วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) คุณล่ะพร้อมหรือยัง?

จากเหตุการณ์มหาวิปโยคโรคระบาดโควิด-19 ในรอบ 100 ปีของโลก ทำให้มีคนตายล่าสุดในวันที่ 7-20-2020 (World Health Organization, WHO) มีผู้ติดเชื้อถึง 14,562,550 ราย มีผู้เสียชีวิต 607,781 คน ใน 216 ประเทศ และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าวัคซีนจะออกมาเมื่อไร แต่อย่างน้อยก็คงถึงสิ้นปีแน่นอน เรามาดูสถิติวันที่ 7-21-2020 ใกล้ตัวหน่อย ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งได้ครองแชมป์ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของประเทศอเมริกา ที่มีคนติดเชื้อสะสมถึง 409,000 ราย ตรวจพบผู้ติดเชื้อเฉลี่ยวันละ 10,000 คน น่าเป็นห่วง ส่วนในแอลเอเคาน์ตี้ มีผู้ติดเชื้อ 161,673 ราย มีผู้เสียชีวิต 4,154 คน (วันเดียวติดเชื้อ 2,741 คน ตาย 50 คน) แอลเอเคาน์ตี้มีประชากรประมาณสิบกว่าล้านคน

ธุรกิจที่ไม่จำเป็นถูกคำสั่งจากผู้ว่าการรัฐฯ ให้ปิด เพื่อระงับการระบาด แต่กลับไม่เป็นผล ด้วยมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นแทนที่จะลด จนมีการสั่งให้มีมาตรการลงโทษ ดำเนินคดีกับเจ้าของธุรกิจที่ฝ่าฝืน มีโทษทั้งจำและปรับ และประชาชนที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดปากจมูกในที่สาธารณะ ก็จะถูกจับปรับ เมื่อธุรกิจถูกปิด คนงานก็ไม่มีรายได้ ตกงานกันทั่วหน้า มีการตั้งกลุ่มในชุมชนไทย “สร้างงาน สร้างเงิน” ในไลน์แอป ที่มีสมาชิกกว่าสามร้อยสี่สิบคน มีการเสนอขายสินค้าสารพัดชนิด ทั้งผัก ผลไม้ ยาสมุนไพร โดยเฉพาะอาหาร ที่เพิ่งรู้ว่า เรามีแม่ครัวพ่อครัวขั้นเทพมากมาย หันเหจากอาชีพนวด มาเป็นแม่ค้าขายอาหารที่น่ารับประทาน ได้ดีเยี่ยม อร่อยสุดๆ ราคายุติธรรม ผมขอเป็นกำลังใจ เก่งที่สามารถค้นพบศักยภาพบางอย่างในตัวเอง สร้างรายได้ทดแทน เป็นนายตัวเอง

สัปดาห์นี้ มาคุยกันเรื่องสบายๆ แต่เป็นเรื่องที่ทุกๆ คนให้ความสนใจ เพราะใครล่ะไม่อยากจะร่ำรวยเป็นเศรษฐีเงินล้านบ้าง แต่ทำงานเท่าไร หาทำการค้าอะไรก็ไม่เห็นรวย เป็นลูกจ้างก็ตกงาน จากบทความนิตยสาร Business Insider ธุรกิจคนวงใน นาย โทมัส โคเลย์ (Thomas C. Corley) ใช้เวลาวิจัยค้นหาความจริงจากนิสัยของเศรษฐีเจ็ดหลัก ซึ่งเป็นเศรษฐีเงินล้านที่รวยได้ด้วยตนเอง (Self-Made Millionaire) นายโทมัส ยังกล่าวว่า การเปลี่ยนนิสัยของเรา ก็สามารถเปลี่ยนผันชีวิตได้ ตามที่เขาวิจัย และได้จัดพิมพ์เป็นหนังสือชื่อว่า “Change Your Habits, Change Your Life” กล่าวว่าทุกอย่างเกิดขึ้นจากเหตุและผล ซึ่งก็ตรงกับพุทธศาสนาของเราที่ว่า ทุกสิ่งไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ หรือเป็นเรื่องบังเอิญ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเรา ล้วนมีเหตุที่ทำให้เกิดขึ้นทั้งสิ้น

นายโทมัสสรุปว่า นิสัยคนเราเป็นเหตุที่สามารถให้ผลต่อเราในหลายๆ ด้าน เช่น ความรวย ความจน ความสุข ความเศร้า ความเครียด ความสัมพันธ์ที่ดี หรือไม่ดีต่อกัน สุขภาพดีหรือไม่ดีได้ ข่าวดีคือ นิสัยต่างๆ ของคนเรานั้น สามารถแก้ไข เปลี่ยนกันได้ จึงเป็นที่มาที่จะเล่าสู่กันฟัง ถึงนิสัยของคนรวย (Rich Habits) ว่าเขาทำอะไรกันบ้างนะครับ


ลักษณะนิสัย และวินัยพิเศษ บ่งบอกของคน (จะ) รวย!

1. เศรษฐีชอบอ่านเป็นประจำ (They read consistently)

เขายกตัวอย่าง นายบิล เกตส์ (Bill Gates) หนึ่งในผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ รวยติดอันดับต้นๆ ของโลก จากการจัดอันดับของนิตยสาร “ฟอบส์” Forbes นายโทมัสพบว่า 88% ของคนรวย อ่านหนังสือเพื่อเสริมความรู้ พัฒนาตัวเอง อย่างน้อยวันละ 30 นาที ผลการวิจัยพบว่า คนรวยชอบอ่านเรื่องชีวประวัติของผู้ที่ประสบผลสำเร็จ การพัฒนาบุคลิก และเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์

2. เศรษฐีชอบออกกำลังกาย (They exercise)

อันนี้พบว่า 66% ของเศรษฐีจะออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที การเดิน การวิ่ง ขี่จักรยาน การเต้นรำ ว่ายน้ำ เป็นต้น ล้วนเป็นการออกกำลังกายที่มีการสูบฉีดเส้นเลือดหัวใจ นอกจากช่วยให้ร่างกายดีแล้ว ยังจะช่วยบำรุงเซลส์สมอง เพิ่มตัว Glucose น้ำตาลกลูโคส ซึ่งเหมือนกับเชื้อเพลิงในสมอง

3. เศรษฐีชอบคบหาสมาคมกับคนที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน (They hang out with other successful people)

คุณจะสำเร็จด้วยเพราะคนรอบข้างที่ประสบความสำเร็จ เพราะมีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้อยู่ตลอดเวลา ชอบคบคนที่มีความเชื่อมั่นสูง มีเป้าหมายชัดเจน (Goal-Oriented) จะไม่ชอบคบหาสมาคมกับคนที่มีความคิดที่เป็นไปในทางลบ ผมขอยกตัวอย่าง คนที่เห็นแก้ว 1 ใบ มีน้ำอยู่ครึ่งแก้ว... แต่คนเรากลับเห็นแตกต่างกัน บางคนบอกเห็น มีน้ำแค่ครึ่งแก้ว (เอง) ส่วนบางคนกลับมองว่าน้ำเต็มครึ่งแก้ว (แล้ว) ตามสำนวนอเมริกันที่ว่า “Is the glass half empty or half full?” บางคนจะเห็นว่าเป็นปัญหา (Half Empty) แต่คนรวยเขาเห็นเป็นโอกาสที่จะรีบนำน้ำมาเติมให้เต็มแก้ว (Half Full) เขาพลิกวิกฤตเป็นโอกาสเสมอ (Optimist VS. Pessimist) มองในแง่ดี หรือ แง่ร้าย

4. เศรษฐีตั้งใจทำอะไรแล้ว จะไม่ลดละความพยายาม (They pursue their own goals)

คนรวยจะมีจุดมุ่งหมายว่า จะต้องทำอะไรที่ชอบ ที่ใฝ่ฝัน (Passion) ต้องเป็นเถ้าแก่ให้ได้ บางครั้งผิดพลาดก็ลุกขึ้นมาสู้ใหม่ เพราะถือเป็นบทเรียน ทำอะไรที่ใจรักแล้ว มีความสุขกาย สุขใจ ยิ่งทำก็ยิ่งสุข เศรษฐีบางคนทำงานถึงตี 3 อาทิตย์ละ 6 วัน

5. เศรษฐีจะตื่นเช้า (They get up early)

เกือบ 50% ของเศรษฐีเงินล้านทั้งหลาย จะตื่นนอน 3 ชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มทำงาน เขาจะวางแผนก่อนว่าจะทำอะไรก่อน/หลัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนบริหารเวลา ไม่ใช่ให้เวลามาบริหารเรา ขอเติมคำสอนจากครูฝึกตำรวจว่า ถ้าใครที่อยากจะจบเป็นตำรวจ ต้องมีนิสัย 2 อย่างคือ Be Prepared and Be on Time!! ต้องมีความพร้อม และตรงต่อเวลา

6. เศรษฐีมีรายได้จากหลายๆ แหล่ง (They have multiple sources of income)

65% ของคนรวยมีรายได้จากแหล่งต่างๆ อย่างน้อย 3 แห่ง ก่อนที่จะมาเป็นเศรษฐีเงินล้าน ตัวอย่าง มีรายได้จากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ การลงทุนธุรกิจอื่นๆ ที่ตนชอบและมีความรู้ในธุรกิจนั้นๆ

7. เศรษฐีมีที่ปรึกษาหรือครู แนะนำคุยแลกเปลี่ยน (They find and check in with mentors)

ที่ปรึกษาไม่เพียงแต่ให้ความคิดสร้างสรรค์ เขาเหล่านั้นยังเล่าประสบการณ์จากบทเรียนที่ได้จากการทำงาน การเรียน เหตุการณ์จริง ช่วยให้คนรวยสะสมความรู้จากการฟังเรื่องราว ประสบการณ์ต่างๆ เพื่อการดำเนินชีวิตของตัวเอง เป็นนักธุรกิจที่จะได้ไม่ทำผิดพลาดเหมือนคนทั่วๆ ไป

8. เศรษฐีเป็นคนคิดบวกเสมอ (They are positive people)

เขาวิจัยจาก นาย Mark Cuban เศรษฐีหลายพันล้าน เจ้าของทีมบาสเก็ตบอล NBA Dallas Mavericks เขาบอกว่า คุณจะประสบความล้มเหลวกี่ครั้งนั้นไม่สำคัญ แค่ขอให้คุณถูกเพียงครั้งเดียวก็พอ... “It does not matter how many times you failed, you only have to be right once.”

9. เศรษฐีจะไม่ตามจ่าฝูง (They don’t follow the herd)

ก็เปรียบเทียบว่า คนส่วนใหญ่จะอยู่รวมๆ กัน แต่คนรวยเป็นผู้นำ ผู้เห็นต่าง จะแยกออกมาตั้งฝูงชนของเขาเอง จะเลือกเฟ้นคนที่มีความคิด อุดมการณ์ มาอยู่ด้วยกัน เพราะถ้าอยู่ร่วมกับฝูงอื่นๆ ก็ดีแต่ตามเขา คนส่วนใหญ่ก็จะไม่ประสบผลสำเร็จด้วยตัวเอง ไม่สามารถพัฒนาศักยภาพที่ตนมีอยู่

10. เศรษฐีเป็นคนมีมารยาท สุภาพ ถ่อมตน (They have good etiquette)

จะไปงานที่สำคัญเท่านั้น เช่น งานแต่งงาน วันเกิด แต่งตัวตามความเหมาะสมของงาน มีมารยาทในการรับประทานอาหาร

11. เศรษฐีจะช่วยคนอื่นให้ประสบผลสำเร็จด้วย (They help others succeed)

คนรวยเขาจะช่วยคนที่มีความขยัน คนที่มีความมั่นใจในการทำงาน เป็นคนที่มีความกระตือรือร้น คิดบวก เพราะเขาคิดว่า ถ้าช่วยคนให้ประสบผลสำเร็จ ก็จะส่งเสริมความสำเร็จให้กับตัวเองด้วย เป็นสมาชิกในกลุ่มเดียวกัน

12. เศรษฐีจะอุทิศเวลาอย่างน้อย 15 ถึง 30 นาที ทุกวันในการคิดนั้นคิดนี่ (They dedicate 15 to 30 minutes a day to just thinking)

ความคิดเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จ คนรวยจะอุทิศเวลาคิดโดยลำพังในตอนเช้า หรือดึกๆ คิดหาวิธีใหม่ๆ ที่จะหาเงินมาเพิ่ม สร้างรายได้ ได้อย่างไร ปรับปรุงแก้ไขการค้าให้ดีขึ้นอย่างไร ติดตามข่าวสารคู่แข่งตลอดเวลา

13. เศรษฐีรับฟังคำเสนอแนะต่างๆ (They seek feedback)

คนที่กลัวคำวิจารณ์ หรือข้อเสนอแนะ เป็นเหตุผลหนึ่งที่คนส่วนใหญ่รับไม่ได้ แต่คำวิจารณ์เป็นครูที่จะบอกกับเราได้ว่า อะไรที่คนชอบ หรือไม่ชอบ เป็นส่วนประกอบของการเรียนรู้ และขยายความคิดอ่าน เพื่อใช้ในการปรับปรุงแก้ไขกลยุทธ์ ให้ธุรกิจเจริญเติบโตอย่างมั่นคง และถาวร

ครับ อ่านแล้วก็ลองมาดูตัวเองว่า เรายังขาดคุณสมบัตินิสัยข้อไหน รีบๆ แก้ไขปรับเปลี่ยนนิสัย ตามวิถีชืวิตใหม่ ทัศนคติ ทุกอย่างเปลี่ยนได้นะ ค่อยเป็นค่อยไป มันอยู่ที่เราต่างหากล่ะครับ รักษาสุขภาพก่อน และเราจะชนะโรคร้ายต่างๆ ไปด้วยกันนะครับ


โชคดีครับ