Special Scoop



กลับไทย ด้วยระบบใหม่ Thailand Pass

เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลก และทางประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศ จึงผ่อนผันกฎเกณฑ์การเข้าราชอาณาจักรทางอากาศ สำหรับสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็น 1 ใน 63 ประเทศที่ได้รับการผ่อนปรนที่มีความเสี่ยงน้อย หากผู้เดินทางได้รับวัคซีนครบโดส อย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทาง จะได้รับยกเว้นการกักตัว แต่จะต้องพักรออย่างน้อย 1 คืน ในโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA+ (Safety and Health Administration) หรือโรงแรมที่ได้รับประกาศกักตัว เพื่อรอผลการตรวจโควิดเป็นลบ ซึ่งระบบใหม่ในการลงทะเบียน เรียกว่า Thailand Pass เริ่มใช้ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2021 รายละเอียดหาอ่านได้ที่ www.thaiconsulatela.org

ระบบขั้นตอนโดยสรุปที่ผู้เขียนได้ดำเนินการมา จึงขอมาแชร์เพื่อการเตรียมพร้อมของคนไทยในแอลเอ สหรัฐอเมริกา ที่รอคอยโอกาสนี้มานานโดยไม่ต้องถูกกักตัวแล้ว

เริ่มแรกที่ต้องการจะเดินทาง

1. ตรวจดูทั้งพาสปอร์ตไทย และพาสปอร์ตอเมริกันว่ายังไม่หมดอายุ ถ้าพาสปอร์ตไทยหมดอายุแล้ว ต้องใช้เวลาอีก 4-6 อาทิตย์ในการยื่นเรื่องเพื่อขอพาสปอร์ตเล่มใหม่

2. ติดต่อหาซื้อตั๋วเอง ผ่านออนไลน์ สายการบิน แทรเวิลเอเจนท์ ตามสะดวก หากคิดว่าจะไปไทยนานเป็นเดือนๆ และไม่รู้ว่าโควิดสายพันธุ์ใหม่จะระบาดอีกระลอกไหม ประเทศไหนจะปิดอีก หรือไม่ให้ Transit หรือมีปัญหาช่วงต้องเดินทางกลับอเมริกา อีกทั้งเหตุฉุกเฉินต้องเลื่อนการบินออกไป ก็น่าจะซื้อโดยตรงผ่านสายการบิน ซึ่งมีราคาแพงกว่าประมาณ $40 ในชั้นประหยัด เรียกว่าซื้อความสบายใจ เพราะการที่มีปัญหาเกี่ยวกับตั๋ว เปลี่ยนหรือยกเลิกตั๋ว แต่ต้องโทรทางไกลจากไทยคุยกับบริษัทขายตั๋ว ก็ไม่สะดวกทั้งค่าโทรศัพท์และเวลาที่ต่างกัน และไม่ให้เปลี่ยนตั๋วอีก สายการบินมีออฟฟิศในกรุงเทพฯ และพูดภาษาไทยอยู่แล้ว

3. ระหว่างหาซื้อตั๋วเดินทาง ใช้เวลานั้นหาข้อมูลโรงแรม 1 คืน เรียกว่า 1-day Test & Go ที่ เว็บไซต์ www.asq.in.th มีทั้งโรงแรมในกรุงเทพฯ สมุทรปราการ ปทุมธานี ร่วมร้อยแห่ง แล้วแต่ความชอบ ตามรีวิว ทำเล ซึ่งถ้าเน้นถูกหรือระยะทางโรงแรมใกล้บ้านที่จะสะดวกเพื่อต่อแท็กซี่ โรงแรมส่วนใหญ่มีราคาพิเศษสำหรับคนไทย ต้องระบุถามไปด้วย

ซึ่งค่าโรงแรมในแพ็กเกจนี้รวมทุกอย่างแล้ว คือค่าโรงแรม 1 คืน ค่ารถรับจากสนามบินไปโรงแรม ค่าอาหาร 3 มื้อ ให้ Test Kit แบบ ATK 1 ชุด และอื่นๆ ตามระบุในโฆษณา ใบเสร็จรับเงินจะรวมค่าตรวจ RT-PCR 1 ครั้งที่โรงแรม จากโรงพยาบาลคู่ค้าที่ระบุในใบเสร็จรับเงิน ซึ่งถ้าผลตรวจเป็นลบ จึงจะออกจากโรงแรมได้

เมื่อสนใจโรงแรมไหน ก็คลิกตามลิงก์เพื่อติดต่อ โรงแรมส่วนมากจะบอกว่าอยู่แถวไหน ถ้าไม่บอกก็ต้องถามอากู๋ Google ติดต่อโรงแรมทางอีเมล หรือไลน์ ถ้าติดต่อทางอีเมล รอคิวนานเนื่องจากเขาไล่อ่านตามลำดับ เพราะเท่าที่ประสบมา อีเมลเขาเยอะมากๆ ทั้งจากคนไทยและคนต่างชาติทั่วโลก อีกทั้งเวลาเรากลางวัน ทางไทยเขากลางคืน แล้วก็ตามคิวอีก ถ้ามีไลน์ (LINE) เสนอให้ ก็จะเร็วกว่าในการตอบกลับ เพราะเราต้องการรู้ว่ามีห้องไหม ถ้าไม่มี จะได้ไปหาจองที่อื่น ซึ่งด้วยเวลากระชั้นชิด จึงต้องอาศัยพี่ที่ไทยโทรไปถามที่โรงแรมโดยตรง เขาจึงแซงคิวอีเมลตอบให้ พร้อมจ่ายค่าโรงแรมให้ด้วยเสร็จสรรพ จึงได้ Booking Number พร้อมใบเสร็จฯ และรายละเอียดต่างๆ

เอกสารที่โรงแรมต้องการทางอีเมล

3.1 สำเนาพาสปอร์ตไทย

3.2 สำเนาการฉีดวัคซีนครบ

3.3 รายละเอียดไฟลท์การบิน

แนะนำให้ตรวจรายละเอียด อ่านเอกสารจากทางโรงแรมให้ครบว่าถูกต้องตามวันและเวลาที่เครื่องลง เพราะที่ประสบมา คือเขาพิมพ์เวลาเครื่องบินผิดไปว่าลงก่อนเวลา 6 ชม. จะเกิดการผิดพลาดกับรถที่ต้องมารอรับเก้อ หรือเราเองอาจต้องมารอรถดึกดื่นเที่ยงคืน และหากเครื่องลงกลางคืน ก็ต้องระบุตอนจองว่า Check in ในคืนนั้นเพื่อความไม่สับสน ถึงแม้ว่ากว่าจะออกจากสนามบินเพื่อเข้าโรงแรมจะเป็นวันรุ่งขึ้นแล้วก็ตาม

4. เข้าระบบเพื่อลงทะเบียนที่ https://tp.consular.go.th เพื่อแจ้งการเดินทางเข้าประเทศไทย ทางการระบุให้ลงทะเบียนก่อนเดินทางอย่างน้อย 7 วันทำการ (7 working days) ทำแต่เนิ่นๆ ได้ยิ่งดี เพราะคนเดินทางเยอะมากๆ เจ้าหน้าที่ดำเนินการไม่ทัน จึงมีเสียงกร่นด่าต่อว่าทางออนไลน์จากชาวต่างชาติ ส่วนเอกสารที่ต้องใช้อัพโหลดต้องเป็นภาพ/รูปภาพ jpeg/jpg png ถ้าเอกสารเป็น pdf จะ upload ไม่ได้ ก็ต้องแปลงไฟล์เป็นภาพ หรือถ่าย screenshot ที่ได้ภาพชัดอ่านได้ง่าย เอกสารที่ต้องใช้คือ

4.1 สำเนาพาสปอร์ตไทย

4.2 สำเนาเอกสารการฉีดวัคซีน ถ้ามีแบบ QR code (optional) ด้วย จะช่วยให้ได้รับอนุมัติเร็วขึ้น (ส่งทั้ง 2 อย่าง) ให้เข้าไปที่ myvaccinerecord.cdph.ca.gov กรอกข้อมูลเสร็จ เขาจะส่งลิงก์มาทางเท็กซ์ เพื่อจะได้รับ QR Code (SMART Health Card) เป็นข้อมูลการได้รับวัคซีนโควิด

4.3 หลักฐานการจอง/จ่ายเงินค่าโรงแรม 1 คืน พร้อม Booking Number ที่โรงแรมแจ้งไว้

หลังจากดำเนินการครบ และ submit เรียบร้อย จะมีระบบตอบกลับอัตโนมัติทางอีเมล จาก thpass@tp.consular.go.th แจ้งให้รอผลพิจารณาการลงทะเบียนภายใน 7 วันทำการ ที่จะได้รับเป็น QR Code เพื่อยื่นแสดงตอนเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบินและเมื่อถึงประเทศไทย สามารถพิมพ์เป็นกระดาษไว้

5. ลงทะเบียนการตรวจเชื้อโควิด-19 ผ่านทางออนไลน์ หรือจากหมอของท่าน ถ้าผ่านทางออนไลน์เอง เช่น CVS.com หรือ Curative.com ลงจองวันและเวลา ซึ่งถ้ามีประกัน เขาก็ไปเบิกจากบริษัทประกัน ถ้าระบุว่าไม่มีประกัน เขาจะไปเบิกกับรัฐบาล ถึงขั้นตอนสุดท้ายของการลงทะเบียน เขาจะถามซ้ำว่า แน่ใจนะที่ไม่มีประกัน จึงควรทำให้ถูกต้องตามความเป็นจริงจะดีที่สุด ถ้าไม่มีประกัน ทุกคนก็ได้รับการตรวจฟรี ภายใต้กฎหมาย The CARES Act 2020 ที่เขาสามารถไปขอเบิกกับรัฐบาลแทน

ผู้เขียนทดลองใช้บริการของ Curative ซึ่งมีสาขาเป็นแบบคีออสก์ Kiosk ตั้งบู๊ธ และเต๊นท์ชั่วคราว ที่เราจองวันและเวลาไว้แล้ว แต่ถ้ามาสายเป็นชั่วโมงๆ ก็ไม่ว่ากัน แค่เอา QR Code การจอง ยื่นให้เขา พร้อมใบขับขี่/ไอดี และยืน swab เอง ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ที่นั่งด้านหลังกระจก ถ้าไม่เข้าใจ เขาจะอธิบายทีละขั้นตอน ให้ swab วนในจมูกข้างละ 15 วินาที เก็บตัวอย่างใส่เข้าหลอดและปิดฝา เสร็จภายใน 5 นาที ตรวจบ่าย กลางคืนก็ได้รับผลแล้วทางอีเมลและเท็กซ์ ถึงแม้เขาระบุว่าใช้เวลา 2-3 วันที่จะได้รับผลตรวจ แต่ส่วนมากก็ใช้เวลาประมาณ 1 วัน

ต้องพิมพ์เอกสารนี้ไว้เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์สายการบิน ซึ่งผลตรวจที่เป็นลบถึงจะขึ้นเครื่องได้ และเพื่อแสดงเมื่อเข้าถึงประเทศไทย

สุดท้าย ไม่ลืมที่จะรวบรวมเอกสารทั้งหมด ตารางการบิน ใบฉีดวัคซีน ผลตรวจโควิด เอกสารโรงแรม Thailand Pass QR Code พร้อมทั้งพาสปอร์ตไทยและอเมริกัน เตรียมพร้อมในการเดินทาง

Bon voyage! ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ

หมายเหตุ: ผู้เขียนเขียนคอลัมน์นี้ขึ้นเพื่อแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวว่าการเดินทางที่ต้องมีกฎเกณฑ์การยื่นเรื่อง ดำเนินการ มีขั้นตอนอย่างไร และเป็นการเดินทางของคนไทย ถือพาสปอร์ตไทย (จึงไม่ต้องซื้อประกันสุขภาพในวงเงินขั้นต่ำ $50,000 สำหรับคนต่างชาติ) ฉีดวัคซีนครบแล้ว รวมทั้ง Booster shot (optional) (หาฉีดได้โดยไม่จำเป็นต้องอายุครบ 65 ปี ที่ CVS.com เลือกวัคซีนได้ หรือ Walk-in) ในการลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass 1-day Test & Go

ลีนา ดีสมเลิศ