กินรำทำเพลงเดอะซีรี่ส “รำ” ตอนที่ 3

เกริ่นไว้ตอนท้ายของบันทึกเรื่องกิจกรรมสนุกๆของเพื่อนๆที่วัดเซาท์ซานฟราน ของ “รำ” ตอนที่แล้ว เขียนเสร็จพรรคพวกที่ได้อ่านผ่านเฟซบุ๊กของดิฉัน ต่างก็พากันเข้ามาช่วยกันเสริมว่า “กลุ่มป่าช้าแตกนี้” เขาเป็นวีไอพีตัวจริงของสังคมเชียวนะ ไม่ใช่เฉพาะที่วัดเซาท์นะคะ ชุมชนซานฟรานและเบย์แอเรียสมัยนั้นไม่มีใครไม่รู้จัก ฉบับนี้ จะขอบันทึกถึงชุมชนเบย์แอเรียอีกสักตอนนะคะ แต่ตอนนี้ออกจะเป็นบันทึกแบบเป็นทางการหน่อยไม่ได้สอดแทรกเรื่องเล่นๆ เพราะเป็นประวัติของสังคมที่นี่จริงๆ

การที่จะเล่าถึงสังคมไทยในเบย์แอเรียก่อนที่จะไปเล่าต่อถึงการออกมาสร้างวัดอีกวัดหนึ่งนั้น ก็ต้องโยงไปถึงสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคเหนือกันสักหน่อย เพราะว่าผู้นำของสังคมหลายๆ ท่านนั้น มีส่วนในการทะนุบำรุงและสร้างวัดหลายๆ วัดที่อยู่ในซานฟรานและเบย์แอเรียในปัจจุบันนี้

สมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคเหนือนี้ ก่อตั้งโดยนักศึกษาไทยที่เดินทางมาเรียนที่ซานฟรานซิสโกและเบย์แอเรีย ตั้งแต่ปี คศ 1955 หรือ พ.ศ. 2498 ในปีที่ดิฉันเดินทางมาตั้งรกรากอยู่อเมริกานั้น เป็นปีที่ ดร. เรือน สมณะ เป็นนายกสมาคม (น่าจะเป็นนายกสมาคมไทยคนที่ 14 ปี ค.ศ.1968 หรือ พ.ศ.2511) ตอนนั้นยังไม่มีวัดไทย ชุมชนไทยก็จะไปพบปะสังสรรค์ทำกิจกรรมร่วมกันใหญ่ๆ อยู่สองสามเรื่องในตอนนั้น คือ งานเฉลิมพระชนมพรรษา ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ ในรัชกาลที่ 9 ที่เราเรียกติดปากกันมาว่า งานคิงส์บอล”งานควีนส์บอล” และ งานฟุตบอลประเพณีระหว่างซานฟรานและแอลเอ

และเมื่อมีการสร้างวัดไทยแห่งแรกในเซาท์ซานฟรานนั้น ผู้คนที่เข้ามาทำบุญ ทำกิจกรรมด้านศาสนาและวัฒนธรรมนั้นก็จะมาจากสังคมในแวดวงสมาคมไทยเป็นส่วนใหญ่ ที่ดิฉันสนิทด้วยมากๆก็อาทิเช่น พี่น้อย บุญศิริ โด-นอม พี่สมประสงค์ ปรารถนาดี คุณหล่าน จารุภา คุณแดง อุไร คุณพี่ศุภนิต ละอองมณี คุณพี่สมเกียรติ พงษ์กัณฑา คุณวิสุทธิ-คุณเพลินใจ กุณฑีกาญจน์ คุณสุธรรม ส่งศิริ คุณบุญส่ง วิไลแก้ว คุณองอาจ เฉลยชีพ คุณพิศักดิ์ จักกะพาก เป็นต้น และที่เอ่ยถึงไม่หวาดไม่ไหวในหน้านี้อีกมากมาย ขออภัยหากไม่ได้เอ่ยถึง ก็มีบทบาทในการร่วมทนุบำรุงวัดมงคลรัตนาราม สมัยอยู่ที่เซาท์ ซานฟราน และทุกชื่อที่เอ่ยนามถึงต่างก็มีบทบาทสำคัญในสมาคมไทย บ้างก็ได้เป็นนายกสมาคมกันต่างเวลา ต่างวาระ เรื่องของสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคเหนือนี้น่าจะมีคนบันทึกถึงอย่างละเอียดให้เป็นอนุสรณ์ประวัติศาสตร์ของชุมชนไทยสืบต่อไป ดิฉันว่าจะไปยุยง (ส่งเสริม)ให้ คุณวัลลภ คชินทร รักษาการนายกสมาคมคนปัจจุบันให้เขียนดู คุณวัลลภ หรือในนามปากกา “ผู้เฒ่าหัวใจสะออน” คงจะเขียนให้อ่านในสไตล์สนุกๆ ได้ดีกว่าดิฉันค่ะ

ส่วนดิฉันนั้นก็วุ่นวายอยู่กับกิจกรรม “รำ” กับหลายกลุ่มหลายคน ได้รำกับ คุณเพลินใจ คุณอัจฉรา คุณสุวัฒนา คุณอัปสร คุณจารุภา และคุณศิริพร ตามแต่ละโอกาส สนุกสนานกับการฟ้อนรำ และมิตรภาพอันดีงามที่แม้ว่าภายหลังแล้วจะแยกย้ายกันไปต่างวัดด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ด้วยความรักในศิลปะเดียวกัน ทำให้ความผูกพันนั้นมิได้ห่างหายไปเลย คุณเพลินใจ คุณอัจฉรา และคุณสุนันท์ ( อัตนะ) ที่สอนรำมาตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันของวัดมงคลรัตนารามและดิฉัน ก็ยังทำงานและสนับสนุนกิจกรรมนาฏศิลป์ของชุมชนไทยในแคลิฟอร์เนียภาคเหนือมาจวบจนทุกวันนี้ และจะยังคงทำต่อไปเท่าที่สุขภาพจะอำนวยค่ะ

ฉบับนี้ก็คงจะขอม้วนจบลงตรงนี้ไปก่อนทิ้งท้ายไว้เพียงว่า เมื่อสังคมใหญ่ขึ้น กลุ่มใหม่เกิดขึ้น ทำให้มีทางเลือกเพิ่มขึ้นสำหรับชุมชน ใกล้ที่ใดไปที่นั่น กลุ่มใหม่ย้ายไปอยู่เมืองซันนี่เวลส์และในที่สุดมาจบที่เมืองฟรีมอนต์ กาลเวลาผ่านไปสามสิบกว่าปี ทั้งกลุ่มเก่าและใหม่ ณ บัดนี้ก็สามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายฆราวาสและฝ่ายสงฆ์ เคารพนับถือซึ่งกันและกัน ชมภาพประกอบจากการ “รำ” ของดิฉันร่วมกันในกลุ่มเพื่อนๆ ค่ะ

เมื่อสังคมไทยในซานฟรานและเบย์แอเรียก็มั่นคง บันทึกของดิฉันก็แฮปปี้เอ็นดิ้ง ไหมละคะ !!! ดังนั้นฉบับหน้า เรื่อง “รำ” ของกลุ่มดิฉันก็คงจะเริ่มเล่า ณ วัดไทยเมืองฟรีมอนต์ละนะคะ