Special Scoop



ชุมชนไทยในสหรัฐฯ จะได้อะไรจากรัฐบาลว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

วันที่ 8 พ.ย. 2016 เป็นวันประวัติศาสตร์จากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ ทั้งๆ ที่โพลล์ทุกแห่งก็บ่งบอกคะแนนนำของนางฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครตว่าจะชนะขาดลอยแน่นอน

แต่ด้วยสัจธรรมที่ว่า “ความแน่นอนที่แท้นั้นก็คือความไม่แน่นอน” เมื่อนายทรัมป์ นักธุรกิจวัย 70 ปี จากพรรครีพับลิกัน ช็อคคนทั่วโลก โดยได้รับชัยชนะประมาณตอนตี 2 ด้วยคะแนนเสียงอิเล็คโทรัลโวท 278 (Electoral Votes) ทิ้งห่างนางฮิลลารีที่มีคะแนนเพียง 218 สลัดความเชื่อมั่นในตัวฮิลลารีลงอย่างสิ้นเชิง

มาดูนโยบาย…ที่ทำให้นายทรัมป์สามารถชนะในรัฐต่างๆ เช่นรัฐโอไฮโอ Ohio, เพนชิลเวเนีย Pennsylvania, มิชิแกน Michigan ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครตมาตั้งแต่ปี 1984 กลับมาเทคะแนนเสียงให้นายทรัมป์ รวมถึงรัฐฟลอริด้า Florida

สโลแกนของนายทรัมป์ที่ว่า “Make America Great Again” ฟังง่าย เข้าใจได้ทันที และนโยบายของเขาที่เด่นชัดคือเรื่องการรณรงค์ชาตินิยม (Nationalist) ซื้อใจคนขาวและชนชั้นกลางได้ถึง 93% และยังได้คะแนนเสียงจากคนผิวดำ ชาวฮิสแปนิคส์ ชึ่งพวกคนเหล่านี้ที่เทคะแนนให้นั้นชอบการพูดตรงๆ แบบขวานผ่าชาก เพราะพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากนโยบายของนายบารัค โอบามา มา ถึง 8 ปี โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ คนตกงานจากการที่บริษัทต่างๆ สู้ค่าจ้างแรงงานไม่ไหว ภาษีที่สูงลิ่ว การบังคับให้ทุกคนต้องมีประกันสุขภาพ (Obama Care) ซึ่งค่าพรีเมี่ยมก็เพิ่มขื้นมาโดยตลอด และกฎระเบียบที่บังคับเพิ่มมากมายกับการทำธุรกิจในสหรัฐฯ จนบริษัทผลิตรถยนต์อย่าง Ford, GM, VW, Toyota ต้องหนีไปเปิดโรงงานกันที่ประเทศเม็กซิโกแทน โดยได้ค่าแรงที่ถูกกว่า มีสนธิสัญญาลดหย่อนภาษีจาก NAFTA แล้วนำสินค้ากลับเข้ามาขายในสหรัฐฯ แถม เสียภาษีที่ถูกกว่า และยังปัญหาคนต่างชาติที่หนีเข้าเมือง มาแย่งงานคนอเมริกันกว่า 11 ล้านคน

ชึ่งหนึ่งในนโยบายของนายทรัมป์ ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจชาวอเมริกันส่วนหนึ่งคือ การสร้างกำแพงกว่า 3,000 ไมล์ที่ต้องใช้งบประมาณถึงกว่าหนึ่งหมื่นสามพันล้านเหรียญ จากทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย จนถึงอริโซน่า นิวเม็กซิโก และเท็กซัส เพื่อยับยั้งการหนีเข้าประเทศของกลุ่มชาวลาติน ซึ่งสถิติในตอนนี้คือมาจากประเทศ 1. El Salvador 2. Honduras 3. Mexico


ผมขอสรุปนโยบายใหญ่ ๆ ของนายทรัมป์ คือ

1) สกัดกั้นไม่ให้ต่างชาติเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย หรือแม้แต่พวกอพ ยพชาวมุสลิม อิสลาม ที่มาจากประเทศทางตะวันออกกลางโดยการขอลี้ภัย จนกว่าจะมีมาตรการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดเสียก่อน และจะของบการสร้างกำแพงล้อมตัวเองกว่า 3,000 ไมล์ ระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศเม็กซิโก โดยบอกว่าเม็กซิโกจะเป็นคนจ่ายค่ากำแพงเสียอีก สร้างความพอใจให้กับคนผิวขาว คนรากหญ้า โดยเฉพาะพวกตกงาน เพราะอเมริกามีคนเถื่อนอยู่ถึง 11-13 ล้านคน

2) จะยุติหรือเปิดการเจรจาใหม่กับสนธิสัญญาว่าด้วยการค้าเสรี NAFTA, TPP (Trans Pacific Partnership) ทรัมป์ต้องการยุติการเอารัดเอาเปรียบจากประเทศคู่ค้า เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ที่ได้ประโยชน์แต่ข้างเดียว ได้ประโยชน์มหาศาลไม่รู้จักจบสิ้น ทำให้คนตกงานมาก สังคมก็แย่ คดีอาชญากรรมเพิ่มขึ้นในหลายสิบเมือง

3) ทรัมป์มีนโยบายให้ประเทศต่างๆ ที่สหรัฐฯ ได้ช่วยเหลือทางด้านทหาร ความมั่นคง ว่าต้องจ่ายส่วนต่างเพื่อให้สมดุลและยุติธรรม (Fair Share) เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และกลุ่มในประเทศของ NATO (สนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ) โดยสหรัฐฯ จะไม่โอบอุ้มอีกต่อไป ทรัมป์จะเพิ่มงบประมาณทางทหารให้เข้มแข็งขึ้น เพิ่มสวัสดิการให้ทหารผ่านศึกดีขึ้น โดยเฉพาะดูแลการประกันสุขภาพของพวกทหาร

4) ปัญหาเงินมหาศาล 4 Trillions ที่เป็นของบริษัทในสหรัฐฯ ที่ฝากใน ต่างประเทศนั้น จะถูกเรียกให้นำเงินกลับมาลงทุนในประเทศให้หมด วางนโยบายการลดภาษีธุรกิจจาก 35% ให้เหลือ 15%

5) นโยบายอีกอันหนึ่งคือที่ประชาชนชื่นชมคือ เรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาตินั้น อเมริกาต้องมาก่อน “America First”

6) นโยบายที่จะมีการจับคนเถื่อนที่มีประวัติอาชญากรรม โดยให้เนรเทศออกนอกประเทศ ซึ่งมีกว่า 3 ล้านคนจากในจำนวน 11 ล้านคน โดยการเพิ่มเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นและช่วยในการเร่งทำเรื่องการขอเข้าอเมริกาอย่างถูกกฎหมาย

7) เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะจำกัดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาคองเกรส (ปัจจุบันเป็นได้ตลอดไม่มีกำหนดวาระ Term- Limit)

8) สนับสนุนการสร้างงานโดยการเพิ่มงบประมาณในการสร้าง และปรับปรุงคมนาคม ทุกรูปแบบทั่วอเมริกา

9) ยับยั้งการจ้างเจ้าหน้าที่ของรัฐเพิ่มทุกกระทรวงฯ โดยจะลดหน่วยงานที่ไม่สร้างหรือสนับสนุนบรรยากาศในการลงทุนออกไป เช่น EPA FDA ทรัมป์เห็นด้วยในการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำจาก $7.50 เป็น $12.00 ต่อชั่วโมง

10) จะสรรหาผู้ที่มีอุดมการณ์เหมือนของพรรครีพับลิกัน เพื่อเข้าดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูงสุดของประเทศสหรัฐฯ (U.S Supreme Court Justices)


สรุปว่าชุมชนไทยจะได้อะไร… ตามความคิดเห็นของผมคือ

1) จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อธุรกิจอย่างชัดเจนใน 100 วันแรกของการทำงาน เขาสัญญาที่จะยกเลิกโอบามา แคร์ จะหาประกันสุขภาพที่ถูกกว่า ดีกว่า โดยไม่มีการบังคับ แต่ยังจะเก็บนโยบายที่ดีของโอบามาในการบังคับให้บริษัทประกันสุขภาพรับประกันประชาชนไม่ว่าจะมีสถานะของร่างกายเป็นอะไร และยังคงให้ผู้ปกครองมีสิทธิ์ให้บุตรธิดาอยู่ในประกันสุขภาพของผู้ปกครองจนอายุครบ 26 ปี

2. จะเห็นบรรยากาศของเศรษฐกิจดีขึ้น มีการเสนอลดภาษีส่วนบุคคล บริษัทต่างๆ เพื่อให้มีการลงทุนและการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น

3. ลดกฎระเบียบของรัฐบาลกลางให้น้อยลง และจะยกเลิกคำสั่งของโอบามา (Executive Orders) ทั้งหมด นายทรัมป์ถือว่านี่เป็นการใช้อำนาจเกินที่กฎหมายอนุญาต ตามความเห็นของทรัมป์

มิเชล ปาร์ค สตีล และสามีของเธอ นาย Shawn Steel เป็นหนึ่งในแกนนำของพรรครีพับลิกัน ซึ่งคณะกรรมการสรรหาตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของทรัมป์นั้น ล้วนเป็นคนที่มีความสนิทสนมกับคุณมิเชลทั้งสิ้น เช่น นาย Reince Priebus ซึ่งเป็น Chief of Staff นาย Newt Gingrich นาย Rudy Giuliani เป็น Inner Circle คนกันเองภายในของเขาทั้งสิ้น

ฉะนั้น คุณมิเชลมีสิทธิ์มากที่จะขอตำแหน่งสำคัญจากนายทรัมป์ได้ เพราะเธอได้ช่วยหาเสียงมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2016 โดยเฉพาะตำแหน่งเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำประเทศไทย เพราะเธอชอบคนไทยและรักเมืองไทยมาก หรืออาจขอตำแหน่งรัฐมนตรีฯ ในกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งก็ได้

นอกจากนั้น โอกาสที่คนนอกจะหางานทำกับคณะทำงานของนายทรัมป์ก็มีมาก ซึ่งเขาต้องสรรหาคนถึง 4,000 กว่าตำแหน่ง ในหลายร้อยกรมกองต่างๆ ฉะนั้นพวกเรารีบเข้าไปดูรายละเอียดและสมัครได้เลยที่ www.greatagian.gov


โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย