Special Scoop
ปกป้องตัวเองจากโควิด-19 ในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้

ในวันที่ 14 ธันวาคมซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปีของการที่วัคซีนเข็มแรกได้ถูกฉีดในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทาง Ethnic Media Service ได้เชิญ ดร.มาร์ค กาห์ลี่ รัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพและการบริการมนุษย์แห่งรัฐแคลิฟอร์เนียมาเพื่อให้ข้อมูลกับนักช่าวในชุมชนผ่านระบบประชุมทางโทรภาพด้วยโปรแกรมซูมถึงหมุดหมายของการฉีดวัคซีนในรัฐ เรื่องของไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน และขั้นตอนที่ดีที่สุดซึ่งชาวแคลิฟอร์เนียสามารถทำตามเพื่อที่จะปกป้องตัวเองและคนที่รักให้ปลอดภัยตลอดช่วงเทศกาลวันหยุดนี้

ดร.กาห์ลี่เริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า “ไอไมครอน” ว่า ขณะนี้เราพบไวรัสสายพันธุ์นี้ในหลายส่วน มันเป็นสายพันธุ์ที่แพร่หลายได้ง่ายกว่าสายพันธุ์เดิม แต่อย่างไรก็ตามเดลต้าก็ยังเป็นสายพันธุ์ที่เป็นหลักอยู่ ขณะนี้เราก็ยังทำการศึกษาอยู่ถึงไวรัสตัวใหม่ ในส่วนของวัคซีนก็อาจจะไม่สามารถปกป้องได้ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้เท่าเดิม ดังนั้นมื่อวานนี้เราได้ประกาศบังคับให้ใส่หน้ากากเวลาอยู่ในอาคาร เพื่อให้การป้องกันยังเข้มงวดอยู่ และไม่ทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนของผู้ป่วยในโรงพยาบาลมากขึ้น รวมทั้งยังขอให้คนที่กลับเข้ามายังแคลิฟอร์เนียให้เข้ารับการตรวจเชื้อโควิด 3-5 วันหลังจากมาถึง รวมทั้งได้เพิ่มมาตรการในการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการชุมชนขนาดใหญ่ โดยจะต้องแสดงผลตรวจแบบพีซีอาร์ภายใน 2 วันหรือ ตรวจแบบแอนติเจนภายใน 1 วันเป็นลบก่อนเข้าร่วมกิจกรรม

เมื่อปีที่แล้วได้มีการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับพยาบาลของไคเซอร์สาขาซันเซตในเมืองลอสแอนเจลิส และหลังจากนั้นเพียงอาทิตย์เดียวก็มีการเพิ่มขึ้นของคนที่ติดโควิดกันมาก ทำให้คนอยากจะมาฉีดวัคซีนมากขึ้น หลังจากนั้นก็มีการให้คนเข้ามารับการฉีดเป็นกลุ่ม ๆ ขณะนี้ก็มีการเรียกคนมาฉีดเพิ่มขึ้น ณ ปัจจุบันนี้มีวัคซีน 61 ล้านโดสได้มีการฉีดไป จนขณะนี้เรามีคนประมาณ 85% ที่ได้รับวัคซีน แม้แต่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบมากก็ยังมีเกินกว่า 70-75% ที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม ซึ่งเราพยายามที่จะทำงานร่วมกับองค์กรในชุมชนเพื่อสนับสนุนการนำวัคซีนเข้าไปสู่ผู้คนในชุมชน รวมทั้งให้ความรู้เพื่อชุมชนเห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีน นอกจากนั้นเราก็ได้ทำงานร่วมกับโรงเรียนในการตั้งบริเวณฉีดวัคซีนเพื่อให้นักเรียนและชุมชนได้เข้าถึงด้วย

ดร.กาห์ลี่ได้แนะนำว่าในช่วงเทศกาลนี้ถ้าหากว่าไม่ค่อยแน่ใจว่าจะไปชุมชนกับคนหรือไม่ ควรจะไปตรวจโควิด และไปฉีดวัคซีน เพื่อความปลอดภัย หลายคนเสียใจที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือไม่ยอมไปตรวจโควิด

ในขณะนี้มีประชาชน 6 ล้านคนได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยคุณสมบัติของคนที่จะได้วัคซีนเข็มกระตุ้นคือ คนที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์หรือโมเดอร์น่าเข็ม 2 ไปแล้วอย่างน้อย 6 เดือน หรือคนที่ได้รับวัคซีนจอห์นสันแอนจอห์นสันไปแล้วอย่างน้อย 2 เดือน ชุมชนควรอย่ารอให้มีวัคซีนใหม่ที่จำเพาะต่อสายพันธ์ใหม่ หากใครที่มีคุณสมบัติครบควรจะไปเข้ารับวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันทันที เพื่อปกป้องตัวเองจากช่วงเทศกาลวันหยุดนี้

ส่วนคนที่ไม่ได้อยากจะฉีดวัคซีนนั้นอยากให้พิจารณาดูสถิติของผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไวรัสโควิดและไม่ได้ฉีดวัคซีนซึ่งมีอาการหนัก ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองหรือเรื่องทางศาสนาใด เราอยากให้พวกเรามาคุยกันเพื่อทำความเข้าใจ

เรื่องของการกลายพันธุ์ของไวรัส ที่สำคัญคือเราต้องให้คนฉีดวัคซีนให้มากที่สุด จะช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัสและสามารถช่วยลดโอกาสในการกลายพันธุ์ได้เพิ่มขึ้น คนที่บอกว่ามีสายพันธุ์ใหม่มาทำให้วัคซีนไม่ได้ผลนั้น ทางดร.กาห์ลี่คิดในทางตรงข้าม เขาคิดว่าการฉีดวัคซีนก็ยังดีกว่าไม่ฉีด โดยเฉพาะการที่ได้รับวัคซีนกระตุ้นภูมิจะช่วยป้องกันได้

วัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนโควิดเป็นคนละส่วนกัน เราเริ่มฉีดไข้หวัดใหญ่ช่วงนี้ก่อนถึงช่วงระบาด ส่วนวัคซีนโควิดก็ป้องกันโควิดซึ่งมีความจำเพาะต่อเชื้อไวรัสที่มากกว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่เสียอีก

ขณะนี้สามารถการตรวจโควิดสามารถไปตรวจได้ในหลายที่ เช่น ร้านขายยาในชุมชน หรือในบริการเคลื่อนที่ ๆ อยู่ทั่วชุมชน

เรื่อง: วลัยพรรณ เกษทอง ผู้เขียน