Special Scoop
คุณธรรม จริยธรรม กับอำนาจเงิน!

จริยธรรมหมายถึงการแยกสิ่งที่ถูกจากผิดดีจากเลวมาจากคำว่าจริยะแปลว่าความประพฤติกิริยาที่ควรประพฤติคำว่าธรรมแปลว่าคุณความดีรวมๆแล้วแปลว่ากฎเกณฑ์แห่งความประพฤติหรือหลักความจริงที่เป็นแนวทางแห่งความประพฤติปฏิบัติผมได้อ่านนิทานชาดกของพระพุทธเจ้าตอนสุวรรณหงส์ชาดกขอสรุปเรื่องโดยสังเขปว่า

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วพระโพธิสัตว์เกิดเป็นพราหมณ์ตระกูลหนึ่งมีภรรยาและบุตรสาว 3 คนพอลูกสาวทั้ง 3 คนมีสามีแล้วพราหมณ์ก็ได้เสียชีวิตไปเกิดเป็นหงส์ทองคำระลึกชาติได้วันหนึ่งพราหมณ์ได้เห็นความลำบากของพราหมณี (อดีตภรรยา) และลูกสาวที่ต้องลำบากรับจ้างคนอื่นจึงเกิดความสงสารได้โผบินไปจับที่บ้านนางพราหมณีแล้วเล่าเรื่องราวให้แก่นางและลูกสาวฟังยังได้สลัดขนทองคำให้แก่พวกเขาคนละหนึ่งขนแล้วก็บินหนีไปหงส์ทองได้มาเป็นระยะๆ มาครั้งใดก็สลัดขนให้ครั้งละหนึ่งขนจนทำให้ครอบครัวของนางพราหมณีและลูกสาวร่ำรวยมีความสุขไปตามๆ กัน

ต่อมาวันหนึ่งนางพราหมณีเกิดความโลภ (Greed) จึงปรึกษากับลูกสาวว่าถ้าหากหงส์มาครั้งต่อไปก็จับหงส์ทองไว้ถอนขนเสียให้หมดเพื่อจะได้มีทรัพย์สมบัติมากๆ เลย พวกลูกๆ ไม่เห็นด้วยแต่นางพราหมณีไม่สนใจวางแผนจับพญาหงส์ทองได้แล้วจับถอนขนจนหมดแทนที่จะได้ขนทองคำแต่กลับกลายเป็นขนนกธรรมดาเพราะพญาหงส์ทองมิได้ให้ด้วยความสมัครใจเมื่อพญาหงส์ได้ขนงอกขึ้นใหม่หงส์ก็ได้บินหนีไปโดยไม่ได้กลับมาอีกเลย

พระพุทธองค์ได้ตรัสพระคาถาในเรื่องนี้ว่า

“บุคคลได้สิ่งใดควรยินดีสิ่งนั้นเพราะความโลภเกินประมาณเป็นความชั่วแท้นางพราหมณีจับเอาพญาหงส์ทองแล้วจึงเสื่อมจากทองคำ”

ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะบอกว่าปัญหาส่วนใหญ่ที่นักธุรกิจนักการเมืองที่คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่มีอำนาจล้นฟ้ามีเงินมีทองที่สามารถจะซื้ออะไรก็ได้ยอมที่จะกระทำความผิดทั้งทางกฎหมายศีลธรรมและจริยธรรมเพื่อให้ได้ “เงิน” หรืออำนาจที่ตัวเองมีไม่รู้จักพอจนสุดท้ายก็ต้องถูกจับดำเนินคดีจากความโลภของตัวเองนั่นเองคิดไม่ถึงว่าเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายในประเทศนี้จะไม่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ถ้าใครทำผิดกฎหมายถึงจะใหญ่ขนาดไหนจะรวยขนาดไหนสุดท้ายก็จะถูกจับดำเนินคดี

ดังตัวอย่างล่าสุดจากนักการเมืองผู้ทรงเกียรติสมาชิกวุฒิสภาของรัฐแคลิฟอร์เนียนายลีแลนด์ยีอายุ 65 ปีถูกจับเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2014 ถูกเจ้าหน้าที่ FBI จับตั้งข้อหาร้ายแรงที่รวมถึงการรับสินบน การค้าอาวุธข้ามชาติโดยไม่มีใบอนุญาตการโอนเงินจากการฉ้อโกง (Wire Fraud of Honest Service) ทั้งหมด 7 ข้อหาต่างกรรมต่างวาระที่กระทำผิดมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2011-14 ถ้าถูกตัดสินว่าผิดทุกข้อหาจะมีโทษจำคุกถึง 125 ปี ทาง FBI ต้องใช้ความพยายามความอดทนโดยการส่งสายลับปลอมตัวเข้าไปตีสนิทถึง 4 คน (Undercover FBI Employee/Agent ที่เรียกว่า UCE) จากเอกสารตามคำร้องในการขอหมายจับ (Criminal Complaint) ที่มีถึง 137 หน้าซึ่งทาง FBI และผู้ช่วยอัยการสูงสุดของรัฐบาลกลาง (Assistant United States Attorneys) ได้สรุปให้กับผู้พิพากษารัฐบาลกลางในเขตซานฟรานซิสโก (United States Magistrate Judge) ซึ่งศาลได้ลงนามอนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2014 ร่วมกับผู้ต้องหาทั้งหมด 26 คนรายละเอียดถี่ยิบยิ่งกว่าหนังบู๊ผมต้องขอชมเชย FBI ที่สามารถเจาะเข้าไปได้ถึงหัวหน้าแก๊งค์ชาวเอเชียนี้ได้สำเร็จโดยใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 5 ปี

อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะเขียนเป็นวิทยาทานเป็นเรื่องโด่งดังเมื่อเดือนตุลาคม 2012 ที่น.ส.พ. ทั้งเมืองไทยและที่นี่พาดหัวข่าวว่าเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2012 จากน.ส.พ.ท้องถิ่น Scripps Treasure Coast Newspaper ออกที่ Vero Beach, Florida ว่า “Sarah Tipfun, Bangkok Restaurant Owner, 3 Others, Charged with paying for illegal Green Card”

แปลโดยสรุปว่า“เจ้าของร้านอาหารไทยบางกอกเรสเตอรองท์ นางซาราห์ ทิพย์ฝัน ถูกจับพร้อมกับพวกอีก 3 คนในข้อหาให้สินบนเจ้าหน้าที่เพื่อแลกกับการทำกรีนการ์ดหรือใบเขียว”

นอกเหนือจาก 4 คน ที่ถูกจับแล้วผู้ที่ขอซื้อกรีนการ์ดเป็นคนไทยอีก 28 คนที่คิดว่าจะได้ใบเขียวโดยไม่ต้องรอคิว เอาทางลัด ด้วยการจ่ายเงินให้กับผู้ต้องหาทั้ง 4 ที่เป็นนายหน้าก็ถูกจับพร้อมกันหมดในช่วงเช้าของวันที่ 11ตุลาคม 2012 ที่ร้านอาหารบางกอกเรสเตอรองท์ในเมืองเวโรบีชฟลอริด้าด้วย

หน่วยงานที่สืบสวนและจับกุมผู้ต้องหากลุ่มนี้คือ Department of Homeland Security แผนก Homeland Security Investigation (HIS) หรือ U.S. Immigration and Customs Enforcement ที่รู้จักกันในนามI.C.E.

เหตุที่เป็นข่าวโด่งดังที่เมืองไทยเพราะผู้ต้องหาที่เป็นหัวหน้า 4 คน คือ

1. นางซาราห์ ทิพย์ฝัน (Sarah Tipfun) เจ้าของร้านอาหารบางกอกเรสเตอรองท์ (เป็นมารดาของดีเจดังที่เมืองไทย“มดดำ” นายคชาภาตันเจริญและเป็นอดีตภรรยาของนายสุชาติตันเจริญอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร, อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดฉะเชิงเทราถึง8สมัย)

2. นายสถาพรพนมวันณอยุธยา (Sataporn Panomwan Na Ayuttaya) เป็นบอยเฟรนด์ของ

นางซาราห์เป็นเจ้าของร้านไก่ทอดในเมืองกิฟฟอร์ด (Grifford) ฟลอริด้า

3. นายฉัตรชัยนครไพร (Chatchai Nakornprai) เจ้าของร้านอาหารไทยที่เมืองเมลเบิร์นฟลอริด้า

4. นางบุญทิ้งน่วมพาธร (Boonting Nuampaton) น้องสะใภ้ของนายฉัตรชัย

เพื่อให้การจับกุมเป็นไปด้วยความรัดกุมเพราะมีผู้ต้องหาเป็นจำนวนมากกว่า 30 คนที่คิดว่าจะมารอรับใบเขียวหลังจากที่ได้จ่ายเงินกันคนละ $20,000 – $30,000 ทาง I.C.E. ได้ขอตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจากลอสแอนเจลิสอีก 6 นายเพื่อช่วยเหลือในการแปลระหว่างและหลังการจับกุมให้บินไปที่ ส.น.ง. ของ I.C.E. ในเมือง Ft. Pierce, Florida 5 วันก่อนวันทำการจับกุม

จากเอกสารทาง I.C.E. ที่ยื่นต่อศาลเพื่อขออนุมัติขอหมายจับได้ระบุว่าสายของตำรวจที่เรียกว่าConfidential Informant (CI)ได้บอกกับทางการว่านางซาราห์ซึ่งเป็น U.S. Citizen ได้กระทำความผิดกฎหมายของทางอิมมิเกรชั่นหลายข้อหาโดยมีการจ้างวานและหาผลประโยชน์จากแรงงานผิดกฎหมายจากประเทศไทยเพื่อให้ลูกจ้างสามารถได้รับใบเขียวจากนั้นสายของตำรวจก็แนะนำสายลับจาก I.C.E. ซึ่งแนะนำตัวเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่สามารถหาใบเขียวให้ได้เพราะเขาต้องการเงินไปใช้หนี้เรียกว่าเป็นเจ้าหน้าที่คอรัปชั่นแต่ขอค่าจัดหาเป็นเงินใบเขียวละ $20,000 เหรียญโดยตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งปีได้มีการนัดพบนางซาราห์และนายสถาพรหลายครั้งหลายหนทั้งที่บ้านและที่ร้านโดยนางซาราห์ยังได้ติดต่อเจ้าของร้านคือนายฉัตรชัยที่ต้องการหาใบเขียวให้ลูกน้องด้วยรวมแล้วอีก 28 คน มีการนำลูกน้องซึ่งมีทั้งนักเรียนมานัดถ่ายรูปพิมพ์นิ้วมือกรอกใบสมัครขอใบเขียวกันถึงที่บ้านบางครั้งที่ร้านนางซาราห์และเพื่อให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 ตายใจสายลับ I.C.E.ยอมที่จะออกใบเขียวตัวอย่างให้ 3 ใบและให้คนไทยเหล่านี้ได้ลองใช้ออกนอกประเทศไปเที่ยวเมืองไทยเยี่ยมญาติพักผ่อนเที่ยวให้สนุกและยังสามารถกลับเข้ามาในประเทศอเมริกาโดยไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้นและถ้าทางด่านสนามบินต่างๆถามอะไรเกี่ยวกับใบเขียวนี้ทางสายลับก็ให้คนไทยที่ทำใบเขียวนี้บอกว่าได้มาจากโปรแกรมพิเศษ “Diversity Visa” หรือใบเขียวจากการจับล๊อตเตอรี่จนผู้ต้องหาทั้ง 4 เชื่อสนิทใจว่าใบเขียวจริงแน่ๆใช้ทำใบขับขี่ ใบโซเชียวก็ได้ออกนอกประเทศก็ได้เพราะสายลับซึ่งบอกกับทุกคนที่เขาพบว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ของImmigration, I.C.E. จึงสามารถทำเรื่องออกใบเขียวให้ได้แต่ที่ต้องทำผิดกฎหมายเพราะเป็นหนีเสียพนันต้องการเงินไปใช้หนี้

หลังจากนั้นนางซาราห์ก็หาลูกค้ามาอีกมากครั้งหนึ่งได้ถามสายลับว่าเขาสามารถเอาคนจากประเทศไทยเข้ามาในอเมริกาได้ไหม (Alien Smuggling) สายลับก็บอกว่าได้แต่ค่าทำแพงหน่อยนะคนละ $60,000 ขาดตัว (สำหรับคนที่อยากทำใบเขียวที่อยู่ที่อเมริกาแล้วก็คิด $20,000) โดยสายลับบอกว่าถ้าจะเอาคนจากเมืองไทยต้องทำครั้งละ5-6 คนเป็นอย่างน้อยถึงจะคุ้มค่าซึ่งนางซาราห์บอกกับสายลับว่าไม่มีปัญหาเพราะตอนนี้เธอมีคนที่อยากจะหลบเข้าประเทศถึง 2 คนแล้ว

การพูดคุยกับสายลับทุกครั้งถูกบันทึกเทปไว้หมด (วันเวลาสถานที่) โดยทาง I.C.E. ได้ประสานกับผู้ช่วยอัยการสูงสุดของรัฐบาลกลางรับทราบถึงคดีที่กำลังทำอยู่ทุกครั้งสายลับจะบอกกับทุกคนว่าถ้าทางการรู้ถึงการทำผิดกฏหมายของเขากับพวกนางซาราห์แล้วทุกคนมีสิทธิต้องถูกติดคุกในข้อหาร่วมกันคีอสมรู้ร่วมคิดในการทำผิดกฎหมายอิมมิเกรชั่นโดยการออกใบเขียวให้ฉะนั้นทุกคนต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดทุกคนก็เชื่ออย่างสนิทใจว่าอเมริกาก็มีเจ้าหน้าที่ขี้โกงรับสินบนเพื่อขอใบเขียวให้ได้ทางเอกสารยังระบุว่านางซาราห์และนายสถาพรรับเงินค่านายหน้ารายละ $500 - $2,000 เหรียญต่อคนแล้วยังสั่งให้สายลับไม่ต้องตอบคำถามใดๆกับลูกน้องที่ทำว่าเขาคิดราคาเท่าไร

เพื่อให้การจับกุมอยู่ในที่เดียวสายลับก็ได้นัดหมายให้ทุกคนมารับใบเขียวได้ในวันที่ 11 ตุลาคม 2012 ที่ร้านนางซาราห์ก่อนที่ร้านจะเปิดขายอาหารโดยทาง I.C.E.ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นายพร้อมตำรวจไทยจากแอลเอในขณะที่สายลับและตำรวจไทยปลอมตัวเป็นวัยรุ่น 1 นายเข้าไปที่ร้านก่อนเพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าพวกเขากำลังทำอะไรที่ผิดกฎหมายนะโดยสายลับบอกกับนางซาราห์ว่าตำรวจไทยเป็นเพื่อนเขาแล้วให้พูดเป็นภาษาไทยฟังชัดๆว่าทุกคนในที่นี้รู้ว่าการซื้อใบเขียวจากเจ้าหน้าที่โดยไม่ผ่านกระบวนการตามขั้นตอนปกติมันผิดกฎหมายอาจถูกติดคุกได้ถ้าทางการรู้ถ้าใครคิดจะเปลี่ยนใจให้รีบบอกและจะคืนเงินให้เดี๋ยวนั้นกลับบ้านไปได้เลยไม่มีข้อผูกมัดกันทั้งสิ้นสายลับบอกว่าใบเขียวที่ส่งมาจากวอชิงตันดีซีได้มาถึงแล้วทุกคนตอบว่าไม่เปลี่ยนใจชำระเงินงวดสุดท้ายกันเงินสดที่ยึดได้ทั้งหมดกว่า$313,000 (ถูกยึดเป็นของรัฐบาลด้วย) หลังจากที่เจ้าหน้าที่สายลับได้นับเงินเสร็จก็บอกกับทุกคนว่าต้องรีบกลับออฟฟิศเพื่อเอาใบเขียวมาให้ซึ่งอยู่ใกล้ที่ร้าน แล้วทั้ง 2 ก็เดินกลับไปที่จอดรถพร้อมกับเพื่อนที่เป็นตำรวจไทยจากแอลเอพอถึงที่จอดรถสายลับก็ส่งสัญญาณคำพูดที่ได้ตระเตรียมกับเจ้าหน้าที่ด้านนอกกว่า 50 นายมาก่อนว่า “Take Down, Take Down” เท่านั้นแหละเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือก็บุกเข้าไปในร้านขณะที่คนในร้านที่คิดว่าจะมารับใบเขียวต่างตกใจวิ่งหนีกันคนละทิศละทางเหมือนกับมดแตกรังอย่างนั้นแต่ก็ไปไม่รอดมีการวิ่งไล่จับอยู่นอกร้าน 1 คนและมีอีก 1 คนหนีไปแบบสายฟ้าแลบแต่เนื่องจากทางสายลับมีรูปถ่ายลายพิมพ์นิ้วมือรูปถ่ายพาสปอร์ตของทุกคนจึงได้ให้ด่านทุกแห่งช่วยสกัดจนอีกหนึ่งชั่วโมงให้หลังคนที่หนีไป 1 คนนั้นก็ไปโดนจับที่สนามบินขณะกำลังจะหนีกลับบ้าน

เติมอีกนิดหนึ่งว่าขณะที่สายลับและเพื่อนตำรวจไทยที่เข้าไปในร้านหัวหน้าของ I.C.E. และผู้ช่วยอัยการสูงสุดจอดรถรออยู่ฝังตรงข้ามก็ฟังวิทยุวงจรปิดที่ติดตัวสายลับและตำรวจไทยที่ร้านมาตลอดมีการอัดเทปทุกคำพูดไว้หมดเพื่อประกอบคดีโดยมีตำรวจไทยช่วยแปลให้ฟังโดยตลอดด้วยเพื่อผู้ต้องหาจะไม่สามารถอ้างว่าเป็นการวางกับดักเพื่อให้คนทำผิดก็เขาบอกแล้วตลอดทุกครั้งว่านี่มันผิดกฎหมายผู้ต้องหาจงใจในการกระทำผิดถือว่าเป็นผู้จัดหาคนมาทำใบเขียวจึงถูกดำเนินคดีในข้อหานี้

1. 18 U.S.C.&1546 Visa Fraud หลายสิบกระทงต่างกรรมต่างวาระที่ได้ละเมิดกระทำการผิดกฎหมายนี้ในการจัดหาวีซ่าใบเขียวให้กับผู้อื่นโดยผิดกฏหมาย

2. 18 U.S.C. &371 Conspiracy สมรู้ร่วมคิดในการกระทำผิดกฎหมายอิมมิเกรชั่นว่าด้วยการทำวีซ่าปลอม

จากการสัมภาษณ์ของนางซาราห์หลังการจับกุมซึ่งยังอยู่ในอาการช็อคที่ไม่รู้ว่าสายลับที่รู้จักกันมารวมปีเป็นI.C.E. ที่ดีเธอก็ถูกใส่กุญแจมือขึ้นรถไปพิมพ์นิ้วมือถ่ายรูปสอบสวนเพิ่มเติมเธอยังงงไม่รู้เลยว่าการกระทำดังกล่าวมันผิดกฎหมายนึกว่าช่วยเหลือคนที่อยากจะได้ใบเขียวอะไรทำนองนี้ซึ่งเหตุผลก็คงจะฟังไม่ขึ้นในชั้นศาลเพราะตัวเองก็เคยมีใบเขียวและอยู่จนได้เป็นพลเมืองของอเมริกาคงไม่มีใครที่จะออกใบเขียวได้โดยการเอาเครื่องคอมพิวเตอร์มาถ่ายรูปพิมพ์นิ้วมือที่บ้านหรือที่ร้านของตนเรียกว่าตกใจเมื่อทราบว่าข้อหาต่างๆนี้ถ้าคณะลูกขุนตัดสินว่าผิดแล้วต้องติดคุกกว่า 100 ปี เพราะหลักฐานของสายลับและการประสานของผู้ช่วยอัยการสูงสุดได้กระทำอย่างรัดกุมทุกขั้นตอนมีการบันทึกเสียงเวลาสถานที่มีการแปลจากไทยเป็นอังกฤษถ้ามีการพูดภาษาไทย

สุดท้ายก็จำนนต่อหลักฐานยอมรับผิดดีกว่าเพราะโอกาสที่จะออกจากคุกยังมีหรือจะสู้ซึ่งถ้าผิดตามข้อกล่าวหาอาจติดคุกถึง 100 ปี โดยเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2013 นางซาราห์ถูกศาลตัดสินจำคุก 5 ปีส่วนเพื่อนอีก 3 คนก็ถูกตัดสินจำคุกประมาณ 2-3 ปีส่วนคนอื่นๆอีก 28 คนก็ถูกเนรเทศกลับเมืองไทยหลังติดคุกระยะสั้น หมดโอกาสที่จะกลับมาอเมริกาได้อีก

นางซาราห์ ทิพย์ฝัน อายุ 63 ปี จะได้รับการปลดปล่อยในวันที่ 17 เดือนกุมภาพันธ์ 2017 ตามหลักฐานจากกรมราชทัณฑ์ของรัฐบาลกลาง

บทเรียนอันมีค่าสำหรับคนที่คิดอยากจัดหาใบเขียว และคนที่อยากได้ใบเขียวแบบรวบรัดโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วคุณอาจจะต้องเสียเงินเสียโอกาสเสียอิสระภาพแล้วยังผิดจริยธรรมในที่สุด


โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย