สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน ฉบับที่แล้วได้พูดถึงเรื่องผลของการไปทำงานในระหว่างรับเงินเกษียณจากโซเชี่ยลไปแล้ว ซึ่งก็ ได้รับความสนใจจากพี่น้องชาวไทยในวัยเกษียณกันมากมาย และมีคนมาถามต่อว่าแล้วการมีรายได้ในระหว่างที่รับเงินช่วยเหลือคนแก่ที่มีรายได้น้อย (SSI) จะมีผลด้วยหรือไม่อย่างไร ฉบับนี้ก็เลยจะเอาเรื่องของประเภทของรายได้มาเล่าให้ฟังกันค่ะว่า “รายได้” นั้นมันไม่ได้มีอยู่เพียงประเภทเดียว และรายได้บางประเภทก็ไม่มีผลต่อการได้รับสิทธิ์ประโยชน์ของรัฐบาลด้วย
จากเวบไซด์ของ Social Administration ได้ให้คำจำกัดความของคำว่ารายได้ (income) ไว้ว่า “รายได้คือสิ่งใดก็ตามที่บุคคลหนึ่งได้รับในรูปของเงินสดหรือสิ่งที่ได้ในทำนองเดียวกันซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านอาหารหรือที่อยู่อาศัย รายได้ (ในวัตถุประสงค์ของการรับเงิน SSI) รวมถึง รายรับของสิ่งใดก็ตามซึ่งสามารถถูกนำไปใช้ทั้งในทางตรงหรือโดยการหรือการเปลี่ยนแปลงรูปเพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการทางด้านอาหารหรือที่อยู่อาศัย
ชนิดของรายได้สำหรับวัตถุประสงค์ของการรับสิทธิ์ประโยชน์สำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย (SSI) มี 4 ประเภทคือ
- รายได้จากการทำงาน (earned income) อันได้แก่ ค่าจ้าง รายได้สุทธิจากการประกอบอาชีพส่วนตัว ค่าลิขสิทธิ์บางประเภท ค่าธรรมเนียมการบริการทางวิชาชีพ และค่าตอบแทนสำหรับการทำงานของคนทุพพลภาพในองค์กรหรือสถานที่ที่เรียกว่า sheltered workshop
- รายได้โดยไม่ต้องทำงาน (unearned income) คือรายได้ทั้งหมดที่ไม่ต้องไปทำงานเพื่อให้ได้มา เช่น เงินโซเชี่ยล (social security benefits) เงินเกษียณบำนาญ (pensions) เงินจ่ายจากมลรัฐเนื่องจากกรณีทุพพลภาพ (state disability payments) เงินจ่ายสำหรับคนตกงาน (unemployment benefits) รายได้จากดอกเบี้ย เงินปันผล และเงินสดที่ได้จากเพื่อนและญาติ
- สิ่งที่เสมือนรายได้ (in-kind Income)เช่น อาหาร ที่อยู่อาศัย หรือทั้งสองประเภทซึ่งท่านได้รับมาฟรีหรือได้มาในราคาที่น้อยกว่ามูลค่าตามท้องตลาด
- รายได้ของคู่สมรส (deemed income) คือส่วนของรายได้ของคู่สมรส หรือพ่อแม่ หรือสปอนเซอร์ (หากท่านเป็นคนต่างด้าว) ของท่านซึ่งท่านอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งจะถูกนำมาคำนวณจำนวนเงินสิทธิ์ประโยชน์ที่จะได้รับ
ทำไมรายได้ถึงมีความสำคัญต่อการรับเงิน SSI ก็เพราะว่ายิ่งท่านมีรายได้ที่สามารถนำมานับได้ (countable income) มาก สิทธิ์ประโยชน์ที่จะได้ก็ยิ่งน้อยลงไปด้วย และหากรายได้ที่นำมานับได้นั้นมากกว่าจำนวนที่เขายอมให้มีได้ สิทธิ์ประโยชน์ที่ได้อยู่ก็จะถูกตัดไป แต่ก็ไม่ใช่รายได้ทุกอย่างที่มีจะถูกนำไปนับเป็นรายได้ในโปรแกรมนี้
มีรายได้หลายประเภทที่ไม่ถูกนำมานับในการรับ SSI ซึ่งได้แก่
- รายได้ 20 เหรียญแรกที่ได้รับในแต่ละเดือน
- เงินได้ 65 เหรียญแรกและครึ่งหนึ่งของรายได้ส่วนที่เกินกว่า 65 เหรียญในแต่ละเดือน
- มูลค่าของฟู๊ดแสตมป์ (เงินช่วยเหลือในส่วนของค่าอาหารจากโครงการของรัฐบาล) ที่ได้รับ
- เงินคืนภาษี
- ค่าช่วยเหลือในเรื่องของพลังงานในบ้าน
- การช่วยเหลือในเงื่อนไขของรายได้ซึ่งได้รับจากรัฐบาลของมลรัฐหรือท้องถิ่น หรือจากชนเผ่าอินเดียน
- รายได้จำนวนน้อยที่ได้รับบางครั้งบางคราวหรือไม่บ่อย
- ดอกเบี้ยหรือเงินปันผลที่ได้มาจากทรัพย์สินที่ถูกนำไปนับได้หรือทรัพย์สินที่ถูกยกเว้นภายใต้กฏหมายของรัฐบาลกลางอื่น
- ทุนสนับสนุน ทุนการศึกษา ทุนวิจัย หรือของขวัญที่นำไปใช้สำหรับค่าเล่าเรียนหรือค่าใช้จ่ายทางด้านการศึกษา
- อาหารหรือที่อยู่อาศัยที่ได้รับจากการพิจารณาในเรื่องของความจำเป็นโดยหน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไร
- สินเชื่อที่ท่าน (ทั้งรูปแบบของเงินสดหรือสิ่งที่เทียบเคียง) ซึ่งคุณจะต้องจ่ายคืน
- เงินที่บุคคลผู้อื่นจ่ายเพื่อชำระค่าใช้จ่ายให้ท่านสำหรับสิ่งของที่นอกเหนือไปจากอาหารและที่อยู่อาศัย (เช่น ค่าโทรศัพท์หรือค่ารักษาพยาบาลที่คนอื่นจ่ายให้ท่าน)
- รายได้ที่ถูกพักไว้ภายใต้โครงการที่ชื่อว่า Plan to Achieve Self-Support (PASS)
- ค่าจ้างไม่เกิน 1,900 เหรียญต่อเดือน หรือสูงสุดไม่เกิน 7,670 ต่อปี (มีผลบังคับตั้งแต่เดือนมกราคม 2020) สำหรับนักเรียนที่มีอายุไม่เกิน 22 ปี
- ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการทำงานสำหรับสิ่งของหรือบริการที่บุคคลที่ทุพพลภาพจำเป็นต้องมีเพื่อจะสามารถไปทำงานได้
- ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการทำงานของคนตาบอดที่เกิดขึ้นเพื่อจะไปทำงาน
- เงินช่วยเหลือเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ
- ค่าตอบแทน 2,000 เหรียญแรกที่ได้รับต่อปีจากการเข้าร่วมการทดลองทางคลินิค
- เงินเครดิตทางภาษีของรัฐบาลกลางและภาษีล่วงหน้าที่ถูกจ่ายคืน ซึ่งได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2020 และ
- เงินได้จากกองทุนทรัสต์ของชนเผ่าอินเดียนซึ่งจ่ายให้กับคนอเมริกันเชื้อสายอินเดียนซึ่งเป็นสมาชิกของชนเผ่าที่เป็นที่ยอมรับของรัฐบาลกลาง
เพื่อให้เห็นภาพกันชัดเจนยิ่งขึ้นว่ารายได้นั้นมีผลกับเงิน SSI ที่ได้รับอย่างไรมาดูวิธีการคำนวณกันค่ะ
1. เราจะหักเอารายได้ที่ไม่นับรวมออกจากรายได้ทั้งหมดก่อน ส่วนที่เหลือเราจะเรียกว่า รายได้ที่ถูกนับ (countable income)
2. หักส่วนของรายได้จากขั้นที่ 1 ออกจากอัตราส่วนการได้รับสิทธิประโยชน์ SSI ผลที่ได้จะเป็นเงินที่จะได้รับรายเดือน
ตัวอย่าง เช่น นาย A มีรายได้จากเงินโซเชี่ยลในส่วนของการเกษียณอายุ 300 เหรียญ หักส่วนที่ไม่นับออกไป 20 เหรียญ จะเหลือเงินที่ไปนับในขั้นที่ 1 เพียง 280 เหรียญ ในกรณีนี้เขาได้รับเงิน SSI ในอัตราเท่ากับเดือนละ 783 เหรียญ นำเอาส่วนหักในขั้น 1 ซึ่งเท่ากับ 280 เหรียญมาลบออก นาย A ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ในส่วนของ SSI ลดลงเหลือเพียง 503 เหรียญต่อเดือนค่ะ
นอกจากนี้เมื่อบุคคลที่รับเงินช่วยเหลือ SSI อาศัยอยู่กับคู่สมรสที่ไม่ได้มีคุณสมบัติจะได้รับ SSI ทางโซเชี่ยลจะนับรายได้ของคู่สมรสบางส่วนในการคำนวณสิทธิ์ประโยชน์ SSI และหากบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปีที่ทุพพลภาพหรือตาบอดซึ่งอาศัยอยู่กับพ่อแม่ (หรือพ่อหรือแม่หรือพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง) และมีพ่อแม่คนใดคนหนึ่งไม่ได้รับเงิน SSI ทางโซเชี่ยลอาจจะนับรายได้ของพ่อแม่คนนั้นในการคำนวณสิทธิประโยชน์ได้ รวมทั้งคนต่างด้าวที่มีสปอนเซอร์ในกรณียกเว้นบางอย่างอาจมีการนับเอารายได้ของสปอนเซอร์เข้ามาในการคำนวณสิทธิประโยชน์เช่นกัน
แต่หากท่านไม่ได้อาศัยอยู่กับคู่สมรสหรือพ่อแม่ดังกล่าวข้างต้น หรือบุตรที่ทุพพลภาพหรือตาบอดข้างต้นอายุครบ 18 ปี หรือสถานการเป็นสปอนเซอร์ให้กับคนต่างด้าวสิ้นสุด ก็จะไม่มีการนำเอารายได้ในส่วนข้างต้นเข้ามาใช้คำนวณอีกต่อไปค่ะ
บทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปไม่ใช่เป็นการให้คำแนะนำ หากท่านมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับเนื้อหาในบทความ อยากจะถามคำถามในกรณีส่วนตัวท่านสามารถโทร.มาสอบถามกับผู้เขียนได้ที่เบอร์ (850)598-1709 หรือจะอีเมลมาหาผู้เขียนที่ walaipank@gmail.com ก็ได้ค่ะ หากผู้เขียนไม่ได้รับสายก็ฝากข้อความไว้ได้ จะติดต่อท่านกลับไปภายหลัง รวมทั้งถ้าอยากจะติดตามบทความย้อนหลังก็สามารถติดตามได้ที่เวบไซด์ของหนังสือพิมพ์ไทยแอลเอ คอลัมน์ประจำฉบับ “เรียนรู้เมื่อต้องอยู่เมืองลุงแซม”
อ้างอิง: https://www.ssa.gov/ssi/text-income-ussi.htm
วลัยพรรณ เกษทอง
19 มิถุนายน 2563