ไลฟ์สไตล์
จอมพล
สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคเคิล

หายหน้าหายตาไปเกือบเดือน ด้วยการหยุดพักร้อนกลับไปเมืองไทยประจำปี ปกติผู้เขียนจะเลือกกลับเมืองไทยช่วงเข้าหน้าหนาวประมาณเดือนพฤศจิกายน ด้วยคิดว่าอากาศจะไม่ร้อนอบอ้าวสักเท่าไหร่ แต่ปรากฏว่าเดือนพฤศจิกายน กรุงเทพฯก็ยังร้อนจัดเช่นเดิมไม่ได้ต่างไปจากหน้าอื่นๆ สำหรับปีนี้จึงลองกลับหน้าฝนดูบ้าง ซึ่งเป็นช่วงที่ตั๋วเครื่องบินแพงที่สุดเนื่องจากเป็นช่วงซัมเมอร์ของยุโรปและอเมริกา ใครๆก็เดินทางกันในช่วงนี้ แต่กาลกลับกันก็คือว่าอากาศเมืองไทยไม่ร้อนอย่างเช่นเคย ได้ฝนโปรยปรายมาไม่ใช่ฝนหนักแบบพายุ อากาศกำลังดีสบายๆ ตอนนี้เลยติดใจกลับเป็นชอบกลับหน้าฝนเสียดีกว่า

ความโชคดีอีกอย่างที่เลือกกลับไปในช่วงนี้ก็คือ ได้มีโอกาสไปชมละครเพลงเรื่องดังที่ใครเขาว่าดีนักดีหนา นั่นก็คือละครเพลงเรื่อง “สี่แผ่นดิน” ซึ่งสร้างโดยบริษัทเอ็กแซ็กท์ อันดัดแปลงมาจากบทประพันธ์เรื่องสี่แผ่นดิน ของหม่อมราชวงค์คึกฤทธิ์ ปราโมช การแสดงครั้งนี้เป็นการแสดงที่นำกลับมาแสดงอีกครั้งตามเสียงเรียกร้องของคนดู

ประวัติของละครเวทีเรื่องนี้นั้น ผู้เขียนไปค้นมาจากวิกกี้พีเดีย ได้ความมาดังนี้

“ครั้งแรกจัดแสดงที่ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2554 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง 100 ปี ชาตกาลของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช และเป็นส่วนหนึ่งของผลงานเทิดพระเกียรติ เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 กำกับการแสดงโดย ถกลเกียรติ วีรวรรณ

รอบการจัดแสดง เดิมกำหนดไว้ทั้งสิ้น 67 รอบ ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ถึง 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 แต่เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยในประเทศไทย พ.ศ. 2554 ทำให้ต้องเลื่อนการแสดงจากเป็นตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ถึง 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 โดยมีรอบพิเศษงานกาลาแชริตี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในการทอดพระเนตร เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555

หลังจากได้รับการตอบรับอย่างสูงในด้านยอดผู้ชม ทางทีมงานจึงได้มีการตัดสินใจเพิ่มรอบการแสดงจนครบ 100 รอบ ให้ตรงกับ 100 ปี ชาตกาลของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช โดยรอบสุดท้ายจะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2555 ถือว่าเป็นละครเวทีที่มีการแสดงต่อเนื่องด้วยจำนวนรอบมากที่สุดที่ เอ็กแซ็กท์เคยสร้างมา

และในปี พ.ศ. 2557 ทางเอ็กแซ็กท์ ได้นำกลับมาจัดแสดงที่เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์อีกครั้ง เพราะเข้ากับสถานการณ์บ้านเมือง พร้อมเปลี่ยนนักแสดงใหม่เพื่อต้องการความแปลกใหม่ เริ่มแสดง 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ถึง 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557”

ผู้เขียนนั้นมีความตื่นเต้นอยากชมละครเรื่องนี้อยู่เป็นทุนเดิม เนื่องจากได้ยินใครต่อใครเขาร่ำลือกันว่าดีนักหนา แต่ก็ต้องเสียใจเพราะกลับไปดูไม่ทันเมื่อแสดงครั้งแรก ส่วนครั้งนี้กลับไปได้จังหวะพอดี เมื่อเพื่อนชวนจึงดีใจหนักหนา

ผู้เขียนเป็นคนชอบดูละครเวที ได้ชมละครเพลงมิวสิคเคิลของฝรั่ง ทั้งที่เป็นบรอดเวย์และยังไม่ถึงบรอดเวย์ ทั้งโปรดักชั่นเล็กๆ จนถึงโปรดักชั่นที่เป็นโรงละครถาวรเพื่อเล่นเรื่องนั้นโดยเฉพาะ ดูมาทั้งหมดประมาณ ๓๐ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ดังๆและเป็นละครมาตรฐานระดับโลก จึงมีความรู้เรื่องละครเพลงพอสมควร เมื่อจะได้ไปชมละครไทย เรื่องของไทย โดยคนไทยและเพื่อคนไทย จึงบอกตัวเองไว้ว่า อย่าไปหวังอะไรมากว่าจะได้มาตรฐานระดับสากล เอาแค่ว่าดีและสนุกก็พอ ไม่ต้องถึงกับเปลี่ยนฉากอลังการอย่าง Phantom of the opera หรือ The Wicked

ผู้เขียนได้ตั๋วราคา ๒,๕๐๐ บาทแถวหลังสุด ราคาที่สูงกว่านี้นั้นจองเต็มหมดแล้ว แต่ก็ยังดีที่ยังอยู่ชั้นล่าง ภาษาโรงละครเขาเรียกชั้นออเครสตรา สำหรับท่านผู้อ่านที่ไม่คุ้นเคยกับการชมละครในโรงละครมาตรฐานนั้น ผู้เขียนก็จะสอดแทรกความรู้ไปด้วย อย่างเช่น การแสดงละครเวที โดยเฉพาะละครเพลงนั้นเขาจะใช้วงดนตรีออเครสตรา ซึ่งจะประกอบไปด้วยเครื่องสาย เครื่องเป่า เครื่องตี และเครื่องดีดทุกประเภท สุดแต่จะใช้วงเล็กหรือวงใหญ่ ละครเพลงบางเรื่องอาจจะใช้ดนตรีสมัยใหม่ผสมด้วย เช่นกีร์ต้า และคีย์บอร์ด สำคัญที่สุดคือต้องเล่นสดจะมาเปิดเป็นแบ็คกิ้งแทร็คนั้นไม่ได้ ส่วนผู้แสดงก็ต้องร้องสด จะมาลิปซิงค์ไม่ได้ จะเป็นที่น่าอับอายและโดนรุมประณามมากถ้าไม่ได้ร้องสดจริงๆ เรื่องนี้ฝรั่งเขาถือมาก เมื่อครั้งที่บียองเซ ร้องเพลงชาติสหรัฐในงานพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นางลิปซิงค์ปรากฏว่าคนดูจับได้ โดนด่าไปเสียหลายวัน ทั้งๆที่เธอก็ออกมายอมรับภายหลังว่า ลมแรงมากและไม่ได้ยินเสียงดนตรี ทางคอนโทรลจึงเปิดเสียงเธอซึ่งบันทึกไว้ก่อนหน้านั้นแทรกขึ้นมา เธอจึงต้องลิปซิงค์ ถึงแม้จะมีข้อแก้ตัวปานนั้น ก็ยังไม่วายโดนด่าอยู่ดี ฉะนั้นในการแสดงอะไรก็แล้วแต่ โดยเฉพาะถ้าเป็นคอนเสิร์ต หรือละครเวทีนั้น จะลิปซิงค์อย่างนักร้องไทยที่เราเห็นๆกันทุกวันนี้ไม่ได้เลย ถือเป็นการดูถูกคนดู เสียงจะตกจะนอนน้อยหรือป่วยอย่างไรก็ต้องแค่นร้องออกมาให้เป็นที่ประจักษ์

ละครเพลงระดับมาตรฐานโลกนั้นมักจะมีสององค์ คือมีเบรกตอนกลางประมาณ ๑๕ ถึง ๒๐ นาที และมีความยาวของละครประมาณ ๒ ถึง ๓ ชั่วโมง คนที่ไปดูละครก็มักจะถือโอกาสแต่งตัวกันเต็มยศเพราะถือเป็นการให้เกียรติสถานที่ อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ไม่ค่อยถือกันเท่าไร ผู้เขียนเห็นคนใส่กางเกงยีนส์เข้าไปดูก็มีบ้างเหมือนกัน แต่ที่กำลังฮิตมาแรงก็คือ การแต่งตัวให้เข้ากับละครที่เข้าไปชม อย่างเช่นคนที่ไปชม “The Wicked” ก็ใส่หมวกเหมือนแม่มด แต่งหน้าสีเขียว คนที่ไปชม “Pricilla Queen of The Desserts” ก็แต่งตัวเป็นนางโชว์ก็มี อันนี้เป็นที่สนุกสนาน ผู้เขียนไม่เห็นมีใครแต่งชุดไทยสมัยรัชกาลที่ ๕ ไปชมละครเรื่องสี่แผ่นดินเลย ถ้ามีคงจะน่าดูและเป็นอินเตอร์ตามเทรนเป็นอย่างยิ่ง

อย่างที่เรียนให้ทราบว่าผู้เขียนมั่นใจว่าละครต้องดี ไม่อย่างนั้นคงไม่เล่นเป็นร้อยรอบ คนดูก็ดูกันเป็นสิบรอบ เรื่องที่ว่าดีนั้นไม่ต้องสงสัย แต่จะได้มาตรฐานสากลเหมือนละครบรอดเวย์หรือไม่นั้นยังสงสัยอยู่

คุณบอย ถกลเกียรติ ผู้เป็นผู้กำกับและผู้สร้างนี้ เธอเป็นนักเรียนนอกและหลงรักละครเพลง มีความตั้งใจสร้างละครเวทีและละครโทรทัศน์ดีๆมามากมาย ผู้เขียนก็ฝากความหวังไว้ว่าเธอจะทำได้ดีเหมือนของฝรั่ง

เมื่อวันแสดงมาถึง วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ โรงละครเมืองไทยรัชดาลัยนั้น ตั้งอยู่ใน ศูนย์การค้าเอสพลานาด รัชดาภิเษก ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร เป็นโรงละครเอกชนที่มีจำนวนที่นั่งมากเป็นอันดับสองของไทย รองจากโรงละครกาดสวนแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ ผู้เขียนก็นั่งรถไฟฟ้าบีทีเอส ไปต่อรถไฟใต้ดินเอ็มอาร์ทีที่สถานีอโศก แล้วไปลงที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมรัชดาภิเษก เดินออกจากรถใต้ดินก็ถึงเลย

โรงละครเมืองไทยรัชดาลัยเธียร์เตอร์นี้มาตรฐานระดับโลก ระบบเสียงชัดเจน ดีเสียยิ่งกว่าโรงละครดังๆในแอลเออย่างอาแมนซันเธียร์เตอร์ หรือแพนเทจเจส เสียอีก ที่นั่งสบาย ระดับสับหว่างดีมองเห็นได้ชัดไม่ว่าจะนั่งตรงไหน เสียแต่ว่าห้องน้ำเดินไปไกลหน่อย

ละครเริ่มตรงเวลา มีคนไทยที่มาสายตามปรกติ โดนกักไม่ให้เข้ามาเวลาที่ตัวละครร้องอยู่ เป็นที่น่าสมน้ำหน้า ตอนแรกผู้เขียนคิดว่าละครจะเล่นช้ากว่ากำหนดแต่ปรากฏว่าถึงเวลาปุ๊บเล่นปั๊บ การจัดโรงละครและวงดนตรีเป็นแบบมาตรฐานสากล เป๊ะสุดๆ

ละครเริ่มด้วยคุณสินจัย เปล่งพานิช อันเป็นการประกาศความเก๋าที่หาคนเทียบไม่ได้ ความจริงเธอร้องเพลงไม่เก่งเลย แต่อารมณ์และการแสดงสุดยอดจนคนดูลืมข้อด้อยของเธอไปเสียหมด

