โจรที่ขโมยทรัพย์สินตามบ้านได้ออกอาละวาดอย่างหนักในขณะนี้ โดยเฉพาะบ้านของคนเอเชีย ซึ่งขโมยเหล่านี้ทราบว่าพวกเราชอบเก็บของมีค่าไว้ในบ้านโดยเฉพาะเงินสด ทอง แหวน เพชร สร้อยคอ เหรียญทองต่าง ๆ ตลอดจนของเก่าของแก่พระเครื่องเลี่ยมทองที่เราได้สะสมมาตลอด เครื่องเล่นสเตริโอดี ๆ อีกหลายรายการ

สถิติขโมยขึ้นบ้าน (Residential burglary) เหล่านี้เกิดขึ้นอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ถ้าขึ้นบ้านได้ทรัพย์สินน้อย ก็จะเข้าไปขโมยบ้านต่อไปอีก วิธีหรือเทคนิคของขโมยพวกนี้ตามที่ได้รับรายงานจากตำรวจเชอรีฟมี 4 ประเภท ดังนี้

1. ขโมยชนิดแรก เป็นขโมยที่มีสายให้ข้อมูลว่าเจ้าของบ้านไปพักร้อน โดยได้สั่งยกเลิกการส่งหนังสือพิมพ์อย่างชั่วคราว โจรชนิดนี้ได้รับรายชื่อและที่อยู่ของเจ้าของบ้านเหล่านี้จากคนที่ทำงานใน LA Times ที่ขโมยข้อมูลดังกล่าวให้เพื่อนร่วมแก๊งนำไปหาเหยื่อขโมยของนำไปขายได้แล้วแบ่งเปอร์เซ็นต์กัน ถ้าท่านเคยถูกขโมยขึ้นบ้าน และเคยไปบอก LA Times ว่าขอให้หยุดส่งหนังสือพิมพ์ชั่วคราวล่ะก็ รีบโทรศัพท์ติดต่อ LASD Detective Jack Jordan 562-946-7893 เพราะตำรวจสามารถจับแก๊งนี้ได้แล้ว ได้ของกลางมามากมายหลาย ๆ ชิ้น ยังหาเจ้าของคืนไม่ได้ ดูจากรูปผู้ต้องหา อุปกรณ์ที่ใช้และของกลางที่ยึดมาได้ ขโมยพวกนี้จะมาหลายคน 4-5 คน เพราะมีเวลามาค้นของในบ้านเยอะแยะ เพราะไม่มีใครอยู่ บางครั้งนำรถแวนมาขนเหมือนจะย้ายบ้านให้เราอย่างนั้นเละ

2. ขโมยชนิดที่สอง จะมากันประมาณอย่างน้อย 2 คน คอยดูว่า เจ้าของบ้านอยู่คนเดียว หรือมีคนชราอยู่ตามลำพัง พอเจ้าของบ้านขับรถออกจากบ้านไปทำงาน ขโมยก็จะเข้ามางัดประตู หน้าต่างเข้าไปขโมยของมีค่าของท่าน ส่วนใหญ่จะขึ้นไปห้องนอนก่อน เพราะขโมยรู้ว่า ของมีค่า ตู้เซฟจะอยู่ในห้องนอน ส่วนอีกคนก็จะนั่งรอในรถคอยดูลาดเลาว่ามีคนหรือตำรวจมาหรือเปล่า

3. ขโมยชนิดที่สาม จะมากัน 2-3 คน คนหนึ่งจะแต่งตัวเหมือนเจ้าหน้าที่ของซิตี้ บ้างก็เป็นคนตรวจมิเตอร์แก๊ซ ประปา ไฟฟ้า มาเคาะประตู แล้วบอกว่า ขอตรวจมิเตอร์ของท่านหน่อย หรือต้นไม้หลังบ้านยาวรกเกินไป บังเอิญมิเตอร์เหล่านี้จะอยู่นอกบ้าน พอเจ้าของบ้านเดินตามเจ้าหน้าที่ปลอมไปหลังบ้านหรือด้านข้างของบ้าน คนร้ายอีกหนึ่งคนที่รออยู่จะเข้าประตูที่เราเปิดทิ้งไว้ เข้ามาขโมยของมีค่าจนพอแล้ว นายนี้ก็จะ Text ไปให้เพื่อนที่อยู่กับเจ้าของบ้านว่า เลิกแสดงละครได้แล้ว ฉันรออยู่ในรถแล้วพร้อมสิ่งของที่ขโมยมาเรียบร้อยคนนี้ก็จะบอกเจ้าของบ้านว่า โอเคจะกลับมาเปลี่ยนมิเตอร์ใหม่ให้ หรือเหตุผลอะไรที่เขาต้องรีบไป

4. ขโมยชนิดที่สี่ จะมากัน 2-3 คน บางที 4 คนเลยทีเดียวจะมีคนดูต้นทาง คนเข้ามาเคาะประตูหน้าบ้าน อาจมีผู้หญิงร่วมแก๊งด้วย จะเคาะประตูถามหาคนที่เราไม่รู้จัก หรือบอกว่าสุนัขเขาหายกำลังตามอยู่ พวกนี้ถ้ามีคนมาเปิดประตูก็จะใช้อาวุธจี้ บุกเข้าบ้าน บังคับให้บอกที่เก็บทรัพย์สิน รื้อกันทั่วบ้านทุกห้องโดยมี 2-3 คนช่วยกัน ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที จับคนในบ้านปิดปาก ผูกมือ เข้าไปขังในห้องน้ำก็มี แต่ถ้าเขาเคาะประตูแล้วไม่มีคนตอบรับ ก็จะงัดหน้าต่างหลังบ้าน หรือประตูหน้าบ้าน ไปค้นของเรา โดยมีคนคอยดูต้นทางอยู่หน้าบ้าน บางครั้งเอารถมาจอดที่หน้า Garage เราเลย

ฉะนั้น ข้อแนะนำในการป้องกันนักฉวยโอกาส ขโมยเหล่านี้ มีดังนี้

1. ปิดประตูหน้าต่าง ประตูหน้าบ้านทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ถึงจะประเดี๋ยวหนึ่งก็ตาม เพราะบ่อยครั้งทางตำรวจเราไปพบว่า หน้าต่างไม่ได้ปิด ประตูไม่ได้ล็อค โจรเข้าออกสบาย ๆเลย

2. ถ้าพอจะมีเงินหน่อย ก็ติดสัญญาณกันขโมยเข้าบ้าน ตอนนี้มีราคาถูก เดือนละ 15 เหรียญก็มี อย่าเสียดายเลย เพราะขโมยมันไปทุกเมืองแล้ว จะเป็นเมืองในถิ่นดี หรือไม่ก็ตาม โจรส่วนใหญ่มาจากนอกถิ่นทั้งนั้น บางบริษัทเขาสามารถติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ด้วย สามารถเห็นใครเข้ามาในบ้านในขณะที่เราอยู่ที่ทำงาน

3. ถ้าเลี้ยงสุนัขก็ดี เพราะโจรมันกลัวเสียง กลัวคนจะเห็นเดี๋ยวจะจำหน้ามันได้ กลัวจะมีลายนิ้วมือ ส่วนใหญ่จะใส่ถุงมือ หน้ากาก

4. อย่าเก็บของมีค่าไว้ในบ้าน โดยเฉพาะเงินสด จิวเวลรี่แพง ๆ เอาไปฝากไว้ในกล่องตู้เซฟ(Safe Deposit Box)ของธนาคาร ปีหนึ่งเสียค่าเช่าประมาณ 40 เหรียญที่ผมจ่ายอยู่ เหลือแต่สิ่งที่เราจำเป็นต้องใส่ไว้ในบ้านเท่านั้น

5. ถ้าจะไปพักร้อน ควรซื้อเครื่องเปิดปิดไฟโดยอัตโนมัติ แบบตั้งเวลาได้ โทรบอกกับสถานีตำรวจของท่านว่า จะไปพักร้อนช่วยส่งตำรวจ หรืออาสาสมัครมาตรวจด้วยฟรี โดยให้เบอร์ติดต่อฉุกเฉินแก่ตำรวจในกรณีที่เขาต้องติดต่อกับเจ้าของบ้าน

6. ให้คนที่มาตัดหญ้า มาตัดตามปกติ แต่สั่งให้เขาเก็บพวกนสพ.ท้องถิ่นที่ชอบมาทิ้งไว้หน้าบ้านเราออกไป มิฉะนั้นขโมยก็จะรู้ว่า บ้านไม่มีใครอยู่ก็เลยไม่มีคนออกมาเก็บเข้าบ้าน หรือบอกข้างบ้านเราให้ช่วยมาเก็บมาดูบ้านเราหน่อย มีของติดไม้ติดมือมาฝากเขาด้วยก็ยิ่งดี

7. ควรรู้จักพูดคุยกับเพื่อนบ้าน เผื่อให้เขาเป็นหูเป็นตาให้เรา โดยเราควรจะช่วยเขาเหมือนกัน ถ้ามีใครมาจอดรถหน้าบ้าน ใกล้ ๆ บ้านของเรา หรือเห็นอะไรที่ผิดปกติ ถ้าเห็นรถก็จดทะเบียนรถ โทรแจ้ง 911 ทันที เราจะมีตำรวจมาสอบถามคนเหล่านี้ให้ฟรี ยังบอกตำรวจตอนที่โทรแจ้งว่าเราไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนหรือมาเคาะประตูบ้านเราก็ได้โดยบอกว่า “ I do not want to be contacted” ประเดียวตำรวจก็จะมาตรวจสอบกับผู้ต้องสงสัยว่ามารออะไร มีอะไรที่ผิดกฏหมายอยู่ในรถหรือเปล่าเช่นอุปกรณ์ในการงัดแงะ มีประวัติอาชญากรรมหรือเปล่า ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเอง ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบ บางคนบ้านอยู่ติดกันอยู่เป็นปี ๆ ยังไม่รู้ว่าบ้านข้างเคียงเป็นใคร ไม่เคยพูดคุยกันเลย ต้องเปิดเผยตัวเองหน่อย งานนี้ตำรวจทำคนเดียวไม่ได้ ต้องได้ประชาชนเข้ามามีส่วนแจ้งเบาะแสด้วย ทางการมีโปรมแกรมเรียกว่า Neighborhood Watch เราควรจะเข้าไปร่วมฟัง ร่วมกิจกรรมกับเขา อย่ามัวแต่ทำงานอย่างเดียวพอกลับถึงบ้านก็ดูทีวีและนอนก่อนที่ภัยจะมาถึงตัวเรา

8. ถ้าใครมาอ้างว่ามาจากซิตี้หรือบริษัทอะไร ก็ขอดูบัตรประจำตัว ที่มีรูปถ่ายชัดเจน จะถ่ายสำเนาไม่ได้ ถ้าไม่มีหรือดูมีพิรุจ ให้โทร 911 ทันที ถ้าโทรจากเบอร์บ้าน ไม่ต้องบอกที่อยู่ ตำรวจจะรู้ว่าโทรมาจากไหน แต่ถ้าโทรจากมือถือก็ต้องบอกที่อยู่ให้ชัดเจน ถ้าต้องออกไปข้างนอกกับเจ้าหน้าที่ก็ปิดล็อคประตูบ้านเอากุญแจไปด้วย โทรบอกเพื่อนหรือใครก้ได้ว่าเราทำอะไรอยู่กับใคร เปิดมือถือไว้ยิ่งดีจะได้มีคนอื่นได้ยินเสียงด้วย

หมายเหตุ. ตำรวจเชอรีฟจะตั้งด่านตรวจ D.U.I. (จับคนเมาขับรถ) และตรวจใบขับขี่ (CDL) ดังนี้

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 ตั้งแต่เวลา 5.00 P.M. – 1.00 A.M. ในเมือง Bellflower

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 ตั้งแต่เวลา 6.00 P.M. – 2.00 A.M. ในเมือง Norwalk

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 ตั้งแต่เวลา 7.00 P.M. – 3.00 A.M. ในเมือง West Hollywood

โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย