ทนายความโจอี้
LAW CORNER WITH JC 19 ตุลาคม 2562

ประเด็นเจ้าของบ้านเช่า

ในบทความในสัปดาห์นี้ผมจะตอบคำถามอีเมลเกี่ยวกับปัญหาที่เจ้าของบ้านเช่าทั่วไปและคนเช่ามักจะมีคำถามกันเกี่ยวกับ เงินมัดจำ (Security Deposit) การมัดจำเงิน ในการเช่าอพาร์ทเมนท์/บ้าน/ห้องเช่า เจ้าของบ้านส่วนใหญ่จะต้องมีเงินมัดจำและลงนามใว้ในข้อตกลงก่อนที่จะมีการให้เช่า ดังนั้นจึงเป็นประโยชน์ที่ดีที่สุดของคุณที่เป็นผู้เช่าที่จะรู้ถึงสิทธนั้น


คำถามนี้มาจากคุณใหม่จาก Northridge, แคลิฟอร์เนีย:

Q: "คุณโจอี้: ดิฉันได้เช่าอพาร์ทเม้นมาประมาณ 2 ปีแล้วที่ Northridge ดิฉันได้บอกเจ้าของบ้านในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าดิฉันต้องการจะย้ายออกดังนั้นดิฉันจึงถามเรื่อง เงิน มัดจำ (Security Deposit) ว่าจะได้คืนหรือไม่ เขาบอกดิฉันว่าจะไม่ได้รับเงินคืน อย่างนี่ถูกต้องหรือคะ? เจ้าของบ้านมีสิทธิ์ ไม่คืนเงินมัดจำได้หรือคะ "


Security Deposit เงินมัดจำและการขอเงินมัดจำคืน

"เงินมัดจำ" เป็นจำนวนเงินที่นอกเหนือไปจากการเช่าหรือค่าเช่า (รวมถึง ค่าเช่าเดือนแรก ,ค่าธรรมเนียม, ฯลฯ)

ที่เจ้าของบ้านต้องการเมื่อเราเรื่มเช่าเป็นความคุ้มครองและครอบคลุมความเสีียหายที่อาจเกิดขึ้นกับที่พัก ระหว่างที่เราอยู่ที่นั่น ภายใต้กฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนีย, เงินมัดจำนั้นสามารถขอคืนได้ยกเว้นในบางสถานการณ์ที่จำกัด

สัญญาเช่าไม่สามารถเอ่ยได้ว่าการฝากเงินมัดจำนั้น "คืนไม่ได้" เพราะเมื่อผู้เช่าย้ายออกจากบ้านเจ้าของบ้านจะต้องคืนเงินมัดจำกลับไปยังผู้เช่า ยกเว้นเพียงในกรณีเจ้าของบ้านนั้นสามารถปฏิเสธที่จะคืนเงินมัดจำ เหตุนี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อเจ้าของบ้านจำเป็นที่จะต้องใช้เงินมัดจำนี้ไปใช้ในเรื่องอื่นเช่น:

(1) ใช้สำหรับค่าเช่าที่ติดค้างโดยผู้เช่า

อย่างเช่น: หากผู้เช่าย้ายออกและติดค่าเช่าเดือนสุดท้ายหรือไม่ว่าจะกี่เดือนของเขา เจ้าของบ้านสามารถใช้เงินมัดจำนี้ไปใช้เพื่อชำระค่าเช่าที่ติดค้างอยู่ หากจำนวนเงินมัดจำสูงกว่าค่าเช่าเจ้าของบ้านจะต้องคืนเงินที่เหลือ

ในทางกลับกันถ้าปริมาณที่ต้องชำระไม่พอค่า้เช่าที่ค้ายอยู่เจ้าของบ้านอาจยื่นเรื่องดำเนินการเรียกร้องค่าใช้จ่ายที่ขาดได้

(2) ใช้ในการทำความสะอาด/อพาร์ทเมนท์/บ้าน/ห้องเช่าเมื่อผู้เช่าย้ายออก (่เพื่อให้เหมือนเดิมกับที่ตอนผู้เช่า่ย้ายเข้ามาอยู่ตอนแรก)

อย่างเช่น: เมื่อผู้เช่าย้ายออกและทิ้งข้าวของ,ถุงขยะ,หรืออาหารสกปรกในอ่างล้างจาน เจ้าของบ้านสามารถหักจากีเงินมัดจำเป็นจำนวนเท่ากับที่จะต้องจ่ายให้คนทำความสะอาด

(3) เพื่อทำการซ่อมแซมที่เกิดจากผู้เช่าที่ไม่ใช่การสึกหรอตามปกติ

อย่างเช่น: หลังจากที่ผู้เช่าได้ย้ายออกจากอพาร์ทเมนท์/บ้าน/ห้องเช่าเจ้าของบ้านเข้าไปในห้องและเห็นว่าหน้าต่างและประตูพัง ความเสียหายนี้ไม่ต้องสงสัยเลยครับเพราะว่า เห็นได้ว่าอันนี้ไม่ใช่การสึกหรอตามปกติและดังนั้นเจ้าของบ้านจึงสามารถใช้เงินมัดจำนี้สำหรับการซ่อมแซมสิ่งที่จำเป็น - เช่นการซื้อหน้าต่างใหม่หรือ่ประตูใหม่และค่าใช้จ่ายอื่นใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานนี้

(4) หากมีข้อตกลงอื่นๆสำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อม / เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์, กุญแจหรือรายการทรัพย์สินส่วนบุคคลอื่น ๆ

อย่างเช่น: สมมติว่าก่อนที่จะเช่าอพาร์ทเมนท์/บ้าน/ห้องเช่าได้มีการตกลงว่าที่ที่เราจะอยูได้รับการตกแต่งด้วยโซฟา/เตียง/ตู้เย็น/โต๊ะ ในสัญญาเช่ามีสัญญาผูกมัดผู้เช่าให้รับพิดชอบค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการซ่อม หรืออาจจะมีการตกลงที่ต้องเปลี่ยนของที่ได้รับความเสียหายอะไรบ้างหรือไม่ หากเมื่อเจ้าของบ้านตรวจสอบห้องหลังจากที่ผู้เช่าย้ายออกเขาสังเกตเห็นว่าที่นอนถูกฉีกขาดและประตูตู้เย็นเสียหรือ หลุดเหมือนโดนดึงออก เจ้าของบ้านมีสิทธิที่จะใช้เงินมัดจำที่มีอยู่มาใช้ในการซ่อมหรือซื้อตู้เย็นและที่นอนใหม่

กฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียจำกัดค่ามัดจำ


จำนวนค่ามัดจำนั้นมีวงเงินจำกัดสำหรับเจ้าของบ้าน

สำหรับอพาร์ทเมนท์/บ้าน/ห้องเช่าที่ไม่มีการตกแต่ง: เงินมัดจำนั้นห้ามเกิน 2 เดือนของค่าเช่า

สำหรับห้องที่ตกแด่งเรียบร้องพร้อมอยู่ (Furnished Apartments): เงินมัดจำนั้นห้ามเกิน 3 เดือนของค่าเช่า

อย่างเช่น: ผู้เช่าตกลงที่จะให้เช่าอพาร์ทเมนท์/บ้าน/ห้องเช่าพร้อมเฟอร์นิเจอร์จากเจ้าของบ้านราคา $ 2,500 ต่อเดือน เงินมัดจำสูงสุดที่เจ้าของบ้านสามารถเรียกร้องจากผู้เช่านั้นคือ $ 2,500 x 3 = 7,500 $ (หากมีที่นอนเป็นเตียงน้ำ (water bed) ้เจ้าของบ้านสามารถเรียกร้อง $ 2,500 x 3.5 = $ 8,750)

A: สำหรับคำตอบของอีเมลคุณใหม่ - หากคุณไม่ได้เป็นหนี้ค่าเช่าของเดือนสุดท้ายหรื่อค่าเช่าใด ๆ ในอดีตเจ้าของบ้านจะต้องคืนเงินมัดจำของคุณ (ลบจำนวนเงินใด ๆ ที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมความเสียหายที่อยู่นอกเหนือการสึกหรอตามปกตที่เกิดจากคุณ) เพื่อที่จะเพิ่มโอกาสของการได้รับเงินมัดจำของคุณคืนผมแนะนำให้คุณเก็บกวาดทำความสะอาดเอาของส่วนตัวทุกอย่างรามทั้งขยะออกจากอพาร์ทเม้นของคุณ้และถ้ามีอะไรเสียก็จัดการซ่อมแซมก่อนที่จะย้ายออกจากอพาร์ทเมนท์นะครับ หากเขาไม่มีเหตุผลที่จะหักเงินค่ามัดจำปกติแล้วเราจะต้องได้คืนนะครับ


ถ้าคุณมีคำถามใดๆที่ต้องการที่จะได้รับการตอบในบทความในอนาคตหรือถ้า อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ กฏหมายทั่วไป Immigration, Business, Property, และอื่นๆ โปรดติดต่อ ส่งอีเมลมาที่: JC4LAW@HOTMAIL.COM โทรเข้าออฟฟิสได้ที่เบอร ์(818) 846-5639 หรือผู้ช่วยทนาย ได้ที่เบอร์ (818) 505-4921 หรือท่านสามารถเข้าไปที่ website ของเราได้นะครับ มีทั้งภาษาไทย และ อังกฤษที่ : WWW.JC4LAW.COM และ FACEBOOK at: https://www.facebook.com/ThaiAttorney


Disclaimer: The information contained herein have been prepared for informational purposes only and are not to be considered legal advice unless otherwise specified. If you have a specific question regarding your personal case, please contact the Law Offices of Joseph Chitmongran for a full consultation.