Special Scoop
“ทุกฝีเข็ม ทุกเส้นไหม ทุกลมหายใจ...รัก (แค้น)”

สัปดาห์นี้ผมได้รับจดหมายจากแฟนคอลัมน์ที่เขียนระบายความทุกข์มา 2 หน้ากระดาษเต็ม ๆ ถึงแม้ว่าจะอ่านลำบากแต่ก็พอสรุปว่า มันมีต้นเหตุมาจากเรื่อง “ความรัก” และความอยากที่สะท้อนถึงการทำทุกวิถีทางที่จะได้อดีตแฟนกลับมา โดยการติดต่อโทรศัพท์หาเขาตลอดระยะเวลา 2 ปีที่เลิก จนไปโดนแฟนใหม่เขาด่ากลับมาแบบเต็ม ๆ และการที่เธออยากได้เขาคืนมาแบบไร้ขอบเขตเหมือนละครในหนังกี่ยุคกี่สมัยก็ยังเห็นผู้หญิงที่คิดแบบนี้ จนมีละครออกมาสรรหาเรื่องราวประเภทนี้มาให้คนดูเพื่อสะท้อนถึงสังคมเน่า ๆ ซึ่งมีทั้งไสยศาสตร์ประเภททำอะไรก็ได้เพื่อให้แฟนรักแฟนหลงก็จะยอมไปทำ บางรายยอมตกเป็นเหยื่อของเจ้าตำหนัก มีทั้งพระทั้งพรหม (ปลอม) แล้วโดนทำมิดีมิร้ายซ้ำเติมไปอีก บางรายเสียทั้งเงิน เสียทั้งตัว และสุดท้ายผู้ที่ใช้คาถาที่มาจากความแค้นล้วนมีตอนจบที่ไม่ค่อยจะสวยแทบทุกคน ตามที่มีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง

ผมขอให้นามสมมุติว่า คุณเอ ซึ่งมีคำถามเกี่ยวกับกฎหมายหลายข้อ ซึ่งผมได้พูดคุยกับทนายความไทย คุณรอสลิน ปัทมคันธิน ที่อยู่ในออฟฟิศเดียวกับผม เพื่อหาคำตอบที่ถูกต้องให้คุณเอได้ทราบในเรื่องของกฎหมาย

สรุปโดยย่อ คุณเอ เคยอยู่กินกับฝรั่งชาวอเมริกันมา 15-16 ปี แต่มาเลิกกันได้ 2 ปีแล้ว เพราะฝรั่งขอเลิก “ไม่ได้จดทะเบียนกัน”เขาก็กลับไปอยู่กับพ่อแม่ แต่หลังจากนั้นเขาก็ย้ายมาเช่าอพาร์ทเมนต์อยู่ใกล้กับคุณเออีก และบังเอิญคุณเอไปเจอรถของอดีตแฟนแต่ไม่ทราบว่าพักอยู่ที่ไหน ตลอดระยะเวลา 2 ปี คุณเอก็ยังพยายามโทรศัพท์ติดต่อกันมาโดยตลอด และนัดเจอกันบ้างในบางครั้ง อดีตแฟนก็บอกว่าเขาไม่ค่อยแข็งแรง จะพยายามเก็บสตางค์ไว้ซื้อที่ฝังศพตัวเอง คุณเอก็ไม่อยากกดดันเขาเพราะกลัวอดีตแฟนจะคิดสั้น เลยห่าง ๆ มาสักปีกว่า แต่ก็ยังโทรศัพท์ทิ้งข้อความว่า ยังรักและคิดถึงตลอด แต่เขาก็ไม่เคยโทรกลับ ตอนปีใหม่ก็โทรไปทิ้งข้อความ แล้วก็มีคนโทรกลับ แทนที่จะเป็นอดีตแฟน กลับเป็นผู้หญิงใหม่ของเขา ซึ่งก็รู้ว่าคุณเอเป็นใคร เลยด่าว่า “Stop Calling, Bitch” แล้วก็มีการเถียงกับผู้หญิงใหม่ ซึ่งเขาก็บอกว่าหยุดโทรมาได้แล้ว เลิกกันตั้ง 2 ปี จะมาแสดงตัวเป็นเจ้าของอีกเหรอ แล้วขู่ว่าถ้าโทรมากวนอีกจะโทรแจ้งตำรวจ

คำถามของคุณเอ มีดังต่อไปนี้

1. ถ้าอยู่กันในสถานะแบบ Boyfriend & Girlfriend จะสามารถเคลมผลประโยชน์จากเงินสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐบาลได้หรือเปล่าในฐานะภรรยา เพราะตอนอยู่ด้วยกันอดีตแฟนบอกว่าได้
คำตอบ... บอกว่า รัฐแคลิฟอร์เนีย คุณจะเคลมเป็นเมียไม่ได้ เพราะรัฐไม่ได้ใช้ Common Law ในการตัดสิน คือ Common Law เป็นกฎหมายที่ใช้การอ้างอิงจากอดีต (Case law หรือ Precedent) ซึ่งตัดสินโดยผู้พิพากษา แต่ในรัฐแคลิฟอร์เนียจะใช้กฎหมายที่ออกโดยคณะบริหารของรัฐ (Statutory Law) คือ ส.ส., ส.ว. ของรัฐ ถ้าอดีตแฟนไปแต่งงานกับแฟนใหม่เขา คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปฟ้องเขา ถึงแม้ว่าคุณจะมีชื่อในบัญชีธนาคาร, บิลโทรศัพท์ หรือไปยื่นภาษีเงินได้ด้วยกันมาก่อนในฐานะสามีภรรยา แต่ความเป็นจริงแล้ว คุณเป็นเพียงเกิร์ลเฟรนด์ของเขา และถ้าทางสรรพากร (Franchise Tax Board) รู้เข้า เขาและคุณก็ต้องเดือดร้อนแน่ เพราะร่วมกันโกงภาษีเงินได้ โดยการเคลมในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง (Fraud) คุณต้องคืนเงินภาษีถ้าได้คืนมาจากการโกงเพร้อมดอกเบี้ย หรืออาจจะติดคุกได้

2. ตอนเลิกกัน อดีตแฟนบอกว่าจะให้เงินไปตั้งตัว $10,000 แต่ให้จริง ๆ แค่ $4,800 ถามว่าจะไปฟ้องได้หรือเปล่า
คำตอบ... ถ้าไม่มีสัญญากันเป็นลายลักษณ์อักษรก็คงจะพิสูจน์กันยาก เพราะเป็นเพียง Verbal Agreement (สัญญาปากเปล่า) ศาลก็ต้องใช้ดุลพินิจว่าจะเชื่อถือใครดี คุณคงต้องไปขึ้นศาลย่อย (Small Claims Court) โดยไม่ต้องใช้ทนายความ ศาลจะเป็นผู้ตัดสินเอง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอดีตแฟนก็คงจะปฏิเสธว่า ไม่ได้สัญญาอะไร และที่ให้ไป $4,800 ก็ให้ด้วยเสน่หา หรือสงสาร

3. ถ้าผู้หญิงใหม่จะเรียกตำรวจเพราะคุณเอโทรหาอดีตแฟนบ่อยมากจะถือว่าเป็น Domestic Annoyance หรือเปล่า
คำตอบ... ถ้าเขาโทรหาตำรวจ ตำรวจก็คงจะไปคุยกับคุณเอแน่เพื่อสืบสวนว่า คุณทำผิดกฎหมายเข้าข่าย Stalking (PC 646.9) ซึ่งเป็นคดีร้ายแรง (Felony) มีโทษทั้งจำและปรับ กฎหมายระบุว่า บุคคลใดที่ตั้งใจตามตื้อ (Harass) กับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งทำให้เขารำคาญใจ ตกใจ (Seriously alarms, annoys, harasses) โดยไม่มีเหตุอันควร แต่เพียงเพื่อไปทำลายจิตใจทำให้คนอื่นเครียด (Emotional distress) โดยใช้การสื่อสาร ซึ่งรวมถึงโทรศัพท์, มือถือ, คอมพิวเตอร์, วีดีโอ, แฟ็กซ์, เพจเจอร์, Beepers ที่รวมกันเรียกว่า “Electronic Communication Devices” ต้องระวางโทษทั้งจำและปรับ (โทษจำ มีกฎระเบียบตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปในคุกใหญ่ของรัฐ) ฉะนั้น อย่าเพิ่งคิดสั้น เพราะคุณอาจจะไปใช้ชีวิตในคุกของรัฐแคลิฟอร์เนียก็ได้ หรือทางอดีตแฟนหรือผู้หญิงใหม่เขาสามารถไปยื่นคำร้องขอให้ศาลออกคำสั่งห้ามรบกวน หรือวิธีสื่อสารต่าง ๆ และห้ามเข้าใกล้ด้วยก็ได้ (Restraining Order)

4. ถ้าจะไปทะเลาะกันนอกอพาร์ทเมนต์เขา แล้วตบตีกันจะโดนข้อหาอะไรหรือ ถ้าไปบุกเคาะห้องและตบกันจะโดนข้อหาอะไร
คำตอบ... อันนี้คุณจะโดนจับข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น (Battery , PC 242) คือตั้งใจโดยรู้ว่าผิดกฎหมายแต่ยังไปทำร้ายผู้อื่นโดยเจตนาใช้แรง หรือใช้ความรุนแรงกับบุคคลอื่นอันเป็นลหุโทษ (Misdemeanor) โทษจำไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน $1,000 แต่ถ้าบุคคลที่คุณไปทำร้ายเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็จะเป็นคดีร้ายแรง (Felony) มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป

ผมได้ไปอ่านพบรายการ ธรรมะจับใจ ตอน ความรักกับความแค้น โดยพระมหาสมชาย ฐานวุฑุโฒ (เป็นหมอ MD และมีปริญญาเอกอีกด้วย) รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้คติและสัจธรรม ท่านได้วิเคราะห์อย่างมีเหตุและผลดีมาก จึงขออนุญาตนำมาถ่ายทอดกันฟัง

ท่านเล่าว่า มีผู้หญิงมาถามท่านว่า ถ้าเราโดนผู้ชายคนหนึ่งมาทำให้เราเสียใจ แล้วถ้าเราจะแก้แค้นเขา เราจะผิดไหมค่ะ เพราะรักเขา บอกเป็นคำถามสั้น ๆ แต่มีนัยยะอยู่หลายเรื่อง

รักเขาเยอะ แต่เขาทำให้ผิดหวัง ก็เลยแค้น ก็อยากจะแก้แค้น เพื่อจะทำให้เขาทุกข์ ตกลงรักเขาจริงหรือเปล่า หรือจริง ๆ แล้วรักตัวเองกันแน่? และพอเขาทำให้เราไม่สมหวังก็อยากจะแก้แค้น เช็คจริง ๆ แล้วจะพบว่าอย่างนี้ไม่ใช่รักเขาแล้ว รักตัวเองก็เลยอยากให้คนที่ตัวเองอยากได้ แล้วมาทำให้ตนถูกใจเท่านั้นเอง ถ้ารักเขาจริงต้องเสียสละเพื่อเขาได้ การที่จะไปแก้แค้นเขาก็เพื่อไปทำให้เขาเดือดร้อน สุดท้ายวิบากกรรมก็จะเกิดขึ้นกับตัวเราเอง บางคนติดคุกเพราะไปแก้แค้น ถามว่าอย่างนี้ใครจะทุกข์กว่ากัน ถ้าละโลกไปแล้วไปตกนรกเข้า ยิ่งทุกข์หนักเข้าไปอีก เพราะฉะนั้นไม่คุ้มเลย ให้อภัยต่อกันดีกว่า เข้าวัดเข้าวา สวดมนต์ ปฏิบัติธรรมสร้างบุญ สร้างกุศลกันจะดีกว่า ท่านมหาสมชายบอกตบท้าย

ท่านมหาสมชายยังได้แนะนำวิธีเลือกคู่ครองให้เป็นคู่สร้างคู่สม (ไม่ใช่คู่เวรคู่กรรม) รักอย่างไม่ทุกข์ต้องมี

1. สมศรัทธา คือ มีศรัทธาเสมอกัน ไม่ใช่คนหนึ่งจะไปบ่อน คนหนึ่งไปวัดก็มีปัญหาแน่

2. สมศีลา คือ มีศีลเสมอกัน ได้ปฏิบัติคล้าย ๆ กัน

3. สมจาคา คือ มีความเสียสละเสมอกัน ถ้าคนหนึ่งใจกว้าง อีกคนขี้เหนียว จะทำอะไรก็ขัดกันตลอด ก็มีปัญหาแน่ ๆ

4. สมปัญญา คือ มีปัญญาเสมอกัน พูดคุยกันรู้เรื่อง ความรู้ปัญญาใกล้เคียงกันแต่ถ้าทั้งสองไม่มีส่วนในการแก้ปัญหาร่วมกัน อยู่กันนาน ๆ ก็อาจจะมีปัญหาได้

และเมื่ออยู่ด้วยกันแล้วที่นี่มาพูดถึงสังคหวัตถุ 4 คือหลักธรรมที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจของผู้อื่น

1. ทาน การแบ่งปันกัน อดก็อดด้วยกัน สุขก็สุขด้วยกัน มีน้ำใจ

2. ปิยวาจา ให้เกียรติกัน ไม่ใช่ว่าตอนรักกันใช้สรรพนาม พี่คะ พี่ขา ตอนทะเลากัน สรรพนามเรียกหา เป็นสัตว์ประหลาด ภาษาพ่อขุนออกมาเป็นชุด

3. อัตถจริยา ต้องทำตัวเองให้เป็นประโยชน์ จะเป็นคนมีเสน่ห์ ต้องช่วยเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน

4. สมานัตตา การวางตัวให้สมฐานะ สม่ำเสมอ ต้องมีอารมณ์สม่ำเสมอ ไม่ใช่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย สวยข้างนอกไม่เท่ากับสวยในใจ

สูตรสำเร็จของการครองคู่ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กับพวกเราไว้ คุณเอควรจะทำกายและใจให้ออกจากอารมณ์โกรธเสียก่อน ทำกายโดยออกกำลังกาย ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น อย่าปล่อยตัวอ้วน พุงฉุ เด็ดขาด แต่งตัวให้สะอาดสดสวย สำหรับการพัฒนาทางใจก็ต้องหมั่นเข้าวัดเข้าวา สร้างบุญสร้างกุศล สวดภาวนาสมาธิให้มั่น อยู่ในบุญในกุศล ตามภาษิตที่ว่า ผลไม้ดก นกชุม น้ำเย็นปลาชอบอาศัย ที่ไหนที่อยู่แล้วสบายใจเป็นศาลาพักใจ ใครก็อยากไปที่นั่น สุดท้ายอดีตแฟนเก่าก็จะกลับมาตายรังเก่าของคุณแน่ๆ (ตอนแก่)

โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย