านสี่แผ่นดิน ผมมิบังอาจยกตนเทียมคุณชายคึกฤทธิ์ แต่ก็ดีใจลึกๆ ที่มีคนอ่านและให้กำลังใจ และขอขอบคุณอีกท่านหนึ่งคือนักเขียนรุ่นพี่ในไทยแอลเอคือ ส.ท่าเกษม คอลัมน์พบกันวันเสาร์ ที่เวลคัมผมสู่แวดวงนักเขียน เป็นปลื้มนักแล

ผมกำหนดอยู่ฮาวายหนึ่งสัปดาห์ เคาท์ดาวน์แล้วเหลือเวลาอีกสองวันก็ต้องกลับบ้านตามไฟล์ทบังคับที่ลูกสาวจัดให้ ยังมีสถานที่เที่ยวอีกหลายแห่งที่ยังไม่ได้ท่อง คุยกับแม่บ้านว่าคงเก็บตกไม่หมดใน Trip นี้ ตอนนี้ก็ส่งตัวลูกสาวเข้าหอไปแล้ว โอ๊ะโอ่ โอ๊ะโอ่ !! เข้าหอพักของมหา’ลัยครับพี่น้อง อย่าเข้าใจผิดคิดว่า..ผมส่งตัวเข้าหอวันวิวาห์ เดี๋ยวเจอข้อหาพรากผู้(ไม่ )เยาว์ ตกลงว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนบ้างเธอว่า อยากไปท่องทะเล และอีกที่หนึ่งคุณลูกสาวจัดให้คือ โพลีนีเชี่ยนคัลเจอร์โชว์ งั้นได้เลยจัดให้

เราติดต่อไปที่ทัวร์เอเจนซี่ เขาจัดโปรแกรมให้เราไปกับ Ocean Joy Cruises ซึ่งเราต้องตื่นกันตั้งแต่หกโมงเช้า ไปรอขึ้นรถทัวร์ตามจุดนัดพบ เมื่อได้คนครบตามรายชื่อรถก็ออกจากเมือง คนขับรถเป็นผู้หญิงชื่อลิซ่า อารมณ์ดีคุยสนุก ผมชอบการเซอร์วิสโดยทั่วไปของอเมริกา เขาคัดเลือกและเทรนคนที่มาบริการนักท่องเที่ยว ได้ทั้งความรู้และอินเตอร์เทนอย่างเอ็นจอย ถ้าเป็นทัวร์แบบไทยๆ คุณแม่บ้านผมก็มีเพลงขวัญใจโชว์เฟอร์ฉบับกระเป๋าที่เธอจะต้องอินเตอร์เทนให้เป็นที่ครื้นเครงทั้งคนขับและลูกทัวร์ ไหนๆ ก็หลวมเนื้อหลวมตัวแนะนำแล้วคงต้องแซมเปิ้ลซักกะหน่อย ผมก๊อปมาจากคุณเธออีกทีตามเวอร์ไทย เธอบอกศิษย์เก่าพระเกี้ยว (จุฬา) รุ่นเธอต้องร้องกันได้ทุกคน..

“สวัสดีนะคะโชเฟอร์ สวัสดีนะคะโชเฟอร์ โชเฟอร์จะพาเราไป ฝากชีวิตไว้กับโชเฟอร์ โชคดีนะคะโชว์เฟอร์ โชคดีนะคะโชเฟอร์ ขับรถไปตามสบาย ขอให้ปลอดภัยนะคะโชเฟอร์ ขอบคุณนะคะโชเฟอร์ ขอบคุณนะคะโชเฟอร์ ขับรถเยี่ยมยอดเหลือใจ จะไม่รักใครเท่ารักโชเฟอร์ ฯ

ผมรับรองว่าร้อยพันหมื่นแสนโชเฟอร์ต้องชื่นชอบเพลงนี้และชื่นชอบคนร้องด้วย ฮะแอ้ม !! แหมบรรยากาศมันเป็นใจอดรำลึกถึงอดีตไม่ได้ เอาละเดี๋ยวจะ go so big เป็นอันว่าคุณลิซ่าเธอก็พาลูกทัวร์มาส่งถึงท่าเรือ ก็มีเรือบริการอยู่หลายบริษัท เรือลำที่พาพวกเราท่องทะเลชื่อ KAI’ OLi’ OLI เป็นภาษาฮาวายแปลว่า Joy on the Ocean ตามธรรมเนียมก่อนออกทะเล กัปตันก็ออกมาแนะนำตัวเองและลูกทีม พร้อมทั้งแจกชูชีพและบอกถึงวิธีการที่จะต้องเซฟตี้ วันนั้นลูกทัวร์ในเรือเรามีกว่าสามสิบชีวิตประกอบด้วยหลายเชื้อชาติ นอกจากอเมริกันเจ้าของประเทศแล้ว ยังมียุโรป แคนาดา เอเซีย และที่ขาดไม่ได้เป็นยาดำคือญี่ปุ่นก็มากหน้าหลายตากว่าชนชาติอื่น วันนี้เขาจะพาเราไปสน๊อกเกอร์ดูเต่าหอยปูปลา ดูประการัง และถ้าโชคดีอาจได้เห็นปลาวาฬและโลมาออกมาเล่นน้ำ อย่าถามผมนะครับว่าเขาพาเราไปไหนบ้าง เรื่องภูมิศาสตร์ทางทะเลกับผมนี้ไม่ประสีประสากันเลย รู้แต่ว่าวันนั้นท้องฟ้าเป็นใจอากาศแจ่มใส ดูวิวทิวทัศน์ชื่นอกชื่นใจ ทำให้นึกถึงเพลงสุนทราภรณ์ท่อนที่ว่า.. “ร่อนเร่ไปกลางทะเลชาวฮาเย็นเฮกันกลางทะเล” มีอีกเวอร์ชั่นหนึ่งแวบมาในหัวว่า.. “เฮ อยากจะเอา....ไปทิ้งทะเล เป็นเหยื่อปูม้าและปูทะเล เห่ เห่ เฮ เฮ เห่เฮ้” แหะๆ ตรงที่จุดๆ เว้นไว้ จะเอาใครไปทิ้งก็เติมเอานะขอรับ ผมไม่เกี่ยว และเพลง..ตังเกของน้าหมู (พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ) ก็ได้อารมณ์ดีอย่ากล่าวหาว่าผมแชเชือนนะครับบรรยากาศมันพาไป

แล้วเรือก็พาเรามาถึงจุดหมายที่จะได้ชมประการัง พอเรือจอดนิ่งสาวน้อยในทีมงานก็คว้าเชือกหัวเรือผูกบั้นเอวกระโดดน้ำตูม ดำน้ำเอาเชือกไปผูกกับหินใต้น้ำ ลูกทีมที่เหลือก็แจกจ่ายอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจและหน้ากาก ผมเตรียมตัวมาแล้วเพราะมีประสบการณ์ตอนไปเที่ยวตรังและกระบี่ ถอดเสื้อฮาวายออกใส่ชูชีพ ใส่อุปกรณ์ทุกอย่าง ลูกสาวผมที่มาจอยด้วยก็เรียบร้อยพร้อมที่จะลง เธอเอา iphone ใส่หน้ากากกันน้ำ (water proof case) ติดตัวไปด้วยเพื่อเก็บภาพใต้น้ำ มองไปมองมาเอ้า..แม่คุณของผมเธอยังไม่เรียบร้อยเลย ผมต้องไปช่วยใส่ชูชีพและสน๊อกเก้อร์ให้พร้อมทั้งสอนให้หายใจทางปาก และมีอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับทะเล มีฟองน้ำแท่งยาวๆ กลมเหมือนไม้พองเส้นผ่าศูนย์กลางสักสองนิ้ว ผมไม่ลืมที่จะคว้าติดตัวและให้แม่บ้านนำลงน้ำไปด้วย เพราะคำว่าคืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจทะเล หนึ่งสองสามทุกอย่างพร้อมที่จะลงไปผจญกับความตื่นเต้น หนุกหนาน หนุกหนาน ท้องน้ำราบเรียบ คลื่นลมสงบ ผมค่อยๆ ประคองแม่บ้านลงบันไดจับเชือกที่โรยไว้ ในกรณีที่กลัวว่าจะออกไปไกลจากเรือ แม่บ้านผมไม่มีประสบการณ์เลย กลัวๆ กล้าๆ มัวแต่เทคแคร์เธอ มองไปอีกทีแม่ลูกสาวผมออกไปไกลแล้ว เสียงเรียกมาให้พ่อกับแม่รีบลงมาเร็วๆ พอแตะน้ำยังไม่ทันเท่าไร แม่บ้านผมก็ไม่เอาแล้ว พ่อช่วยพาขึ้นเรือที ลูกทีมของเรือก็เข้าช่วยดูแลมาพยุงเธอขึ้นเรือ ยืนตัวสั่นเป็นลูกนกตกน้ำ ผมถามว่าเป็นไรไป เธอบอกว่า..หายใจไม่ออก สำลักน้ำ ถอยดีกว่า ไม่อาว..ดีกว่า อยู่ไปเดี๋ยวเป็นภาระของคนอื่น พี่ไปเล่นเถอะน้องจะถ่ายรูปให้ เออ..ก็ดีเหมือนกัลล์

ผมอยู่ในชุดเตรียมพร้อมว่ายน้ำออกไปจากเรือประมาณสิบเมตร ลูกสาวบอกว่าพ่อมาทางนี้ๆ ผมก็ตามไป พ่อดูใต้น้ำ เห็นไหมประการัง ปลาหลากหลายชนิดสวยงามมาก เต่าก็มี ผมทำตามลูกสาวอย่างว่างาย ชมทิวทัศน์บรรยากาศใต้น้ำ น้ำใสมากและไม่เย็นเกินไป แต่ประการังสวยสู้ที่ตรังและกระบี่ไม่ได้ และผิดหวังนิดๆ ที่ตามหาเจ้าปลาการ์ตูนนีโม่ไม่เจอ ลูกสาวหายไปพักหนึ่ง โผล่จากน้ำขึ้นมาใกล้ตัวผม พ่อจ๊ะ..หนูดำน้ำไปดูประการังใกล้ๆ โชคดีจังถ่ายรูปเต่ามาได้ห้าตัว น่ารักจัง.. เสียดายว่าผมดำน้ำไม่เป็น กลัวว่าดำแล้วเดี๋ยวไม่โผล่ ไม่งั้นจะขอตามไปขี่หลังเต่าท่องใต้บาดาลให้สนุกไปเลย ก็ได้อารมณ์พอประมาณกับเวลา กัปตันทีมเรียกขึ้นเรือ แม่บ้านผมน่ารักมากเอาสายยางน้ำจืดมาล้างตัวผมและลูกสาวพร้อมผ้าเช็ดตัวมาให้ เมื่อทุกคนขึ้นจากน้ำพร้อมกันแล้ว กัปตันก็นำเรือออกเดินทางต่อ

ระหว่างเดินทางต่อ ทางเรือมีอาหารเที่ยงและเครื่องดื่มไว้บริการ พร้อมทั้งบรรยายวิวทิวทัศน์ข้างทางซึ่งตอนนี้เรือ Kai’ Oli’ Oli กำลังพาเข้าใกล้ฝั่งและวิ่งขนานไปกับเส้นทางฟรีเวย์ เห็นรีสอร์ทและเห็นปาร์คสองข้างทางสวยงาม และบางแห่งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ชื่อดังอย่าง James Bond และ Jurassic Park และนาทีระทึกใจก็มาถึง เมื่อเรือเริ่มชะลอความเร็วพร้อมทั้งกัปตันประกาศว่า ปลาวาฬเกรขนาดใหญ่เพิ่งหนีหนาวมาจากอลาสก้าพาลูกน้อยมาด้วย จริงเท็จอย่างไรผมไม่ประกันเพราะเขาว่ามาอย่างนั้น เราสามคนพ่อแม่ลูกออกมายืนดูเห็นแต่หลังปลาวาฬและน้ำที่พ่นออกมาเป็นลำขึ้นมาแต่ไม่เห็นลูกปลาวาฬ มันคงเพลินกับการดูดนมแม่และอบอุ่นกับแปซิฟิคโอเชี่ยนถิ่นใหม่ที่มาเยือน จึงไม่รู้สึกรู้สาว่าพวกมนุษย์เขาตื่นเต้นกัน ถัดๆ กันมาก็มีปลาโลมาหลายคู่นับไม่ถ้วน และที่เป็นกลุ่มก็มี กระโดดน้ำโชว์กันสวยงาม เหมือนกับที่เคยดูโชว์ตามสวนสนุก แต่ที่นี่เป็นธรรมชาติกว่า เรื่องปลาโลมากับผมเห็นกันจนชิน อากาศดี ๆ ทะเลข้างบ้านผมที่ซานตาครูซก็มีมาโชว์เห็นบ่อยๆ ไม่ต้องเสียเงินขึ้นเรือมาดู

Ocean Joy Cruises ก็จบตามสไตล์ของผู้เฒ่าไปอีกตอน และยังมีเรื่องระบำโพลีนีเชียน คิดว่าจะได้จบตอนนี้แต่พอดีหมดเนื้อที่สัมปทาน คงต้องรอตอนต่อไป ซึ่งจะถ่ายทอดการโยกย้ายส่ายสะโพก และการควงไฟของชาวเกาะมาให้ท่านระทึกใจ โปรดติดตามตอนต่อไป Aloha.. สวัสดีครับ