ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่มาร่วมงานของคุณ Wendy Greuel ผู้ตรวจสอบบัญชีของเมืองลอสแองเจลิส ซึ่งเป็นผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีในเดือนมีนาคม 2013 แทนนายแอนโทนีโอ วิลาไลโกซ่า เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ไทยแลนด์พลาซ่า ผมก็ดีใจที่ชุมชนไทยมีการเปลี่ยนแปลงออกมาสนับสนุนเงินทุนในการหาเสียงของเธอ และดีใจที่เรามีชุมชนไทยอีกคณะหนึ่งสนับสนุน คุณอิริค การ์แซทตี้ (Eric Garcetti) ในการหาทุนเช่นกัน ใครก็ได้ที่สัญญาจะช่วยชุมชนไทยเรา จะรับคนไทยเข้าทำงานในสำนักงานเขา เพื่อเป็นตัวแทนรักษาผลประโยชน์ของพวกเรา เราต้องสนับสนุนทั้งนั้น อย่าว่าใครเป็นแกนนำเพื่อคนนั้นคนนี้เลย เพราะประเดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดว่าเราจะมาแบ่งพรรคแบ่งพวกกันทำไม และผู้สมัครเองจะเข้าใจว่า เรามีสองพวกทั้ง ๆ ที่เรามีจุดมุ่งหมายเหมือนกัน ใครจัดก็ได้ ทำมากเราก็มีเพื่อนนักการเมืองมาก และในวันที่ 30 กันยายน 2012 นี้ ทาง Nat T.V. ก็จะจัดการสนับสนุนหาทุนให้กับ คุณลัดดา แทมมี่ ดัคเวิร์ธ (Ladda Tammy Duckworth) ลูกครึ่งไทยเข้าชิงตำแหน่งวุฒิสภาผู้แทนราษฎร( Congressional ) ของนครชิคาโกกับผู้แทนคนปัจจุบันจากพรรคลิพับรีกัน นายโจ ว๊อด (Joe Walsh) ก็เป็นการแข่งขันที่คิดว่าคุณลัดดาน่าจะเอาชนะคู่แข่งได้ (จากโพลตอนนี้นำอยู่ 52-38%) หวังว่าคนไทยในอเมริกาโดยเฉพาะที่อยู่ในเขต (8) ของคุณแทมมี่ได้ไปใช้สิทธิ ลงคะแนนให้กับเธอ ถ้ายังไม่ลงทะเบียนก็ต้องรีบไปลงทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียก่อนวันที่ 22 ตุลาคม 2555 (October 22, 2012) ในการเลื่อกตั้งทั่วไปรวมถึงประธานาธิบดีในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2555 (November 6, 2012)ได้

ขอขอบคุณแฟนคอลัมน์หลาย ๆ ท่านที่โทรมาสอบถาม รวมที่เข้ามาทักทายติชมบทความ ตลอดจนถึงสมาชิกของสภาหอการค้าไทย อเมริกัน อีกหลายๆท่าน ถามว่าผมยังอยู่กับหอการค้าไทยอเมริกันแห่งแคลิฟอร์เนียหรือเปล่า ขอบอกว่า วาระของผมในฐานะเลขาธิการได้สิ้นสุดลง ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฏาคม 2555 หลังจากการเลือกตั้ง ตอนนี้ผมเป็นแค่สมาชิกส่วนบุคคลธรรมดา หอการค้ามีคณะกรรมการชุดใหม่ที่รับทำหน้าที่ต่อ อย่างไรก็ตามถ้าคุณมีปัญหากับเรื่องภาษี และกฎหมาย ในฐานะที่ผมมีความรู้อยู่บ้าง ไม่ว่าคุณจะเป็นสมาชิกหอการค้าไทยหรือไม่ ถ้าผมสามารถแนะนำหรือช่วยเหลือท่านใดได้ ผมยินดีช่วยเสมอ

วันนี้มีหลายท่านประสบอุบัติเหตุรถชน ไปชนเขาบ้าง ถูกเขาชนบ้าง ถูกชนแล้วคู่กรณีขับหนีบ้าง ได้รับรายงานของตำรวจ(Traffic Collision Report) ก็ดูไม่รู้เรื่อง บางรายบอกว่าคู่กรณีบอกจะรับผิดชอบ แต่แล้วนายก็หายไปไม่ติดต่อกลับเลย

ก่อนอื่นมันเป็นกฎหมายว่า ทุกคนที่ขับรถจะต้องซื้ออินชัวรันล์ประกันรถยนตร์ ตามกฎหมายจราจร มาตรา CVC 16028 (A) และต้องมีหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูเมื่อตำรวจขอดู (Proof of Insurance) หลายรายบอกว่ามีแต่หาไม่เจอในขณะถูกตำรวจจับ ตำรวจเลยเขียนข้อหานี้เพิ่ม รวมกับข้อหาที่ถูกจับตั้งแต่แรก (16028 (A) เป็นข้อหาพ่วง ซึ่งตำรวจจะเขียนใบสั่งในข้อหานี้อันเดียวไม่ได้นะครับ) ซึ่งส่วนใหญ่ข้อหานี้ตำรวจจะวงกลมหรือเช็คว่า Correctable Violation (ตามข้อกฎจราจร CVC 40610) Yes หรือ No (คือแก้ไขได้เมื่อคุณนำหลักฐานไปศาลได้ไหม) อย่าลืมว่า ตำรวจเขาไม่มีเวลามานั่งรอให้คุณหาใบอินชัวรันส์หรือทะเบียนรถได้นาน ๆ

ฉะนั้น ขอเตือนว่า ในรถคุณควรเก็บเอกสารไว้ในซองจดหมาย 3 อย่างนี้ นอกเหนือจากใบขับขี่ที่ควรพกติดตัวตลอดเวลาที่ขับรถ

1.ใบทะเบียนรถที่ขับที่ยังไม่หมดอายุ (Car Registration)
2. ใบอินชัวรันส์ (Proof of Insurance) ที่ยังไม่หมดอายุ
3. รายละเอียดที่ควรจดในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ (ตามที่ได้แนบมาให้ดูด้วย)

พอตำรวจเขาเปิดไฟแดงตามหลังคุณ คุณควรจะเปิดไฟเลี้ยวขวา และหาทางที่ปลอดภัยจอด ตำรวจจะให้เวลาคุณ ไม่ใช่จะจอดมันกลางถนน หรือทางเลี้ยว ทางโค้ง ตำรวจก็จะเอาโทรโข่งบอกว่าให้ขับไปเรื่อย ๆ ก่อน (Keep Going) หรือจะบอกว่า เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา และจอดผ่านทางเครื่องขยายเสียงที่ดังฟังชัดติดอยุ่ที่หน้ารถตํารวจ

ไม่ต้องรีบหาอะไรใจเย็น ๆ เดี๋ยวตำรวจจะเดินมา อาจจะมาทางด้านคนขับ หรือด้านผู้โดยสาร ในกรณีที่ถูกเรียกให้หยุดบนฟรีเวย์ หรือถนนที่มีรถจอแจ แล้วตำรวจจะถามหาใบขับขี่ ใบทะเบียนรถ ใบอินชัวรันส์ หลังจากนั้นตำรวจจะบอกว่า เขาหยุดรถคุณด้วยเหตุผลอะไร คุณก็มีโอกาสอธิบายเหตุผลของคุณ ถ้าตำรวจต้องการฟัง บางคนเขาไม่มีเวลา เพราะเขาไม่ใช่ผู้พิพากษาบอกคุณให้ไปบอกที่ศาล เขาก็จะเขียนใบสั่งตามหน้าที่ อย่าไปเถียงหรือแก้ตัวแบบน้ำขุ่น ๆ เช่น ไม่เห็นไฟแดง ไฟยังเขียวอยู่ ขับไม่เร็วบ้างอย่างที่ถูกกล่าวหา (ตำรวจเขาใช้เรดาร์วัด) ปวดท้อง ปวดหัว สารพัดที่ได้ยินมา บางรายก็บอกตรง ๆ ว่า ตื่นสายกลัวไปทำงานไม่ทัน กลัวจะถูกนายตำหนิหรือไล่ออก จำได้ครูสอนผมตอบกลับดัดีว่า เอาตั๋วนี้ไปให้นายคุณดูว่าทำไมเราถึงมาสายไงล่ะ รับรองเขาไม่ไล่คุณออกจากงาน คนขับเลยพูดไม่ออกต้องเซ็นใบสั่งอย่างเดียว ตอนนี้ต้องเข้าใจว่าตำรวจจะเคร่งครัดมากในระยะนี้ เพราะทั้งรัฐและเมืองต่าง ๆ ต้องการหารายได้จากคนทำผิดกฎหมาย จะตักเตือน(Warning) ก็จะน้อยลงไป อย่าทำผิดจะดีที่สุดครับ รับรองจะช้าเร็วก้ไปถึงที่จุดหมายไม่ต่างกันเกิน 5 นาที ประหยัดเงินค่าปรับ $400-500 เหรียญต่อใบสั่งหรือถ้าเกิดอุบัติเหตุจะเจ็บตัวอีกต่างหากนะครับ

ถ้ากรณีเกิดอุบัติเหตุถ้าไม่มีผู้บาดเจ็บ สถานีตำรวจส่วนใหญ่จะไม่ส่งตำรวจมาทำรายงาน( Traffic Collision Report) เพราะไม่มีงบ และเวลา หน้าที่ของคุณก็เอาใบรายละเอียดที่ผมให้ขึ้นมาเขียนให้ละเอียด เขียนตามบรรทัดต่อบรรทัด เช่น หมายเลยทะเบียนรถ, ชื่อคนขับ ใบขับขี่ ใบอินชัวรันส์ วันเกิดเหตุ เวลา สถานที่ และที่สำคัญถ้ามีพยานให้จดชื่อที่อยู่โทรศัพท์เขาไว้ ทำแผนผังตำแหน่งของรถตามที่ผมได้แนบมาก็จะไม่หลงลืม ไม่ต้องตื่นตกใจคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา เราซื้ออินชัวรันส์ก็เพื่อช่วยชดใชัจ่ายค่าเสียหายใหัเราและคู่กรณี เปลี่ยนข้อมูลเอกสารกัน ห้ามพูดอะไรที่ไม่จำเป็นกับคู่กรณี ห้ามรับผิดหรือถูก ห้ามเซ็นชื่ออะไรนะครับ นอกจากถ้าตำรวจมา เขาจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นก็พูดตามความจริง ถ้าตำรวจไม่ทำรายงาน (Traffic Collision Reports) ให้ ก็ควรจดชื่อเขาไว้ ส่วนใหญ่มีป้ายชื่ออยู่บนหน้าอก และเบอร์ประจำตัวของตำรวจซึ่งมีอยู่ทุกนาย เพราะเขาอาจจะเป็นพยานให้เราได้ในภายหลัง

ถ้ากรณีที่มีผู้บาดเจ็บ ตำรวจต้องทำรายงานแล้วสรุปหลังจากได้สัมภาษณ์คู่กรณี และพยานอื่น ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งรายงานอุบัติเหตุรถยนต์ (Traffic Collision Report, จากแบบฟอร์ม CHP 555 ที่ทุกสถานีจะใช่เหมื่อนกันหมดในรัฐแคลิฟอร์เนีย) จะแบ่งเป็น 6 ส่วน

ส่วนที่ 1 เรียกว่า Party 1 (คู่กรณีที่ 1) ถ้าคุณอยู่ใน Party 1 ส่วนใหญ่คุณจะผิด มีชื่อและรายละเอียดของคนขับ ใบขับขี่ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 เรียกว่า Party 2 (คู่กรณีคนที่ 2)
ส่วนที่ 3 จะเขียนรายละเอียดว่าคนขับคนใดผิดข้อจราจรข้อใด ที่ทำให้เป็นสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุ พร้อมกับภาพสเก็ต (Sketch) ทิศทาง และจุดที่ชนกัน
ส่วนที่ 4 รายละเอียดของผู้บาดเจ็บ แล้วอธิบายว่า เจ็บตรงไหนอย่างไร เช่น P1 (Party 1) ชื่อนาง A – Complaints of pain to her chest ปาร์ตี้ 1 บอกตำรวจว่าเธอ เจ็บหน้าอก แล้วได้ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลด้วยรถพยาบาลของกองดับเพลิงหน่วยไหน
ส่วนที่ 5 ตำรวจจะอธิบายบริเวณที่เกิดเหตุ (Scene) ถนนเป็นแบบไหน กี่เลน ทิศทางเหนือ ใต้ หรือออก ตก จะวัดด้วยถ้าจำเป็น และหลักฐานอื่น ๆ รอยยางรถยนต์ (Skid Marks) เป็นต้น
ส่วนที่ 6 ส่วนสุดท้ายก็จะเป็นข้อความจากการสัมภาษณ์ที่ตำรวจสอบถามจากทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งบทสรุปความเห็นของตำรวจ ในบางกรณีเราจะตั้งข้อหาที่ทำผิดจราจรและส่งใบสั่งไปที่บ้านด้วย

ในกรณีที่อุบัติเหตุทำให้ทรัพย์สินเสียหายตั้งแต่ $750 หรือมีผู้บาดเจ็บหรือตาย ต้องแจ้งให้ DMV ทราบภายใน 10 วันตามกฎหมายจราจรที่ (CVC 16004 (a)) โดยกรอกแบบฟอร์ม SR1 (Report of Traffic Accident Occurring in California) หาได้จากเวปไซร์ ของ DMV ที่ www.dmv.ca.gov ส่วนใหญ่บริษัทอินชัวรันส์จะส่งไปให้ ต้องสอบถามกับเอเย่นต์ ถ้าค่าเสียหายน้อยกว่า $750 แล้วคู่กรณีเบี้ยวก็ต้องไปฟ้องศาลเล็ก (Small Claims Courts) กันเองนะครับ

โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย