Special Scoop



มวยไทยจากมุมมองของฝรั่งที่ชื่อ “เสือดาว”

มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ที่ทำให้คนทั่วโลกรู้จักเมืองไทยมาเป็นเวลานาน จากการจัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ที่ชื่อ UFC (Ultimate Fighting Championship) ยิ่งทำให้มวยไทยแผ่ขยายไปสู่สังคมตะวันตก วันหนึ่งผู้เขียนได้รู้จักกับ “เสือดาว” ซึ่งเป็นเจ้าของค่ายมวยในเมือง Huntington Beach ผ่านการติดต่อเพื่อชักชวนมาร่วมขบวนพาเหรดของตัวแทนชุมชนไทยที่จะเข้าร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีนในไชน่าทาวน์ ผู้ชายคนนี้มีความน่าสนใจในมุมมองของสิ่งที่เขามีต่อมวยไทยจนต้องขอนัดสัมภาษณ์เขาเป็นพิเศษเพื่อนำเอามุมมองของเขามาให้ผู้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยแอลเอ.ได้เห็นมุมมองของฝรั่งที่รักมวยไทยและอุทิศตัวให้กับมวยไทยมาเป็นเวลาถึง 26 ปี

ไทยแอลเอ: คุณมาสนใจมวยไทยได้อย่างไร ?

เสือดาว: ก่อนจะย้ายอยู่อเมริกาในปีค.ศ. 2002 ผมฝึกมวยไทยมาตั้งแต่อยู่ที่ประเทศอังกฤษ ด้วยความที่ผมเป็นคนมาจากบริเวณทางเหนือของประเทศอังกฤษในสังคมที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้แรงงาน แน่นอนคนอังกฤษจะเล่นฟุตบอลกัน วัยรุ่นส่วนใหญ่รวมทั้งผมซึ่งเป็นเด็กถ้าที่ไม่มีทิศทางของชีวิตก็จะเข้าไปอยู่ในแก๊งค์ แต่ผมเติบโตมาด้วยการถูกสอนให้ปฏิบัติตนให้ดี ด้วยความที่เป็นเด็กผมแดงที่มีนามสกุลเป็นครอบครัวคนโปแลนด์จึงโดนแกล้งบ่อย ๆ ผมจึงต้องหาวิธีป้องกันตัว จนไปเจอโฆษณาเกี่ยวกับมวยไทยในหนังสือพิมพ์

ขณะนั้นผมรู้จักแต่มวยสากล รู้จักกังฟูแต่ไม่รู้จักมวยไทย ผมเคยดูหนังเฉินหลง ซึ่งการต่อสู้ในหนังก็จะเป็นเหมือนโชว์มากกว่า ผมก็เลยไปที่ยิมตามโฆษณา และก็พบว่ามันไม่ใช่เหมือนในหนังที่เป็นแค่การแสดงท่าทางการต่อสู้แต่เป็นสถานที่มีคนฝึกฝนและซ้อมกันอย่างหนัก ซึ่งเป็นอะไรที่ใหม่กับผมมาก และด้วยความผมเป็นคนที่ไปยิมเพื่อสร้างกล้ามเนื้อเป็นประจำอยู่แล้ว ผมก็เลยบอกกับเจ้าของค่ายมวยไทยว่าผมสนใจจะมาเรียนรู้ตั้งแต่วันนั้น ผมเริ่มฝึกมวยไทยครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 เป็นต้นมาแล้วไม่เคยหยุดจนถึงทุกวันนี้ จนมวยไทยเข้ามาเป็นสิ่งที่ติดราวกับรอยสักในตัวของผมจนไม่สามารถแยกออกได้แล้ว

ไทยแอลเอ: จากการเรียนรู้ครั้งแรกที่อังกฤษแล้วมาถึงตรงนี้ได้อย่างไร ?

เสือดาว: หลังจากที่เรียนกับครูคนแรกซึ่งเป็นฝรั่งชื่อจอห์น สตีล เขาเป็นศิษย์ของ เสกน แก้วผดุง (ชื่อทางการชกคือ ณรงค์น้อย เกียรติบัณฑิต) ซึ่งเป็นนักมวยไทยแชมป์โลก และได้พบกับนักมวยไทยอีกหลายคนที่มีชื่อเสียงในประเทศอังกฤษ ครูจอห์นเขาก็ชวนผมให้ไปฝึกที่เมืองไทยด้วยกันเพราะเห็นว่าผมมีความสนใจมวยไทยมาก ผมตัดสินใจทำงานเก็บเงินเกือบ 1 ปีและสุดท้ายก็ได้ไปฝึกมวยไทยที่เมืองไทย ขณะนั้นมวยไทยไม่ได้มีความเป็นสากลเหมือนตอนนี้ ค่อนข้างอยู่ในกลุ่มเล็ก ๆ จะเข้าไปค่ายมวยแทบจะต้องได้รับการเชิญเข้าไป ซึ่งผมเป็นฝรั่งก็ค่อนข้างทำให้คนมองว่าจะรู้จักจะเข้าใจมวยไทยได้อย่างไร แต่ผมก็เปิดใจทำความเข้าใจความเป็นมวยไทย หลังจากที่อาจารย์จอห์นแต่งงานมีครอบครัวไปผมก็ต้องอยู่คนเดียวในประเทศไทย ทำให้ผมพยายามเรียนรู้ทุกอย่างจากคนไทยทั้งมวยไทยและการใช้ชีวิต ทำให้ผมเอาตรงนั้นมาถ่ายทอดในการสอนของผมในทุกวันนี้ด้วย

ไทยแอลเอ: ที่คุณบอกว่าสอนการใช้ชีวิตด้วยนี่หมายถึงอย่างไร?

เสือดาว: ที่ยิมตอนนั้นผมเจอคนออสเตรเลียซึ่งมาฝึกด้วย มีเราสองคนพูดภาษาอังกฤษ แต่ในการฝึกมันเป็นลักษณะที่มากกว่าการสนทนาผ่านคำพูด มันเป็นการสนทนาผ่านร่างกาย ท่าทาง สิ่งที่เราลงมือทำมันสำคัญที่สุด ขณะที่คุณอยู่บนสังเวียน คุณต้องจัดการทุกด้วยตัวเอง ไม่มีครอบครัว ไม่มีใครช่วย มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่อยู่ในตัวคุณเอง แต่ในค่ายมวยความสำเร็จมันไม่ได้มาจากเพียงแค่คน ๆ เดียวมันคือการช่วยเหลือของทุกคนที่อยู่ในนั้น ทีมงานมีความสำคัญมาก ดังนั้นเมื่อนักมวยประสบความสำเร็จแล้วเราจะต้องให้กลับไปที่ทีมงานด้วย

ผมมองความแตกต่างของโลกตะวันตกและตะวันออก ตะวันตกจะมีความเป็นปัจเจกมากกว่า ตะวันออกจะคิดถึงการทำงานร่วมกัน ความสัมพันธ์กับคนอื่น จากการที่เรียนเกี่ยวกับศาสนาพุทธ ทำให้เข้าใจว่าเราจะต้องพัฒนาจากข้างในออกข้างนอก ผมมองตัวเองเป็นคนไทยมากกว่าเป็นคนอังกฤษ ด้วยสิ่งที่ผมมองและความรักในความเป็นไทยมาก ๆ ผมมองเห็นว่าผมมีจุดที่สามารถเชื่อมโยงนำเอาส่วนที่ดีของทั้งสองโลกมาได้ ผมรู้จักฉัตรชัย รู้จักปาเกียว ผมพาฉัตรชัยมานี่ให้รู้จักกับปาเกียว ผมได้โอกาสที่จะพบกับคนดังในกลุ่มของมวยไทยระดับโลกมากมาย ผมยินดีที่ผมได้รับการยอมรับมาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมมวยไทย แม้ผมจะไม่ใช่คนไทย แต่ผมสามารถอธิบายส่วนของกีฬาการต่อสู้นี้ที่มีผลต่อการใช้ชีวิตผ่านมวยไทยได้

ไทยแอลเอ: การเรียนการสอนมวยไทยในสหรัฐเป็นอย่างไร ?

เสือดาว: ผมพบว่าคนที่มาเรียนมวยไทยที่นี่มาด้วยเหตุผลหลากหลายที่เขาเลือกมา บางคนก็มาเพียงเพื่อต้องการออกกำลังกาย เรียนรู้การต่อสู้ หรือบางคนก็อยากจะเป็นนักมวยอาชีพจริง ๆ แต่สำหรับผม ๆ ไม่ได้สอนแค่การต่อสู้ ผมสอนสิ่งที่อยู่ภายในจิตวิญญาณของมวยไทยด้วย ซึ่งก่อนที่จะนักเรียนจะเข้ามาเรียนรู้กับผมเราจะคุยกันก่อนว่าเรามีความเข้าใจร่วมกันว่าสิ่งที่เขากำลังต้องการเป็นสิ่งเดียวกับที่ผมต้องการถ่ายทอดให้เขา เพราะผมคิดว่ามวยไทยมีความพิเศษมากกว่าเพียงแค่การต่อสู้ซึ่งผมอยากจะถ่ายทอดตรงนี้ให้กับนักเรียนของผมทั้งหมด

ไทยแอลเอ: มวยไทยให้อะไรกับคุณบ้าง ?

เสือดาว: ถ้าคุณเปิดรับมวยไทย มวยไทยจะให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด ผมเปิดรับมวยไทยเต็มที่ด้วยใจที่ว่างเปล่า หากคุณเปิดรับ มันไม่ใช่แค่การต่อสู้ การฝึก แต่มันคือบทเรียนชีวิต มันคือการใช้ชีวิต อย่างที่ผมบอกแต่แรกว่ามวยไทยเป็นเหมือนกับรอยสักที่อยู่ทั้งภายนอกและภายในใจของชีวิตผม มวยไทยให้มุมมองของศิลปะที่มองไปยังโลก มันไม่ใช่แค่การต่อสู้บนสังเวียน แต่มันคือการต่อสู้กับจิตใจของตัวเองด้วย

นอกจากนั้นมวยไทยยังทำให้ผมได้มีประสบการณ์ใหม่ พบคนทั่วโลก ผมเพิ่งได้กลับเข้าบ้านวันนี้จากการเดินทาง ทำให้ผมเข้าใจว่าชีวิตคืออะไร ทำให้ผมมีมุมมองเป็นบวก และมวยไทยบอกว่าชีวิตคื ความสมดุล เวลาที่เราต่อสู้เหมือนว่าเราจะต่อสู้แต่จริงก็ไม่ได้ต่อสู้ด้วยเช่นกัน “like the fight but not the fight”

ไทยแอลเอ: อยากฝากอะไรถึงชุมชนไทยบ้าง ?

เสือดาว: ผมอยากให้คนไทยภูมิใจว่าประเทศไทยมีทุกอย่าง มีความสวยงามที่สุด อยากให้ทุกคนมีความภูมิใจในมรดกของวัฒนธรรม มวยไทยมีมานาน ต้องให้เกียรติผู้ที่สร้างมวยไทยขึ้นมา ซึ่งตรงนี้รวมถึงศิลปะวัฒนธรรมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดง ดนตรี การเล่นของไทย อะไรที่เป็นอัตลักษณ์ของความเป็นไทย ผู้ที่สร้างมา ความเสียสละของคนเหล่านั้นเป็นสิ่งที่คนไทยไม่ควรลืม และควรจะมีความภูมิใจตรงนั้น ผมมองว่ามวยไทยไม่ได้เป็นเพียงแค่การต่อสู้ แต่ยังเป็นความสวยงามและวัฒนธรรมไทย และผมอยากจะเป็นส่วนร่วมของสังคมไทยในการแสดงส่วนนี้ด้วย


เกี่ยวกับเสือดาว

“เสือดาว” หรือชื่อจริงคือ แอรอน มาลาวเซลสกี้ (Aaron Malaszewski) เป็นเจ้าของค่ายมวย Seuua Daao Muay Thai Gym มีประสบการณ์ทางด้านมวยไทยมาเป็นเวลา 26 ปี เป็นศิษย์ของเสกน แก้วผดุง ซึ่งเป็นแชมป์โลกมวยไทยสมัครเล่นนานาชาติและครูสอนมวยไทยที่มีชื่อเสียงทั้งในและนอกประเทศ ผู้อ่านที่สนใจเรียนรู้มวยไทยในแบบของ “เสือดาว” สามารถติดต่อเขาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์(714) 907-5494 หรืออีเมล์ INFO@SDMUAYTHAIGYMS.COM และสามารถข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เวบไซด์ https://www.sdmuaythaigyms.com/ หรือทางอินสตาแกรมและเฟสบุค @sdmuaythaigyms

ในงาน “121th Chinese Golden Dragon Parade” ที่จะเกิดขึ้นบริเวณไชน่าทาวน์ ลอสแอนเจลิสในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ที่จะถึงนี้ “เสือดาว”และลูกศิษย์ของเขาจะมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของขบวนชุมชนไทยเพื่อแสดงศิลปะมวยไทยให้ผู้เข้ามาร่วมงานหลายหมื่นคนได้ชม ขบวนพาเหรดของชุมชนไทยกว่า 30 ชีวิตนำโดยผู้แทนจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ร่วมด้วย Miss Asia USA คนล่าสุดชาวไทย ดนตรี นางรำและขบวนชุดไทย งานพาเหรดจะเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 13.00-15.00 น. ขอเชิญผู้อยู่ในบริเวณใกล้เคียงไปให้กำลังใจกัน ซึ่งผู้เขียนก็จะไปร่วมในงานพาเหรดนี้ด้วย…(เครดิต ภาพ/ข่าว: วลัยพรรณ เกษทอง)


วลัยพรรณ เกษทอง

ผู้สัมภาษณ์และเขียนบทความ