ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณท่านผู้อ่านหลาย ๆ ท่าน ที่ให้กำลังใจ ชื่นชมในบทความของผมว่ามีประโยชน์ โดยในฉบับก่อนได้เขียนเรื่องรู้ทันนักขโมยฉกฉวยโอกาส และ เมื่อวันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม 2556 ได้ชมรายการช่อง 7 ABC 20/20 เขาได้นำอดีตนักขโมยขึ้นบ้าน มาบอกเคล็ดลับถึงการเลือกบ้านของเขา การเข้าไปค้นห้องไหนก่อน (www.abcnews.go.com/2020 ตอน Confessions of a burglar) บอกว่าบ้านในประเทศอเมริกาถูกขโมยเข้าบ้านทุก ๆ 15 วินาที (ราวกับว่า ABC 20/20 ได้อ่านบทความผมแล้วไปทำรายการอย่างนั้นแหละ) เพราะหลาย ๆ เคล็ดลับก็ตรงกับของผมหมด แต่ก็มีเคล็ดอื่น ๆ เช่น อย่าไปลงในโซเชียลมีเดียว่าเราจะไปพักร้อน ไม่อยู่บ้าน ซึ่งก็เหมือนกับเป็นการเชิญโจรให้เข้าบ้านเราได้เลย เพราะไม่มีใครอยู่ดูแลบ้านเรา

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา 2 พ.ค.ได้ไปออกรายการของคุณซุปเปอร์แพ็ท ได้พูดถึงโปรแกรมการซื้อปืนกลับของทางตำรวจ ก็มีผู้ชมสนใจ แต่เนื่องจากการรับซื้อปืนมีในวันเสาร์ที่ 4 พ.ค. 56 ซึ่งได้ผ่านไปแล้ว โปรแกรมนี้มีมาอย่างต่อเนื่อง ก็ต้องติดตามข่าวสารตามหนังสือพิมพ์ หรือสื่อของท้องถิ่นว่าจะมีการรับซื้อกันอีกเมื่อไร เมื่อวันเสาร์ที่ 4 พ.ค. ตำรวจแอลเอก็รับซื้อปืนไปกว่า 1, 000 กระบอก เป็นปืนสั้น 516 Handguns (ได้รับบัตรกำนัล Gift Card ซื้ออาหารที่ Ralphs Market มีมูลค่า $100) ปืนยาว Riffles 381 กระบอก และปืนยาวอัตโนมัติ (Assault) 49 กระบอก (ได้รับบัตรกำนัลซื้ออาหารที่ Ralphs Market $200)

มีผู้ชมหลายท่านสอบถามถึงการโอนปืนให้คนอื่นว่าทำได้หรือเปล่า เนื่องจากเราไม่ทราบประวัติเขา ซึ่งเขาอาจจะเป็นบุคคลต้องห้ามที่ไม่สามารถมีปืนไว้ในครอบครองได้ บางท่านอยากจะเอาปืนกลับเมืองไทย จะยกปืนให้ตำรวจได้อย่างไร

จากข้อมูลโดยสังเขปเฉพาะของรัฐแคลิฟอร์เนีย ผมได้ตรวจสอบจากกระทรวงยุติธรรม / สำนักอัยการสูงสุด (State Attorney General)

1. ก่อนที่ใครจะเป็นเจ้าของปืน หรือไปซื้อปืนจากดีลเลอร์ปืนได้ เขาจะให้คุณกรอกเพื่อตรวจคุณสมบัติว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะมีสิทธิครอบครองปืนได้ ซึ่งเรียกว่า Personal Firearms Eligibility Check (PFEC) Applications พร้อมสำเนาของใบขับขี่ หรือไอดี ถ้าไม่ได้เป็นซิติเซ่น ต้องแนบสำเนาใบเขียวไปด้วย (ส่งไปที่ Department of Justice, Bureau of Firearms, P.O BOX 160367 Sacramento, CA 94203 Tel. 916-227-7527 )พร้อมด้วยเงิน 20 เหรียญ โดยปกติ ส.น.ง. อัยการสูงสุดจะตรวจสอบภายใน 10-30 วัน แต่เนื่องจากขาดงบดุลของรัฐแคลิฟอร์เนียก็อาจจะต้องใช้เวลา 60-90 วัน

2. คุณจะโอนปืนให้คนอื่นไม่ได้ ต้องไปผ่าน Gun Licensed Dealer ช่วยในการโอน ผู้รับโอนต้องผ่านการตรวจสอบประวัติจาก ส.น.ง.อัยการสูงสุดเช่นกัน สุดท้ายถ้าไม่ต้องการปืนที่มีอยู่ ก็โทรศัพท์ไปที่โรงพักใกล้บ้าน บอกทางตำรวจว่าอยากเอาปืนมาให้ตำรวจ เขาจะนัดวัน เวลา และตำรวจจะบอกรายละเอียดในการเอาปืนมาคืนให้ตำรวจว่าต้องทำอย่างไร ส่วนจะเอาปืนกลับเมืองไทย ต้องไปตรวจสอบกับกระทรวงมหาดไทยเขาให้คุณนำเข้าหรือเปล่ามีกฎระเบียนอะไร ก่อนนำขึ้นเครื่องบิน ต้องติดต่อสายการบิน จะนำขึ้นเครื่องไม่ได้เด็ดขาด พกติดตัวก็ไม่ได้ สรุป ถ้าคุณมีปืนแล้วจะขายหรือโอนให้คนอื่น จำเป็นต้องผ่านดีลเลอร์ที่มีไลเซ่นต์ขายปืนเท่านั้น สอบถามอัยการสูงสุดในรัฐของท่านว่ามีกฎระเบียบอย่างไร หรือกับหน่วยงานรัฐบาลกลางที่ดูแลเรื่องปืน คือ

ATF (Bureau of Alcohol, Tobacco, Firearms and Explosives) 800-800-3855
CA – Attorney General 916-227-3694

ตอนนี้ยังไม่มีข่าวว่า ทางตำรวจหรือซิตี้ไหนจะรับซื้อปืนกลับอีก หากผมมีข่าวอัพเดทจะแจ้งให้ทราบแน่ครับ

ตอนนี้ต้องขอเข้าเรื่อง การประกันตัว กับสิทธิตามรัฐธรรมนูญในอเมริกา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 8 (Eight Amendment to the United States Constitution) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตราที่เกี่ยวกับสิทธิของประชาชน (Bill of Rights) ในการได้รับการประกันตัวหลังจากถูกจับตัวข้อหา ในคดีอาญาซึ่งมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1789 โดยห้ามมิให้ทุกรัฐตั้งราคาค่าประกันตัวที่มากเกินเหตุจำเป็น (Excessive Bail) หรือการปรับที่มากเกินไป ในขณะที่มีกฎหมายของรัฐบาลกลางที่ห้ามรัฐต่าง ๆ ลงโทษผู้ต้องหาอย่างโหดร้ายเกินเหตุ หรือมีการทารุณกรรมใด ๆ โดยเด็ดขาด เช่น จะซ้อมผู้ต้องหาหรือ ทรมานให้ยอมรับ เป็นต้น (Cruel and Unusual Punishments) เพราะนี่จะเป็นการทำลายความรู้สึกของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมตามระบอบประชาธิปไตยในการรักษากฎหมาย (Offended Society’s Sense of Justice) ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับรัฐธรรมนูญของอเมริกา มาตรา 14 ในการให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิเข้าสู้กระบวนการยุติธรรม การอุทธรณ์ การอนุญาตให้มีการประกันตัว (Due Process Clause) ในระหว่างถูกดำเนินคดีอย่างเท่าเทียมกัน

การประกันตัวสามารถทำได้เกือบทุกคดี ยกเว้น คดีที่มีโทษประหารชีวิต ไม่มีการประกันตัว ยกเว้นเสียจากผู้พิพากษาที่จะใช้ดุลยพินิจในการพิจารณา (Discretionary) ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่อนุญาต เหตุผลหนึ่งที่มีการอนุญาตให้ประกันตัวในระหว่างการดำเนินคดีก็เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหามีเวลาเตรียมความสู้คดี เตรียมตัวในชั้นศาล เพราะผู้ถูกกล่าวหาเหล่านี้ยังไม่ได้ถูกพิพากษาว่าเป็นคนผิด จึงเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาเท่านั้น

การประกันตัวผู้ต้องหามีอยู่ 2 ประเภท

1. Own Recognizance (OR) ใช้ลายเซ็นตัวเองสัญญาว่าจะกลับมาขึ้นศาลตามวันเวลา และสถานที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุไว้ และสัญญาว่าจะไม่กระทำตัวใด ๆ ที่ละเมิดกฎหมาย ตามกฎเงื่อนไขที่กำหนดไว้ของศาล (เหมือนตอนคุณถูกจับทำผิดจราจร และได้ใบสั่ง และต้องเซ็นรับใบกล่าวหา Notice to Appear เช่นกัน)

2. Bail (เบว) การประกันตัว ซึ่งศาลได้ทำตารางกำหนดราคาค่าประกันตัวในคดีต่าง ๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เช่น ในแคลิฟอร์เนียซุrพีเรียคอร์ท (Superior Court of California) คดี Domestic Violence (P.C.273.5) เป็นคดีร้ายแรง Felony การทำร้ายร่างกายของสามี หรือภรรยา อดีตสามี หรือภรรยา หรือพ่อแม่ของลูก รวมถึงคนที่อยู่ด้วยกัน (Cohabitant) ซึ่งอาจจะเป็นเพศเดียวกันก็ได้ เป็นการทำร้ายร่างกายที่รุนแรง มีแผลได้รับบาดเจ็บ (Corporal Injury) รวมถึง Boyfriend or Girlfriend ที่อยู่ด้วยกัน

ถ้าคุณถูกจับในข้อหานี้ ค่าประกันตัวคือ $50,000 และถ้าเคยถูกจับและตัดสินว่าผิดมาแล้ว ค่าประกันตัวครั้งที่ 2 คือ $100,000 (273.5 (E) With Prior)

ฉะนั้น คุณอย่าทำตัวเป็นเจ้าของใครเด็ดขาด จะเป็นภรรยา แฟน เกย์ หรือทอม ก็ตาม ถ้าอยู่ด้วยกันมีความสัมพันธ์กันแล้ว อย่าได้ทำร้ายร่างกาย จิตใจ ซึ่งกันและกันเลย ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็ต่างคนต่างจากกันไปด้วยดีเป็นเพื่อนดีกว่าจะมาเป็นศัตรูกัน แล้วถ้าคุณถูกจับดำเนินคดี คุณเสียอนาคตแน่ ๆ เพราะนายจ้างเขาจะถามถึงเรื่องประวัติอาชญากรรมด้วย ตัวอย่างคดีอื่น ๆ เช่น

PC. 191.5 คดีขับรถในขณะเมาทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ หรือตาย ค่าประกันตัว $100,000
PC. 187 ฆ่าคนตายโดยเจตนา ไม่มีการประกันตัว
PC. 220(B)ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเพื่อการกระทำละเมิดทางเพศ ค่าประกันตัว $1,000,000
PC. 261 ข่มขืนผู้อื่น ค่าประกันตัว $100,000
PC. 245 (a)(c)ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ หรือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ค่าประกันตัว $25,000 และ $50,000

เหล่านี้เป็นตัวอย่างคดีร้ายแรง (Felony) ซึ่งมีโทษจำอย่างต่ำ 3 ปีจนถึงประหารชีวิต (Death Penalty) ถ้าคุณไม่มีเงินไปวางประกันเพื่อแลกกับอิสรภาพชั่วคราว เพื่อขอออกมาเตรียมตัว เตรียมใจที่จะไปขึ้นศาล คุณสามารถติดต่อ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงที่พอจะมีเงินทอง และหลักทรัพย์ไปหา Bail Bond Services คือบริษัทตัวแทนขายหลักประกันในการไปยื่นประกันตัวให้คุณกับศาล บริษัทเหล่านี้เปิด 24 ชั่วโมง จะคิดค่าบริการจากค่าประกันตัวประมาณ 10% ที่ศาลกำหนดไว้ เช่น ถ้าศาลหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งค่าประกันตัว $100,000 คุณก็ต้องจ่าย $10,000 ให้กับบริษัทเบวบอนด์ (เงินนี้ไม่ได้คืน) เพราะเขาต้องไปการันตีกับศาลว่า ถ้าผู้ต้องหานายนี้ไม่มาขึ้นศาลตามที่ศาลนัดไว้ เขาต้องจ่าย $100,000 ให้กับศาลทันที เขาจะมีทีมไล่ล่าเรียกว่า Bounty Hunter ในกรณีที่คุณเบี้ยวไม่ไปศาลตามนัด เขาจะไปเอาตัวคุณกลับเข้าคุกให้ได้ มิฉะนั้นเขาสูญเงินแสนเหรียญ บริษัทเหล่านี้ก็จะดูหลักทรัพย์ของคนที่มาซื้อประกันนี้ว่า มีบ้าน มีหลักประกันกับเขาหรือเปล่า อาจจะให้เซ็นชื่อใบกู้เงินเพื่อเขาจะไปอายัดบ้านในกรณีที่ผู้ต้องหาไม่ไปตามนัดของศาล

ก่อนอื่น ถ้าถูกจับแล้วมาถึงโรงพักทางเจ้าหน้าที่ก็จะรีบกรอกประวัติ (Booking Process) ของผู้ต้องหา ถ่ายรูป ขึ้นทะเบียนประวัติอาชญากรรม มีเบอร์ประจำตัวให้คุณ ในขณะเดียวกันตำรวจจะถามว่า มีใครที่คุณจะโทรศัพท์หาไหม ปกติจะให้ 3 เบอร์ที่จะโทรหาญาติพี่น้องเพื่อบอกว่า ถูกจับที่ไหน ค่าประกันตัวเท่าไร ถ้าเป็นคนต่างชาติก็จะมีการถามว่าจะให้เจ้าหน้าที่ติดต่อสถานกงสุลหรือเปล่า

ในขณะเดียวกันผู้ต้องหาส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ว่า ค่าประกันตัวในคดีลหุโทษ (Misdemeanor) หรือร้ายแรง (Felony) นั้นสามารถขอลดค่าประกันตัวได้ (Bail Deviation Program) ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ (County Probation Department) เป็นผู้ดูแล โดยมีคณะกรรมการสรรหา เรียกว่า Bail Commissioners ทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางดูเหตุผล ข้อมูลของผู้ต้องหาว่าควรได้รับการลดหย่อนค่าประกันตัวหรือเปล่า ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มีอยู่ 8 คน ในแอลเอเค้าน์ตี้ ทำงานตั้งแต่ 6 โมงครึ่งตอนเช้า จนถึง เที่ยงคืนตลอด 7 วัน เป็นการบริการที่ฟรีเพื่อดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งคณะกรรมการสามารถสั่งให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาโดยไม่ต้องมีการวางค่าประกันตัวก็ได้ (OR) หรือลดค่าประกันตัวตามเหตุผลที่ได้ตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาว่าสมควรจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว หรือลดค่าประกันตัวในระหว่างรอการขึ้นศาลดำเนินคดีหรือไม่

คุณสามารถโทรศัพท์เก็บปลายทางก็ได้ที่ (Collect) 213-351-0311 หรือโทรฟรี 1-800-773-5151 เพื่อขอลดหย่อนค่าประกัน เรียกว่า Bail Review ซึ่งการโทรศัพท์นี้จะไม่นับรวมกับการโทรอีก 3 ครั้ง ที่ทางเจ้าหน้าที่อนุญาตให้โทร แต่อย่าด่วนเร่งตำรวจ บางรายพอไปถึงโรงพักก็จะขอโทรเลย รอให้ตำรวจเขากรอกประวัติคุณให้เรียบร้อยก่อน คุณคงจะได้ได้รีบไปไหนนะครับ เพราะถูกจับอยู่ในคุกแล้ว ตำรวจเขามีงานทำเยอะ เพราะต้องรีบเขียนรายงานการจับกุม ต้องเขียนความเห็นของตำรวจที่จับว่าผู้ต้องหาได้ทำความผิดตามกฎหมายมาตราไหน เพราะอะไร เรียกว่า (Declaration of Probable Cause) ต้องทำรายการหลักฐานที่ยึดมา ทำรายงานทรัพย์สินของคุณแล้วนำทั้งหมดไปให้กับหัวหน้าสถานีเซ็นอนุมัติในการควบคุมตัวผู้ต้องหา นี่เป็นตัวอย่างโดยสังเขป ถ้าจับมาสัก 3-4 คน ก็ต้องทำแยกคนละชุด ผมเจอมาแล้วเข้าเวร บ่ายสองโมง จับตอนบ่ายสี่โมง ได้ผู้ต้องหา 3 คน กว่าจะเสร็จก็ 3 ทุ่ม ต้องทำเรื่องทุกอย่างให้เสร็จ เรียกว่าทำคดีเดียวตลอดชิฟท์เลย เพราะสำนวนต่าง ๆ จะถูกส่งไปยังอัยการ (ภายใน 48 ชั่วโมง) เพื่อส่งฟ้องศาล หรือปล่อยตัว ฉะนั้น ตำรวจต้องเขียนรายงานให้ดี สามารถเขียนภาษาอังกฤษที่เขียนแล้วคนอื่น ๆ อ่านแล้วเข้าใจได้เลยว่า เกิดอะไรขึ้น มีพยาน หลักฐาน ผิดกฎหมายมาตราอะไร และองค์ประกอบของคดีกล่าวหาสมบูรณ์ที่เชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นผู้กระทำผิดหรือไม่ ตั้งค่าประกันตัวตามมาตรฐานที่ศาลระบุไว้

แต่การโทรศัพท์เพื่อขอลดค่าประกันตัว มีข้อยกเว้นคือ จะต้องไม่ใช่เป็นคดีที่คุณถูกจับจากหมายศาล เพราะมีหมายจับค้างคาไว้ก่อนแล้ว แต่คุณหนีไม่ไปตามนัด และไม่ใช่เป็นคดีของรัฐบาลกลาง (Federal Charge) ไม่ใช่คดีที่อยู่ในระหว่างรอลงอาญา (Violation of Parole or Probation) คือกระทำผิดในระหว่างอยู่รอลงอาญาจากคดีในอดีต หรือไม่ใช้คดีที่มีคำสั่งศาล เช่น ห้ามมิให้คุณเข้าใกล้ใคร ติดต่อใคร (Violation of a Restraining Order) ถ้าคุณยังละเมิดคำสั่งศาลอีก ก็จะไม่ได้รับการพิจารณาหรือไม่ให้มีการประกันตัวเลย

สรุปอย่าคิดทำอะไรที่ผิดกฎหมายของบ้านนี้เมืองนี้เลย ก็จะดีที่สุดนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอกกันก่อน กฎหมายเขาศักดิ์สิทธิ์

โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย