คุณหมอ..ขอคุย
น.พ. อรุณ สวนศิลป์พงศ์
เจอกันโดยบังเอิญ

เมื่อวันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2019 ไปทำบุญ ถวายเพลพระภิกษุสงฆ์ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดที่วัดไทย กรุงวอชิงตัน ดีซี ก็มีพยาบาลที่รู้จักกัน นำอาหารมาถวายเพลด้วย เสร็จแล้วก็มาทักว่า “เจอกันโดยบังเอิญ”

ก็ได้คุยกันสักครู่ แล้วก็นึกถึงประโยคข้างต้น เพราะได้ใช้มากในการทำจิตบำบัดคนไข้ ที่เคยรับปรึกษาที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลมา 30-40 ปี

คนไข้ที่มาห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลนั้น มีหลากหลายประเภท และอาการ แต่ส่วนใหญ่มาด้วยอาการที่เรียกว่า acute stress ซึ่งมีอาการครอบคลุม หลายอย่าง เช่นอาการซึมเศร้า กังวล นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร แยกตัวเอง ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่พูดไม่จา ประสาทหลอน หวาดกลัว หวาดระแวง ตกใจง่าย หงุดหงิด จนกระทั่งคิดจะฆ่าตัวตาย

ส่วนใหญ่หมอที่ห้องฉุกเฉิน จะตรวจร่างกาย ว่าไม่มีโรคทางกายร้ายแรง …แล้วก็จะส่งมาหาจิตแพทย์…แต่ปัจจุบันห้องฉุกเฉินในเมกา ก็อาจจะมีนักจิตวิทยา พยาบาลจิตเวช หรือนักสังคมสงเคราะห์ ให้คำปรึกษาด้วย…

ที่เจอบ่อยๆ ในคนที่เป็นโรคเครียด ซึ่งก็คงรวมทั้งที่เป็นโรคซึมเศร้า และกังวล…และมีประสบการณ์จากการ “สูญเสีย” หรือ “loss”

การสูญเสีย ก็อาจจะมีทั้งที่เกิดจริง หรือจากจินตนาการที่คาดหวังไว้…อารมณ์ที่เกิดจากความสูญเสีย จะมีมากมีน้อย ก็อยู่ที่ความผูกพันกับสิ่งของ หรือสิ่งมีชีวิตนั้นๆ

ตัวอย่างที่ต้องใช้ “เจอกันโดยบังเอิญ” บ่อยๆ เช่นคู่รักที่ต้องแยกกัน โดยฝ่ายหนึ่ง ไม่ต้องการแยก คนที่แยกตัวออกไป ก็คงจะโล่งอกสบายใจ คนที่ไม่อยากแยก ก็ต้องคิดมาก มีอารมณ์ต่างๆ เช่นเสียใจ …ความเสียใจก็ทำให้ร้องไห้ นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิในการทำงาน เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น หรืออาจจะมีความโกรธ เคียดแค้น…

บางทีก็ต้องย้อนหลังให้เห็นว่า เติบโตมาจนอายุเท่าไร ตอนเจอกันกับคู่รัก หรือคู่สมรส ต่างคนต่างอายุเท่าไร…ก่อนเจอกัน โดยบังเอิญ มีความเป็นอยู่อย่างไร ทำไมถึงอยู่ด้วยตัวเองได้ เป็นต้น…..

ภายหลังจากใช้ชีวิตคู่ ก็เหมือนกับคนเดินไปด้วยกัน หรือเจอกันที่ช้อปปิ้ง มอลล์ แล้วก็คุยกัน พอคุยกันเสร็จก็แยกย้ายกันไป ไม่มีความทุกข์ใจ…ข้อแตกต่างคือยังมี “ความคาดหวัง” ว่าจะได้เจอกันอีกโดยบังเอิญ….

แต่ในกรณีที่คู่รักแยกกัน ก็อาจจะทำให้คิดเลยเถิดถึงการเสียหน้า กับเพื่อนฝูง หรือญาติ…และไม่มีความคาดหวังว่าจะได้เจอกัน หรือใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอีก…ซึ่งต้องปรับตัว จากการใช้ชีวิตคู่ เปลี่ยนเป็นเหมือนอยู่คนเดียวมาก่อน…

บางคนก็ไปหาหมอดู เพราะอยากรู้ว่าจะได้เจอกันโดยบังเอิญอีกไหม…ซึ่งหมอดู ก็อาจจะปลอบใจ ว่าตอนนี้ดวงดาวบางดวง เล็งกันอยู่ หรือเคลื่อนตัว ทำให้มีเหตุการณ์ ที่ต้องแยกกัน ถ้าจะให้สะเดาะเคราะห์ก็ทำได้ จ่ายเงินเพิ่มอีก และก็สอนว่าต้องทำโน่นทำนี่ ทำแล้ว ไม่ดีขึ้น …วันหลังมาใหม่…

บางคนไปหาพระ ก็อาจจะได้รับคำอธิบายว่า ชาติที่แล้วคงไปพรากสัตว์ หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ…แล้วแต่จะอ้าง หรือว่าเคยไปทำคนอื่นไว้ ชาตินี้เลยมาเจอด้วยตัวเอง …ใช้กรรม…หรือถูกลงโทษ…ถ้าเห็นว่า อาการยังไม่ดีขึ้น ก็อาจจะให้ทำบุญ ทำสังฆทาน ไล่เจ้ากรรมนายเวร เป่าน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ เป็นต้น

ก็แล้วแต่จะเชื่อ ทำกันอย่างที่สบายใจ…แต่เข้าวัด ทำบุญ สม่ำเสมอ เสมือนเอาเงินฝากธนาคารบุญ…

คนไข้บางราย คุยกันยืดยาว ไม่ดีขึ้น ก็ต้องให้ยาช่วยนอนหลับ แก้ซึมเศร้า หรือลดกังวล แล้วให้ไปที่คลีนิครักษาต่อไป…

สรุปคือ เจอกันโดยบังเอิญ…ทำบุญ ถวายเพลเสร็จ แยกย้ายกันกลับบ้าน หรือไปทำงานต่อ…แต่ก็อิ่มอกอิ่มใจ…สบายใจ…ใครไม่เชื่อลองไปทำบุญ ถวายเพลพระ ได้เลยนะเนี่ย…


28 มกราคม 2019