ข่าวจากกงสุล



ข่าวจากกงสุล 17 ธันวาคม 2559

ด้วยมลรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นพื้นที่ซึ่งมีความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติหลายรูปแบบ ได้แก่ ไฟป่า น้ำท่วม สึนามิ โดยเฉพาะแผ่นดินไหว สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส จึงขอประชาสัมพันธ์การเตรียมความพร้อมของชาวไทยเพื่อรับมือกับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในเบื้องต้น ทั้งนี้ เนื่องจากหน่วยงานกู้ภัยอาจไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่าง ๆ หากระบบการสื่อสารขัดข้องหรือระบบคมนาคมขนส่งหยุดชะงัก จึงมีความจำเป็นที่ประชาชนต้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินในชั้นต้นด้วยตัวเอง ดังนี้

๑. จัดเก็บเสบียง เตรียมอาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรคให้เพียงพอสำหรับ ๓ วัน (เป็นอย่างน้อย) – ๒ สัปดาห์ (น้ำดื่ม ๑ แกลลอน/ คน/ วัน)

๒. จัดเตรียมอุปกรณ์ของใช้ที่จำเป็น อาทิ Disaster Supplies Kit อุปกรณ์ดับเพลิง วิทยุพกพา ถ่านไฟฉาย อุปกรณ์ในรถยนต์ ชุดปฐมพยาบาล อุปกรณ์สุขอนามัย เงินสดที่เป็นธนบัตรใบย่อยและเหรียญ เอกสารสำคัญ ของใช้จำเป็นสำหรับเด็กเล็ก รวมถึงแผนการฉุกเฉินสำหรับครอบครัว

๓. ประชาชนควรลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นและเข้าถึงแหล่งข้อมูลการแจ้งเตือนของทางการต่าง ๆ อาทิ www.readyla.org, PrepareLANow.org, www.espfocus.org หรือดาวน์โหลดคู่มือการเตรียมความพร้อมรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินฉบับภาษาไทยที่ www.espfocus.org/uploads/OEM-EmerSurvGd-Guts-THA.pdf

๔. ทบทวนทักษะที่จำเป็นต่าง ๆ อาทิ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การใช้ถังดับเพลิง การปิดระบบแก๊ส ไฟฟ้า น้ำประปาของอาคารบ้านพักอาศัย รวมถึงขั้นตอนการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ซ้อมหาที่กำบังขณะแผ่นดินไหว


สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ได้รับแจ้งจากกระทรวงแรงงานขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์โครงการส่งเสริมศักยภาพสร้างมาตรฐานฝีมือแรงงานไทยในต่างประเทศ ตามนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก จัดอบรมและทดสอบผู้ผ่านมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาผู้ประกอบอาหารไทย ระดับ ๑ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จำนวน ๔๐ คน โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

(๑) เพื่อให้แรงงานไทยในต่างประเทศได้รับความรู้และทักษะฝีมือได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ

(๒) เพื่อให้แรงงานไทยในต่างประเทศมีโอกาสก้าวหน้าในการทำงานและโอกาสในการขยายตลาดแรงงาน

(๓) เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ด้านอาหารไทยให้เป็นที่ยอมรับของชาวสหรัฐฯ

(๔) เพื่อยกระดับธุรกิจร้านอาหารไทยและภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น

ในการนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอให้ผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ แจ้งรายชื่อเพื่อรวบรวมประสานกับกระทรวงแรงงานหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่คุณสุทธิดา ทองดี (๓๒๓) ๙๖๒- ๙๕๗๔ ต่อ ๒๐๘ หรืออีเมล์ suttida.t@thaiconsulatela.org


เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๙ นายธานี เเสงรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสเเอนเจลิส ได้พบกับ Associate Director Paul Rausch, Center for Southeast Asia Studies ที่มหาวิทยาลัย University of Hawaii Manoa โดยศูนย์ฯ ให้ความสำคัญกับการทำ subtitle ให้หนังในประเทศเอเชีย เเละล่าสุดมีความสนใจในการจัดทำ subtitle ให้กับหนังไทย โดยจะเน้นหนังไทยในตำนาน (Thai Classical Film) เเละหนังประวัติศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อมูลในการเรียนการสอนต่อไปและสามารถเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัยได้ด้วย


เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๙ นายธานี เเสงรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสเเอนเจลิส ได้พบปะกับนักศึกษาไทยที่มหาวิทยาลัย University of Hawaii Manoa ที่ Center for Southeast Asian Studies โดยมีอาจารย์ยุพาพรรณ หุ่นจำลอง อาจารย์ภาควิชาภาษาไทย เเละ Professor Bill Chapman คกก. Board of Southeast Asian Studies /ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีเอเชีย เเละนักศึกษาไทยที่เรียนในสาขาต่าง ๆ เช่น สาขาพลังงาน วิทยาศาสตร์ ฯลฯ เข้าร่วมประมาณ ๑๕ คน สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

กงสุลใหญ่ฯ ได้กล่าวว่า

(๑) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จขึ้นทรงราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร ของรัชกาลที่ ๑๐ แล้วเมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ ขอถวายพระพรร่วมกับชุมชนไทย

(๒) สถานกงสุลใหญ่ฯ ให้ความสำคัญกับการวมตัวของชุมชนไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะในสาขาวิชาชีพต่าง ๆ และพร้อมให้การสนับสนุนกิจกรรมของนักศึกษาไทย

(๓) พร้อมให้บริการประชาชนด้านต่าง ๆ โดยระหว่างวันที่ ๑๐-๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ สถานกงสุลใหญ่ฯ มีกำหนดจัดโครงการกงสุลสัญจรที่วัดพุทธจักรมงคลวราราม มลรัฐฮาวาย

(๔) เสริมสร้างให้ชุมชนไทยเข้มเเข็ง โดยสนับสนุนการจัดตั้งและดำเนินงานของสมาคมต่าง ๆ เช่น สมาคมนวดเเละสปาไทยในสหรัฐฯ สมาคมร้านอาหาร นอกจากนี้อยากเห็นการจัดตั้งสมาคมกีฬา

(๕) ส่งเสริมนโยบาย "ประเทศไทย ๔.๐” โดยต้องการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย ที่จะขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมเเละเทคโนโลยี เช่น ในสาขาเกษตร (agritech) การเเพทย์ (medtech) หน่วยงานภาครัฐ (govtech) เเละส่งเสริม startups ของคนไทย เเละการลงทุนใน venture capital

กงสุลใหญ่ฯ ขอบคุณสมาคมนักศึกษาไทยที่ร่วมจัดกิจกรรม "Plant For Dad" ร่วมกับวัดธรรมวิหาร เเละพร้อมให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมของนักศึกษาไทยต่อไป


เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ นายธานี เเสงรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสเเอนเจลิส ได้พบหารือกับ Executive Director Shaun Moss เเละ Director Dustin Moss ประจำ Oceanic Institute, Hawaii Pacific University สรุปสาระสำคัญดังนี้

(๑) Oceanic Institute (OI) เป็นสถาบันวิจัยอิสระก่อตั้งมา ๕๖ ปี โดยเน้นเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เเละเห็นว่าสามารถร่วมมือกับไทยได้ ดังนี้

(๑.๑) การเพาะเลี้ยงปลาสวยงาม (ornamental fish) เพื่อลดการจับปลาเหล่านี้จากแหล่งธรรมชาติ ซึ่งมีตลาดสำคัญในเอเชียและอเมริกาเหนือ

(๑.๒) การทำฟาร์มปลา (fish farming) ในทะเล

(๑.๓) การทำฟาร์มกุ้ง(shrimp farming) อย่างยั่งยืน

(๑.๔) การผลิตอุตสาหกรรมอาหารให้สัตว์น้ำชายฝั่ง (aquaculture feeds) โดยขณะนี้มีความร่วมมือกับ อินเดีย เวียดนาม เเละจีนอยู่แล้ว

(๑.๕) การพัฒนาปรับปรุงพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อการประมงเเบบยั่งยืน โดยเน้น selective breeding and genetics เช่น ปลา yellow tail เป็นต้น

(๑.๖) สถาบัน OI พร้อมจัดหลักสูตรการอบรมให้คณะดูงานอย่างครบวงจร ในระยะเวลา ๗- ๑๐ วัน

(๒) สถาบัน OI มีความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เเละภาคเอกชนของไทย เช่น บริษัท Thai Union Group เเละกรมประมงในการทำวิจัยในลักษณะ public private partnership นอกจากนี้ มีความร่วมมือกับหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย เช่น อินเดีย เเอฟริกา ตะวันออกกลาง

(๓) สถาบันพร้อมร่วมมือกับประเทศไทยในการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาสัตว์น้ำ การร่วมกันทำการวิจัย เช่น การกำจัดเชื้อโรคในสัตว์น้ำ โดยเน้น selective breeding/aquatic feeds เพื่อพัฒนาสู่เชิงพาณิชย์

(๔) กงสุลใหญ่ฯ แจ้งว่า ไทยให้ความสำคัญกับการทำประมงอย่างยั่งยืนเพื่อแก้ปัญหา Illegal, Unreported, and Unregulated (IUU) Fishing และการส่งเสริมความร่วมมือทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายประเทศไทย ๔.๐ สำหรับเรื่องนี้คือด้านการเกษตรและอาหาร (Agtech/foodtech) รัฐบาลไทยได้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) เพื่อผลักดันนโยบายด้านนี้ ซึ่งมีความเร่งด่วนและต้องดำเนินการภายในวาระการทำงานของรัฐบาลนี้