ดร.การุณ รุจนเวชช์
ดร.การุณ รุจนเวชช์



ท่องเที่ยวประเทศไทย

เมื่อทราบว่า ประเทศไทย จะลดการกักตัวเหลือเพียงหนึ่งวัน จึงได้ติดต่อ คุณนภาพร ที่บริการการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทย ด้วยประสบการณ์ และด้วยอัธยาศัยที่น่ารัก ให้ซื้อ Health Insurance ที่บังคับสำหรับผู้เดินทางโดยใช้ US Passport เพื่อประกอบ Thailand Pass ซึ่งประกอบ ด้วย หลักฐานการได้รับ vaccine และ booster รวม ๓ เข็ม ที่อยู่ของโรงแรม หนังสือแสดงซื้อที่นั่งเครื่องบินไปกลับ และได้ตรวจ โควิด ๗๒ ชั่วโมง ก่อนเดินทาง จัดการซื้อ business class ของ Hawaiian Air จาก Honolulu ไป Narita เพื่อต่อเครื่อง Japan Air ถึงกรุงเทพ ด้วยราคา ๙ พันกว่าดอลล่าร์ แพงกว่า เมื่อ ๒ ปีก่อนเท่าตัว

แม้จะใช้เงินมากกว่าปกติ แต่ก็ไม่เกินงบประมาณที่จัดสรรไว้สำหรับการท่องเที่ยวอย่างสะดวกสบาย สมวัยเกษียณที่เพียรสอนภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยกว่า ๓๐ ปี

พอเครื่องเหินสู่ฟ้าจนบินนิ่ง หนุ่มสาวฮาวาย มาดูแลบริการ และคุยกับเราอย่างสุภาพสนุกสนาน ปานว่าเป็นชาวเกาะด้วยกัน

หันมองลงไปที่มหาสมุทร แปซิฟิค เห็นฝั่งเกาะ อยู่ใต้ปุยเมฆ สักพักเห็นเกาะ Ni’ihau อ่านว่า นิเฮา อยู่ใต้เกาะ Kauai อ่านว่า คาวายอิ ที่อยู่เหนือสุดในหมู่เกาะฮาวาย ๘ เกาะ เกาะนิเฮา เป็นเกาะที่มีเนื้อที่เป็นอันดับ ๗ มีเนื้อที่โดยรอบเพียง ๑๘๐ ไมล์ มีประชากรฮาวายแท้ อาศัยอยู่ (Inhabited) ๑๗๐ คน ที่ต่างจากเกาะอื่นๆอีก ๗ เกาะ คือเป็นเกาะส่วนบุคคล ที่ Elizabeth Sinclair ซื้อไว้ในปี ๑๘๖๔ ด้วยราคาเพียง ๑๐,๐๐๐ ดอลล่าร์ และได้ส่งต่อให้ลูกหลานครอบครัว Robinson และยังคงเป็นเกาะต้องห้าม {forbidden island}9hองได้รับเชิญเท่านั้น

๙ ชั่วโมงครึ่ง เครื่องบิน Hawaiian Air ชะลอร่อนลงสนามบิน Narita พนักงานญี่ปุ่น เอารถเข็นมารอรับไปห้องรับรอง Sagura พักดื่มทานอาหารตามสั่ง ไม่ใช่หยิบทานเช่นเมื่อ ๓ ปีก่อน ความไม่สะดวกคือการสื่อสาร ชาวญี่ปุ่นที่มีกิริยาสุภาพยังคงมีปัญหาทางการใช้ภาษาอังกฤษ แต่กระนั้น การได้พัก ๒ ชั่วโมงครึ่ง รวมกับการนอนราบบนเครื่องบินอย่างสบาย ทำให้พร้อมจะเดินทางต่อด้วย Japan Air

ระยะทางจากญี่ปุ่นมาประเทศไทยสั้นลง พนักงานต้อนรับไทย และญี่ปุ่น อ่อนน้อมมีจรรยา หมั่นมาคอยดูแล ทำให้การเดินทางต่ออีก ๗ ชั่วโมงเศษ ผ่านไปโดยเร็ว

ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา ก่อนเที่ยงคืน เงียบ ไม่มีนักท่องเที่ยวมากนัก มีเจ้าหน้าที่ ที่รู้จักคุ้นเคยมารอรับให้การช่วยเหลือ ๓ ปีก่อนเขาสามารถเอารถกอล์ฟ มารับถึงประตู แต่คนเข็นรถมาช่วยก็สะดวกสบาย จึงถ่ายวิดีโอเพื่อให้ญาติมิตรชม

แล้วก็มีเสียงของหญิงสาวที่ทำงานที่สนามบิน แต่ไม่ทราบหน้าที่ ตะโกนลั่นมาว่า “ห้ามถ่ายภาพ ห้ามถ่ายภาพ” แล้วนางก็แผดเสียงหยาบคาย ราวว่าจะให้ทุกคนรู้ในอำนาจของนาง ว่า “ลบออกให้หมด ลบออกให้หมด” นางเดินลิ่วมาเหมือนจะยึดโทรศัพท์จากมือผมด้วยกิริยาที่บรรยายไม่ถูก รู้สึกอย่างเดียวว่า ทราม จึงบอกไปอย่างสุภาพตามนิสัยว่า “นี่เป็นสมบัติส่วนตัว คุณยื้อไปจากผม ผมฟ้องคุณได้” เรื่องก็ยุติลง และก็คิดว่า ทำไมจึงห้ามถ่ายรูป ในเมื่อเป็นสถานที่สาธารณะ สนาบินใดๆไม่ได้ห้ามถ่ายภาพ และในเมื่อห้ามถ่ายรูป ทำไมไม่ติดประกาศที่ประหยัดเงินรัฐบาลได้มากกว่าไปจ้างผู้หญิงเช่นนี้มาไล่ล่านักท่องเที่ยวให้ทำลายภาพพจน์ที่สุภาพอ่อนโยนของหญิงไทย

รถของโรงแรมมารอรับไปตรวจโควิด ก่อนพาเข้า โรงแรม ระหว่างทางไปโรงพยาบาล หวนคิดถึงความสุภาพของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่ต่างจากหญิงไทยที่สนามบินราว ฟ้ากับดิน