คนที่ผู้เขียนต้องปรบมือให้อย่างมากคือ กันต์นภัทร เดอะสตาร์ เด็กคนนี้เป็นคนที่ร้องเพลงได้ดีมากอย่างไม่มีที่ติ ผู้เขียนเองเป็นนักร้อง ปรกติไม่ค่อยชมใครง่ายๆ แต่กับกันต์นี้ต้องยอมรับว่าการร้องเพลงมีมาตรฐานและยอดเยี่ยมที่สุด นักแสดงคนอื่นๆก็เรียกว่าเอาตัวรอดได้เรื่องการร้องเพลง โดยเฉพาะน้องพินตา ซึ่งเคยสร้างชื่อไว้ในคราวที่แล้วว่าร้องเพลงได้เพราะไม่มีที่ติ มาเป็นน้องอ๊ะอายซึ่งฟังไปลุ้นไปเดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำ นอกจากนี้ตัวละครตัวอื่นก็จัดว่าร้องได้ดีพอสมควร คนที่ต้องชมมากคือไอซ์ ศรันยูซึ่งเล่นได้ดีมากเสียงดีและมีมิติมาก อีกคนที่ผู้เขียนประทับใจคือน้องใหม่อาเมน เดอะสตาร์ ๑๐ ซึ่งเล่นได้น่ารักเป็นตาอ๊อดที่สมบูรณ์แบบมาก

ผู้เขียนเข้าไปชมละครเพลงเรื่องสี่แผ่นดิน ด้วยความตื่นตาตื่นใจ ด้วยมาตรฐานที่ดีกว่าระดับโลก คือสุดยอดตั้งแต่เคยดูละครเวทีมา ๓๐ เรื่องของฝรั่งล้วนๆ ปรากฏว่าแพ้ละครไทยหมด เป็นละครเพลงเรื่องเดียวที่ผู้เขียนนั่งดูไปร้องไห้ไปตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง เรียกว่าตาบวม แล้วสี่แผ่นดินนี้คนดูต้องเป็นคนไทยเท่านั้นจึงจะเข้าใจได้อย่างซาบซึ้ง

ละครจบปุ๊บ นักแสดงออกมาโค้งคำนับ ผู้เขียนยืนปรบมือด้วยความเคยชิน ด้วยความประทับใจ เพราะเป็นมารยาทของคนดูที่ต้องยืนตบมือ โดยเฉพาะที่ผู้แสดงแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมนี้ อย่างน้อยม่านต้องปิดสามครั้งคือคนดูตบมือไม่ออกจากโรงละคร ถือเป็นการให้เกียรตินักแสดงอย่างสูง ผู้เขียนเคยชมมาแล้วไม่ว่าจะเป็น The Wicked, The Lion King, West Side Story, Phantom of the Opera และอื่นๆอีกมากมาย

ตบมือไปน้ำตาไหลไปแต่แปลกใจไม่มีคนไทย สักคน ขอเน้นว่า ไม่มีสักคนที่จะยืนตบมือให้ ฝรั่งเขาเรียกว่า Standing Ovation ผู้เขียนนึกน้อยใจแทนนักแสดง ว่าคนดูคนไทยนี้ไม่มีมารยาท เวลาจะเข้าดูก็แย่งกันเข้าโรง พอละครจบก็แย่งกันออกจากโรง สงสัยจะปวดท้องเข้าห้องน้ำ

คนไทยนี้ยังไม่มีมารยาทในการชมละครระดับสากล แต่ก็เอาเถิดงานนี้ต้องขอยกดาวทั้งฟ้าให้ผู้สร้าง ผู้กำกับ นักแสดง นักดนตรี นักแต่งเพลง ผู้ออกแบบฉาก และทุกคนที่เกี่ยวข้องกับละครที่ดีที่สุดในโลกเรื่องนี้

ท่านผู้อ่านถ้าได้มีโอกาสไปเมืองไทย อย่าลืมต้องไปชมให้ได้ ผู้เขียนอยากจะบินไปดูอีกทีเสียด้วยซ้ำ ฉะนั้นอย่าพลาด แต่มีคำเตือน ใครที่ไม่รักในหลวง รู้เห็นหน้าตัวเป็นๆกันอยู่ในแอลเอนี่แหละ ขอเตือนว่าอย่าไปดู ท่านอาจจะต้องเดินออกกลางครันก่อนละครจบ เพราะเป็นละครเทิดพระเกียรติ ถ้าหากว่าท่านเป็นพวกเสื้อแดงก็คงจะดูไม่สนุก ละครเรื่องนี้สำหรับคนรักในหลวงเท่านั้นครับ