“One Big Beautiful Bill Act”ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เซ็นกฎหมายฉบับนี้ขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4กรกฎาคม2025 วันชาติ (Fourth of July) เป็นการปฏิรูปนโยบายการจัดเก็บภาษีและการลดหย่อนภาษี ตลอดจนการจัดงบประมาณอย่างมากในด้านความมั่นคงเป็นประวัติศาสตร์ในอเมริกา ภาษีหลายๆประเภทถูกตัดออกไป เช่น No Tax on Tips และ No Tax on Overtime Pay, and No Tax on Social Security ได้ใจประชาชนชั้นกลาง และ สูงวัย ตามที่ได้หาเสียงไว้ ตามที่ท่านพูดว่า “ Promises Made, and Promises Kept” ซึ่งคิดว่าหลายๆ ท่านคงจะทราบกันดีพอสมควรแล้ว
แต่วันนี้ผมอยากจะเขียนเน้นถึงผลกระทบต่อชุมชนไทย-อเมริกันในสหรัฐอเมริกาว่ามีผลกระทบ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมอย่างไรนะครับโดยเฉพาะในเรื่องImmigrants
“One Big Beautiful Bill Act”ฉบับเลขที่1ของสภาล่างหรือเรียกว่า H.R.1 (H.R. = House of Representative) ซึ่งเป็นชื่อเรียกแบบเป็นทางการของกฎหมายที่ถูกเสนอโดย สส.Arrington, Jodey สส. พรรครีพับลิกัน รัฐเท็กซัส เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2025 มุ่งเน้นเรื่องการปฏิรูปการจัดเก็บภาษี การใช้จ่ายในนโยบาย คนเข้าเมืองและการควบคุมชายแดนก็เปลี่ยนแปลงมากมายโดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับแรงงานต่างชาติ ครอบครัวที่มีหลายสถานะทางกฎหมาย หรือธุรกิจบริการต่างๆ เช่น ร้านอาหาร ร้านนวด สปา โรงแรม ล้างรถ และอื่นๆ
1. ผลกระทบด้านสถานะคนเข้าเมือง
• ครอบครัวไทยที่สมาชิกที่มีสถานภาพไม่ตรงกัน เช่น ลูกเป็นพลเมืองแต่พ่อแม่ไม่มีเอกสาร จึงอาจรู้สึกหวาดผวาหรือไม่มั่นคงมากขึ้น
• ผู้ที่อยู่เกินวีซ่าหรือไม่มีเอกสารถูกต้องตามกฎหมายอาจมีความเสี่ยงต่อการถูกจับกุมหรือส่งกลับประเทศมากขึ้น
• ผู้ที่เคยเดินทางมาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวและอยู่ต่อ อาจตกเป็นเป้าหมายของการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้น
2. ผลกระทบต่อธุรกิจขนาดเล็กและแรงงาน
• คนไทยจำนวนมากมาทำงานหรือเป็นเจ้าของกิจการในร้านอาหาร ร้านนวด สปา และร้านเสริมสวย ทำผม เล็บซึ่งมักพึ่งพาแรงงานที่เป็นผู้อพยพ
• หากกฎหมายบังคับใช้แบบเข้มงวด โดยการตรวจสอบแรงงานตามสถานที่ต่างๆ อาจเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน มีค่าปรับ หรือค่าดำเนินการที่สูงขึ้น หาคนงานที่มีใบทำงานไม่ได้ง่าย
• ธุรกิจรูปแบบใหม่อย่างCloud Kitchenหรือร้านอาหารไทยขายออนไลน์อาจได้รับผลกระทบหากลูกค้ากลุ่มผู้อพยพรู้สึกไม่ปลอดภัยในที่ทำงาน
3. การเข้าถึงบริกาด้านสุขภาพและสวัสดิการ
• กฎหมายจำกัดสิทธิการเข้าถึงสวัสดิการของผู้อยู่อาศัยที่ไม่ใช่พลเมืองโดยตรง อาจทำให้ชาวไทยที่มีวีซ่าหรือใบเขียวไม่กล้าเข้ารับการรักษาหรือขอความช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วย
• ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในอเมริกาโดยไม่มีสถานะถาวร อาจได้รับผลกระทบหากกฎใหม่ตัดสิทธิประกันสุขภาพหรือความช่วยเหลืออื่นๆ จากรัฐบาลกลาง
4. ผลกระทบต่อวัฒนธรรมและการเดินทาง
• หากกฎหมายมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการออกวีซ่า และส่งผลต่ออุปสรรคการเข้าเมือง อาจมีผลกระทบต่อการเดินทางมาเยี่ยมของครอบครัวจากไทย การจัดกิจกรรมทางศาสนา หรือการเดินทางของพระสงฆ์
• วัดไทยในสหรัฐฯ อาจต้องปรับเปลี่ยนการขอวีซ่าเดินทางของพระสงฆ์ หรือคุณครูที่มาทำงานด้านวัฒนธรรม
5. โอกาสในการรวมพลังและขับเคลื่อนสังคม
• กฎหมายนี้อาจจุดประกายให้คนไทยในอเมริกาเกิดความตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น มีการรวมกลุ่มเพื่อปกป้องสิทธิของตนเองและผลักดันนโยบายที่เป็นธรรม
• องค์กรไทยในอเมริกา เช่นสมาคมไทยอเมริกันแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้(T.A.A.S.C.)สมาคมนวดไทยและสปาแห่งอเมริกา (NTSAA)หรือหอการค้าไทย-อเมริกัน(T.C.C.C.)ทื่ ต่างๆ และองค์กรอื่นๆ ต้องเพิ่มบทบาทในการสนับสนุนให้พวกเราออกมาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมในท้องถิ่น ร่วมกิจกรรมกับชุมชนอื่นๆ ให้สมาชิกเข้าหานักการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับ เพื่อขอความช่วยเหลือ ให้ข้อมูลทางกฎหมายและการศึกษาแก่ชุมชนไทยให้มีความรู้มากขึ้น
ข้อควรปฏิบัติของชุมชนไทยในอเมริกา ภายใต้กฎหมาย “One Big Beautiful Bill Act”และมาตรการด้านคนเข้าเมือง
เพื่อความปลอดภัย ความมั่นคง และการดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีในสหรัฐอเมริกา ขอแนะนำแนวทางปฏิบัติดังนี้:
1. รู้สิทธิของตน
• หากคุณเป็นพลเมืองสหรัฐฯ (U.S. Citizen)ผู้ถือกรีนการ์ด (Green Card)หรือมีวีซ่าถูกต้องควรรู้ว่าคุณมีสิทธิอะไรบ้าง และสิทธิใดที่หน่วยงานรัฐไม่สามารถละเมิดได้
• หากคุณไม่มีเอกสาร (undocumented) ยังมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เช่นสิทธิที่จะเงียบ (Right to Remain Silent)และสิทธิในการไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านโดยไม่มีหมายค้น
2. เตรียมเอกสารให้พร้อม
• พกสำเนาบัตรประชาชนหรือใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)หรือหลักฐานสถานะที่ถูกต้องไว้กับตัว
• เตรียมแผนสำรองเช่น การมอบอำนาจ (Power of Attorney) ไว้ก่อนเพื่อให้คนที่เราไว้ใจดูแลบุตรหรือทรัพย์สิน หากคุณถูกควบคุมตัว
• ทำรายชื่อทนายหรือนักกฎหมายที่ไว้ใจได้เผื่อกรณีฉุกเฉิน
3. อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม
• ติดตามข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้เช่น เว็บไซต์ทางการของรัฐบาล หรือองค์กรที่ช่วยเหลือผู้อพยพอ่าน นสพ.ไทยที่มีบทความดีๆเป็นประโยชน์
• ปรึกษาผู้รู้ก่อนแชร์หรือก่อนทำตามคำแนะนำใดๆ บนโซเชียลมีเดีย
4. หากเจ้าหน้าที่มาที่บ้านหรือสถานประกอบการ
• อย่าเปิดประตูหากเจ้าหน้าที่ไม่มีหมายค้นที่ถูกต้องและต้องลงนามโดยผู้พิพากษา
• ขอให้เจ้าหน้าที่แสดงบัตรเจ้าหน้าที่และหมายค้นอย่างชัดเจน
• มีสิทธิที่จะไม่พูดและไม่เซ็นเอกสารใดๆ จนกว่าจะได้รับคำปรึกษาจากทนายความ
5. ร่วมมือกันในชุมชน
• เข้าร่วมองค์กรไทยในท้องถิ่น เช่น สมาคมไทยฯ สมาคมนวดไทยฯ วัด หรือกลุ่มช่วยเหลือแรงงาน
• แชร์ข้อมูลและช่วยกันดูแลผู้ที่อาจตกอยู่ในความเสี่ยง
6. เบอร์ติดต่อฉุกเฉิน
• เตรียมเบอร์ทนาย / องค์กรช่วยเหลือผู้อพยพ (เช่น ACLU, CHIRLA, หรือองค์กรท้องถิ่น)
• แจ้งให้ครอบครัวรู้ว่าต้องติดต่อใครในกรณีฉุกเฉิน
• สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส มีเบอร์โทร 323-580-4222 (24 ชม.)
สรุป:
“One Big Beautiful Bill Act”แม้มีเป้าหมายเพื่อความมั่นคงมั่งคั่ง (Make America Great Again)ให้ประเทศอเมริกาแล้ว ยังจะจัดระเบียบ จับกุม ด้านคนเข้าเมือง คนที่ไร้สถานะอยู่แบบผิดกฎหมาย ต้องรับผิดชอบ (Accountability) แบบเข้มงวด บางคนได้ก่อคดีร้ายแรงไว้ด้วย คนเหล่านั้นอาจเป็นส่วนน้อย แต่ตามการสำรวจคนที่อยู่แบบไร้สถานะ(Out of Status)มีกว่า22ล้านคนในประเทศนี้ เก็บสิบเปอร์เซ็นของประชากรทั้งหมด ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อชีวิตประจำวัน เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของชุมชนไทย และชุมชนอื่นๆ ในอเมริกา อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม นี่ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของโอกาสในการรวมพลังของคนไทยในสหรัฐฯที่มีประมาณสามถึงห้าแสนคนให้มีความสามัคคีให้เข้มแข็ง ช่วยเหลือกันยิ่งขึ้นไปนะครับ
โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย