เนื่องด้วยท่านสมาชิกวุฒิสภาของรัฐแคลิฟอร์เนีย เขต 20 ครอบคลุม Burbank และ San Fernando Valley (California 20th State Senate District) แคโรลายน์ เมนจิว่าร์ เข้าพบปะหัวหน้าชุมชนไทยและกงสุล ที่วัดไทยลอสแองเจลิส ณ อุโบสถชั้น 2 เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2025 ที่ผ่านมา ในเวลา 14.00 น.
ประวัติส่วนตัว แคโรลายน์ เธอเป็น First generation อเมริกันรุ่นแรก เกิดในปี 1989 โดยมีพ่อแม่เป็นชาวเอลซัลวาดอร์ อเมริกากลาง เธอเกิดและเติบโตมาในเขตลอสแอนเจลิส ชุมชนละแวก Encino, Reseda ได้เข้าเรียนปริญญาตรี สาขาสังคมวิทยา (Sociology) ที่ California State University, Northridge (CSUN) 2013-2015 และ ปริญญาโท สาขาสวัสดิการสังคม (Social Welfare) ที่ University of Los Angeles (UCLA) 2016-2018 ซึ่งขณะเรียนอยู่ ได้มีโอกาสทำงานเป็น EMT Emergency Medical Technician ใน Van Nuys จึงได้เห็นช่องโหว่การบริการด้านสุขภาพ สุขภาพจิต ที่พักพิงสำหรับเหยื่อที่ได้รับความรุนแรงในครอบครัว การรับการบำบัดของผู้ติดยาเสพติดในระยะสั้นและระยะยาว
เธอจึงมีประสบการณ์ต่างๆ จากที่เคยทำงานในสำนักงานนายกเทศมนตรีแอลเอ ในทีมความเท่าเทียมทางเพศ และเป็นจิตอาสาในคณะทำงาน Board of Gay, Lesbian, and Straight Education Network (GLSEN) ให้คำแนะนำสำหรับเครือข่ายแลกเปลี่ยนแบ่งปันความรู้ในการศึกษาและแก้ไขปัญหา และมีโอกาสทำงานกับตำรวจแอลเอในกรณีช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรงในครอบครัวในเขต San Fernando Valley เธอจึงเพรียบพร้อมด้วยประสบการณ์ตรง รับรู้ สัมผัส ฟัง เห็น จากการลงสนาม ลงท้องถนน จึงเห็นถึงปัญหาต่างๆ ที่เตรียมให้เธอพร้อมมาเป็น State Senator เพื่อดูแลทุกข์สุขของประชาชนในเขตของเธอได้อย่างมีผลงานและประสิทธิภาพ ทำให้เธอมีวิสัยทัศน์กว้างไกล เสนอร่างกฎหมายต่างๆ หลายฉบับ เพื่อประโยชน์สุขของพลเมืองในด้านต่างๆ
ในช่วงหนึ่งของชีวิต ในปี 2008 ครั้งเธออายุได้ 18 ปี เกิดการถดถอยของเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา ครั้งใหญ่ที่เริ่มจากปลายปี 2007 เกิดวิกฤตการเงิน The Great Recession ที่รุนแรงมากจากฟองสบู่แตกในตลาดอสังหาริมทรัพย์ จากการให้สินเชื่อซับไพรม์แก่ผู้กู้แม้มีความเสี่ยงสูง จึงเกิดปัญหาการผิดชำระหนี้ ส่งผลต่อระบบการเงินทั่วโลก ซึ่งในครั้งนั้นทำให้ครอบครัวได้ถูกขับไล่ออกจากบ้าน
ความฝันครั้งแรกในชีวิตการงานคือการสมัครเป็นนักดับเพลิงของแอลเอ แต่ช่วงเศรษฐกิจถดถอยนั้นมีการระงับการจ้างงาน เธอจึงตัดสินใจเข้าร่วมทำงานกับ U.S. Marine Corps ในปี 2009-2016 และศึกษาต่อในระดับ ป.ตรี และ ป.โท
จากการเลือกตั้งเบื้องต้น Primary ของ State Senate 20th District เมื่อ 7 มิถุนายน ปี 2022 ของพรรคเดโมแครต เธอได้ลำดับที่สอง 29.76% และลำดับที่หนึ่งก็เฉียดฉิว ชนะเธอที่ 30.82% ก่อนเข้าชิงตำแหน่งในการเลือกตั้งใหญ่ในเดือนพฤศจิกายน 2022 ซึ่งเธอชนะขาดลอยด้วย 58.46% และเข้าสาบานตนดำรงตำแหน่ง State Senator เขต 20 ตั้งแต่ วันที่ 5 ธันวาคม 2022 ในวาระครั้งละ 4 ปี (สูงสุดถึง 3 เทอม รวม 12 ปี)
เขตนี้รวมถึงชุมชนเมืองต่างๆ คือ Burbank, Canoga Park, Lakeview Terrace, Mission Hills, Pacoima, Panorama City, Reseda, San Fernando, Sun Valley, Sunland-Tajunga, Sylmar, Van Nuys ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีมากที่ก่อนจะหมดวาระในอีก 1 ปีข้างหน้า เธอเข้าหาชุมชนไทย ซึ่งเธอเป็นคนแอลเอโดยกำเนิด จึงคุ้นเคยกับเมืองต่างๆ และเธอภูมิใจมากที่เป็น LGBTQ+ คนแรกที่ชนะเลือกตั้งในเขต District 20 และ San Fernando Valley ในตำแหน่งนี้
ปัจจุบัน อาศัยอยู่เมือง Panorama City ใกล้วัดไทย มา 5 ปีแล้ว สถานภาพครอบครัวแต่งงานแล้ว ภรรยาชื่อ จอยซ์ลิน ทาเปีย Joycelyn Tapia เป็นนักบำบัดคู่สมรสและครอบครัว (Marriage and family therapist) พร้อมสัตว์เลี้ยงสุนัข 2 ตัว
การพบปะชุมชนไทยครั้งนี้ มีตัวแทนสมาคมต่างๆ อาทิ นายกสมาคมไทยอเมริกันแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้/คุณคิด ฉัตรประภาชัย นายกสภาไทยทาวน์/คุณโอภาส มะลิพันธุ์ นายกสมาคมนวดไทยและสปาแห่งสหรัฐอเมริกา/คุณเจริญพร แฮกเกอร์ นายกสมาคมหอการค้าไทย/คุณอรวรรณ กิจจาพิพัฒน์ และผู้นำชุมชนท่านอื่นๆ พร้อมด้วยกงสุล 2 ท่าน คือ นาย ภาวัสส์ เรืองวิชาธร (กงสุลต้อง) และ นางสาว ลลนา ศรีสอน (กงสุลแนน) และคณะสงฆ์วัดไทย พร้อมคณะครูอาสา
ในการมาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทางชุมชนไทยต้องการเห็นความร่วมมือและความช่วยเหลือในด้านต่างๆ การรับบริการด้านสุขภาพ ข้อมูลสำหรับสถานภาพอยู่อาศัยอย่างไม่ถูกกฎหมาย เกิดผลกระทบขอต่ออายุกับเมดิแคร์รักษาพยาบาลในการประกันสุขภาพไม่ได้ (สูงวัย 65+) ข้อมูลการแจ้งยื่นภาษีแบบลูกจ้าง (W2) หรือผู้รับจ้างอิสระ (1099) ในกรณีอาชีพนวด ปัญหาผู้ไร้บ้านที่ส่งผลถึงร้านค้า ชุมชน และความปลอดภัย การยื่นขอวีซ่าของครูอาสาที่มาสอนในภาคฤดูร้อนที่วัดไทย และประเด็นอื่นๆ ที่หยิบยกมาพูดคุย
ปัญหาบางอย่างที่กล่าวถึงเป็นระดับรัฐบาลกลาง คือ Federal ไม่ใช่ระดับรัฐ State เธอจึงไม่มีอำนาจสั่งการหรือให้ความช่วยเหลือได้ แต่ถ้าอยู่ในขอบเขตรับผิดชอบของ State ก็ยินดีให้ความสนับสนุน
โดยสรุป เธอจะทำงานประสานกับทางสมาคมไทยอเมริกันฯ ในการช่วยเหลือ ให้ความรู้ บริการต่างๆ
1. การให้ข้อมูล Rights of Immigrants จากทนาย Attorney & INS. Advocate
2. การให้บริการคลินิกตรวจสุขภาพทั่วไป และบริการด้านสุขภาพจิต
3. การมาให้ความรู้ ร่วมกับ EDD ถึงการยื่นแจ้งภาษีตามบริบทของสถานะ ลูกจ้าง W2 หรือ ผู้รับจ้างอิสระ Independent Contractor 1099
4. การจัดสัมมนาการทำพินัยกรรม แบบ Living Trust vs. Will
ซึ่งเธอเสนอว่ามาตั้งโต๊ะแบบง่ายๆ ให้ข้อมูลต่างๆ ในวันเสาร์อาทิตย์ที่วัดไทยได้ แต่หากจะมาจัดสัมมนาซึ่งกำหนดว่าจะจัดที่วัดไทยแอลเอ โดยคุณคิด ฉัตรประภาชัย นายกสมาคมไทยอเมริกันแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ จะประสานงานดูความเร่งด่วนและความพร้อมของทั้งสองฝ่าย เพื่อโอกาสมานำเสนอสิ่งดีๆ ที่เป็นประโยชน์กับชุมชนไทยในเขตแอลเอและปริมณฑล ณ วัดไทยลอสแองเจลิส โดยการสนับสนุนจากท่าน สว.รัฐฯ แคโรลายน์ เมนจิว่าร์
เธอได้แนะนำด้วยว่าสำหรับผู้ที่อยู่ผิดกฎหมายและอายุ 65 ปีขึ้นไป ให้สมัครหรือต่ออายุเมดิแคร์ภายในก่อนสิ้นปี 2025 นี้ จะไม่มีการได้รับการปฏิเสธ ส่วนเรื่องของอนาคต ค่อยว่ากันอีกที ส่วนเรื่องเอกสารสิ่งพิมพ์ของบางหน่วยงาน เช่น เกี่ยวกับสุขภาพ เมดิแคร์ จะได้พิจารณาให้มีการแปลเป็นภาษาไทยตามความเหมาะสม ซึ่งเธอก็ได้รับแจ้งจากเราว่าในอดีตเราเคยมีสมุดคู่มือของกรมสรรพากร สรรพสามิต Board of Equalization (ปัจจุบันเรียกว่า Tax and Fee Administration) สำหรับผู้ประกอบธุรกิจ ที่เคยแปลเป็นภาษาไทย เช่นกัน
หลังจบการพูดคุย คณะสงฆ์ได้สวดอวยพรให้เธอ พร้อมมอบของที่ระลึกให้ เป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรี เพื่อการทำงานร่วมกันเพื่อชุมชนไทย หลังจากนั้นจึงถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก
โดย ลีนา ดีสมเลิศ