ดร.การุณ รุจนเวชช์
ดร.การุณ รุจนเวชช์
บทที่ ๑๗ ใช้คำให้ถูก (ต่อ)

อาทิตย์นี้คำสับสนมาเสนอดังนี้

AMOUNT VS. NUMBER

· Amount ใช้กับคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) เช่น

Your value doesn’t depend on the amount of money you make.

คุณค่าของคุณ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่คุณหาได้

· Number ใช้กับคำนามที่นับได้ พหูพจน์ (Countable Noun) เช่น

I was surprised at the number of elephants in Thailand.

ผมประหลาดใจในจำนวนช้างที่ประเทศไทย

ANOTHER VS. OTHER

· Another เป็นเอกพจน์ตลอดเวลา เขียนเป็นคำเดียว หมายถึง “อีกอัน, อีกอย่าง, อีกคน, อีกเรื่อง” จะใช้ตามลำพัง หรือกับคำนามเอกพจน์ หรือกับ one เช่น

If you don’t like this restaurant, let’s try another.

ถ้าเธอไม่ชอบร้านนี้ เราไปลองร้านอื่นไหม

This dress is too small. I’m going to put on another one.

เสื้อชุดนี้เล็กไป ฉันจะใส่ชุดใหม่

Would you like to have another piece of pie?

คุณต้องการพายอีกชิ้นหรือไม่

· Other ใช้กับคำนามเอกพจน์ และพหูพจน์ ถ้าไม่มีคำนามตามมา other เป็นเอกพจน์ others เป็นคำพหูพจน์ The other ใช้หมายถึง “อีกสิ่ง อีกอย่าง อีกคน” ในจำนวนสองรายการ The others ใช้หมายถึง “อื่นๆที่เหลือทั้งหมด” เช่น

The secretary told the applicant to come back some other time.

เลขานุการณ์บอกผู้สมัครให้กลับมาใหม่อีกครั้ง

I prefer to go with the other girls.

ฉันพอใจที่จะไปกับผู้หญิงคนอื่นๆ

ANY VS. SOME

· Any กับ Some นำมาผสมกับคำอื่นๆ เป็น anyone, anybody, anything, someone, somebody, something

· Any ใช้กับประโยคปฏิเสธ Negative Statements เช่น

I didn’t receive any mail today. ผมไม่ได้รับจดหมายวันนี้

หรือประโยคบอกเล่าที่มีความเป็นปฏิเสธ เช่น

He did all the work without any help.

เขาทำงานทั้งหมดโดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือ

· Any ใช้กับประโยคบอกเล่า Affirmative Statements หมายถึง “ไม่มีโดยไม่มีข้อแม้” เช่น

I can answer any questions you have.

ผมจะตอบคำถามทั้งหมดที่คุณมี

· Some ใช้กับประโยคบอกเล่า เช่น

I received some mail from my friend in California today.

ฉันได้รับจดหมายจากเพื่อนที่แคลิฟอร์เนีย วันนี้

I have some coffee for you this morning.

ฉันมีกาแฟให้คุณเช้านี้

อาทิตย์หน้า จะเสนอต่อ