ไลฟ์สไตล์
จอมพล
Wizard of OZ

เมื่อวานนี้ผู้เขียนได้ไปชมละครเพลงเรื่อง “เดอะ วิซาร์ด ออฟ ออซ” ที่โรงละครแพนเทจเจส บนถนนฮอลลีวู้ดมา ก็เลยได้แรงบันดาลใจมาเขียนเล่าสู่กันฟัง ละครเพลงเรื่องนี้เป็นโปรดักชั่นใหม่ที่สร้างมาจากภาพยนต์เพลงชื่อเดียวกันที่สร้างในปี ๑๙๓๙ อันโด่งดัง โดยได้ปรมาจารย์ทางด้านละครเวทีคือ แอนดรู ลอยด์ เวปเบอร์ และเจอรามี่ แซมส์มาทำดนตรีให้ ภาพยนต์เก่าเรื่องพ่อมดวิเศษแห่งออซนี้ถือเป็นภาพยนต์คลาสสิคของค่ายภาพยนต์ MGM (Metro-Goldwyn-Myer) ซึ่งภาพยนต์เรื่องนี้นั้นได้ทำชื่อเสียงให้ดาราเด็กสาวโด่งดังเป็นพลุนั่นก็คือ จูดี้ กาแลน (Judy Garland) ภาพยนต์เรื่องนี้สร้างมาจากนวนิยายขายดีเรื่อง The Wonderful Wizard of Oz เขียนโดย L. Frank Baum ในสมัยที่สร้างภาพยนต์เรื่องนี้นั้น ภาพยนต์ที่ฉายในเวลานั้นเป็นหนังขาวดำ เมื่อผู้สร้างนำมาสร้างเป็นภาพยนต์สีเทคนิคคัลเลอร์ ก็กลายเป็นที่ฮือฮา ประกอบกับเนื้อเรื่องที่เป็นแฟนตาซี และตัวละครที่ไม่ธรรมดา ภาพยนต์เรื่องนี้ก็กลายเป็นภาพยนต์หนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของฮอลลีวู้ด และกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมคนอเมริกัน ที่ใครๆก็รู้จัก โดโรธี เกล กับสุนัขแสนรู้ของเธอ เจ้าโตโต้ พร้อมกับเพื่อนทั้งสามของเธอคือ มิสเตอร์ทินแมน (คุณหุ่นกระป๋อง) คุณสิงห์โต และคุณหุ่นไล่กา

เพลงประกอบในเรื่องพ่อมดวิเศษแห่งออซนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมากคือเพลง Over The Rainbow (สุดสายรุ้ง) ได้กลายเป็นเพลงประจำตัวดาราสาวเจ้าเสน่ห์ จูดี้ กาแลน ไปจนตลอดชีวิตของเธอและดูเหมือนว่าถึงแม้จะมีผู้ที่ขับร้องเพลงนี้อีกมากมาย แต่ใครๆก็ไม่ลืมเวอร์ชั่นที่ร้องโดยจูดี้ กาแลน ในภาพยนต์เรื่องนี้ ประกอบกับเพลงๆนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งกินใจ สร้างให้คนฟังมีความหวังและอย่าท้อแท้ ในความฝันของตน เพลงๆนี้เลยกลายเป็นอมตะ เนื้อเพลงมีดังนี้


Somewhere over the rainbow

ที่แห่งนั้นเหนือสุดสายรุ้ง

Way up high there's a land I heard of once in a lullaby

สูงลิบมีดินแดนที่ฉันเคยได้ยินครั้งหนึ่งในเพลงกล่อมเด็ก

Somewhere over the rainbow

ที่แห่งนั้นเหนือสุดสายรุ้ง

Skies are blue

นภาเป็นสีคราม

And the dreams that you dare to dream

และฝันที่เธอกล้าจะฝัน

Really do come true

จะกลายเป็นจริง

Someday I'll wish upon a star

สักวันฉันจะขอพรจากดวงดารา

And wake up where the clouds are far behind me

และตื่นขึ้นมาโดยที่หมอกเมฆล่องลอยอยู่เบื้องหลัง

Where troubles melt like lemon drops

เมื่อทุกข์ทั้งเลือนหายเหมือนหยดน้ำมะนาว

Away above the chimney tops

สูงสุดเหนือปล่องไฟ

That's where you'll find me

ที่เธอทั้งหลายจะพบฉัน

Somewhere over the rainbow

ที่แห่งนั้นเหนือสุดสายรุ้ง

Bluebirds fly

วิหคน้อยสีฟ้าบินหลา

Birds fly over the rainbow

สกุณาบินสูงสุดสายรุ้ง

Why then oh why can't I?

แล้วเหตุไฉนฉันจะไปไม่ถึง

If happy little bluebirds fly

หากนกน้อยแสนสุขผกผิน

Beyond the rainbow why oh why can't I?

เหนือสายรุ้งโสภิณ แล้วทำไมฉันจะบินไม่ได้เหมือนกัน


เนื้อเรื่องย่อของเรื่องพ่อมดวิเศษแห่งออซนี้มีอยู่ว่า โดโรธี เกล เป็นเด็กหญิงน้อยๆอาศัยอยู่กับลุงและป้าของเธอโดยมีสุนัขแสนรู้ชื่อโตโต้เป็นเพื่อนรัก พวกเขาอาศัยอยู่ที่แคนซัส ทำงานเป็นเกษตกรรับจ้างให้กับมิสกัลช์ผู้ใจร้าย มิสกัลช์ถูกโตโต้กัดก็เลยโกรธแค้น ใช้อำนาจใบสั่งจากนายอำเภอมานำตัวโตโต้ไปกำจัดเสีย โตโต้หนีออกมาได้ โดโรธีจึงพาโตโต้หนีออกจากบ้าน ในระหว่างทางที่หนีออกมานั้นได้พบกับโปรเฟสเซอร์มาร์เวลซึ่งเป็นนักมายากล เขาได้เล่นกลให้เธอดูและหลอกเธอว่าป้าแอมของเธอนั้นป่วย เธอจึงยอมกลับไปบ้านไร่ของเธอ เมื่อเธอกลับไป ปรากฏว่าได้เกิดพายุทอร์นาโดพัดขึ้น เธอหลบอยู่ในบ้านพร้อมด้วยโตโต้สุนัขคู่ใจในขณะที่คนอื่นๆไม่ได้เข้ามาด้วย พายุทอร์นาโดได้พัดบ้านของเธอไปยังเมืองออซ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในตำนาน ในระหว่างที่บ้านของเธอตกลงในเมืองออซนั้นได้ทับแม่มดแห่งตะวันออกเสียชีวิต เธอออกมาจากบ้านและได้พบกับ กลินดา ซึ่งเป็นแม่มดฝ่ายธรรมะ แม่มดผู้ชั่วร้ายแห่งตะวันตกได้ตามมาและกล่าวหาว่าโดโรธีได้ฆ่าน้องสาวของเธอ แต่แท้ที่จริงนั้นแม่มดแห่งตะวันตกต้องการรองเท้าสีทับทิมซึ่งเป็นรองเท้าวิเศษของน้องสาวเธอ ที่เมื่อผู้ใดสวมแล้วจะมีอำนาจวิเศษ รองเท้านั้นกลับมาปรากฏอยู่ที่เท้าของโดโรธี เธอจึงต้องการฆ่าโดโรธีเสียเพื่อชิงรองเท้า แต่กลินดามาช่วยไว้เสียก่อน แม่มดผู้ชั่วร้ายไม่สามารถทำอันตรายโดโรธีได้จึงอาฆาตและกล่าวว่าจะตามฆ่าเธอให้ได้ก่อนจะหายตัวไป

โดโรธีต้องการจะกลับบ้านที่แคนซัส กลินดาจึงชี้ทางให้โดโรธีไปพบพ่อมดวิเศษแห่งออซ ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองมรกต โดยให้โดโรธีเดินไปตามทางสีเหลืองแล้วจะพบปราสาทมรกตเอง ในระหว่างการเดินทางโดโรธีได้พบเพื่อนอีกสามคน คนที่หนึ่งคือ หุ่นไล่กา ที่ไม่สามารถไล่กาได้เลย เขากล่าวว่าเขาไม่มีสมองจึงไม่ฉลาดและไล่กาไม่ได้ โดโรธีจึงเสนอให้เขาเดินทางไปด้วยกันเพราะพ่อมดแห่งออซจะช่วยให้เขามีสมองได้ เมื่อเดินทางต่อไปก็ได้พบกับ มนุษย์หุ่นกระป๋อง ซึ่งไม่มีหัวใจ และต้องการให้พ่อมดแห่งออซใส่หัวใจให้เขา สุดท้ายพวกเขาได้พบกับสิงห์โต ซึ่งไม่มีความน่าเกรงขามเพราะเป็นสิงห์โตขี้ขลาด และปรารถนาจะให้พ่อมดแห่งออซช่วยให้เขามีความกล้าหาญ ทั้งสี่คนรวมทั้งโตโต้ได้เดินทางไปถึงเมืองมรกต ปรากฏว่าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบพ่อมดแห่งออซ แต่ในที่สุดก็เข้าไปจนได้ พวกเขาได้พบพ่อมดแห่งออซซึ่งปรากฏตนเป็นยักษ์มีแต่หัวและพูดเป็นควันไฟ พ่อมดแห่งออซสัญญาจะให้โดโรธีกลับบ้าน และให้สมองแก่หุ่นไล่กา ให้หัวใจแก่มนุษย์กระป๋อง และให้ความกล้าหาญแก่สิงห์โต อย่างไรก็ตามทั้งหมดจะต้องไปนำไม้กวาดวิเศษของแม่มดแห่งตะวันตกมาให้เขาเสียก่อน

ทั้งหมดได้เข้าไปในป่าปีศาจเพื่อเข้าไปชิงไม้กวาดวิเศษ แต่โดโรธีและโตโต้ถูกลิงบินได้สมุนของแม่มดจับตัวไปเสียก่อน โดโรธีและโตโต้ถูกนำตัวไปในปราสาทของแม่มดและถูกจับขังไว้ แม่มดรอเวลาให้ถึงเวลาเที่ยงคืนแล้วจะฆ่าโดโรธี พวกเพื่อนของโดโรธีตามมาพบ และแม่มดจะจุดไฟเผาหุ่นไล่กา โดโรธีจึงนำน้ำสาดไปยังหุ่นไล่กาแต่ปรากฏว่า น้ำได้กระเด็นไปโดนแม่มด แม่มดซึ่งแพ้น้ำก็เลยละลาย พวกสมุนของแม่มดต่างพากันดีใจที่แม่มดผู้ชั่วร้ายตายไป ได้ยกย่องโดโรธีให้เป็นเจ้าของปราสาทแทน โดโรธีและพวกได้นำไม้กวาดวิเศษกลับไปยังนครมรกตเพื่อให้กับพ่อมดแห่งออซตามคำสัญญา

เมื่อไปถึงนครมรกต พ่อมดแห่งออซกลับไม่ยอมทำตามสัญญาสร้างความผิดหวังให้กับโดโรธีและเพื่อน โตโต้ได้วิ่งเข้าไปในฉากด้านหลังและดึงผ้าม่านออก ทั้งหมดจึงเห็นว่าแท้ที่จริงแล้วพ่อมดแห่งออซก็เป็นเพียงชายชราที่ไม่มีเวทมนต์อันใด แต่ใช้เครื่องฉายหนังทำเป็นเหมือนว่าตนมีอำนาจวิเศษ อย่างไรก็ตามพ่อมดได้บอกกับหุ่นไล่กาว่าเขามีสมองอยู่แล้วเพราะสามารถตามมาช่วยโดโรธีได้ พร้อมกับให้ประกาศนียบัตรแก่หุ่นไล่กา เขาได้นำรูปหัวใจไปติดที่มนุษย์กระป๋อง และให้เหรียญกล้าหาญแก่สิงห์โต จากนั้นก็ได้ขึ้นบัลลูนและสัญญาจะนำโดโรธีกลับบ้าน แต่บังเอิญที่บัลลูนได้ลอยไปเสียก่อน โดโรธีจึงกลับบ้านไม่ได้

ในเวลานั้นกลินดาได้ปรากฏตัวขึ้นและบอกว่าโดโรธีกลับบ้านได้ด้วยรองเท้าทับทิมที่สวมอยู่ เพียงแต่เคาะรองเท้าเข้าด้วยกันพร้อมกับกล่าวว่า “ไม่มีที่ไหนเหมือนบ้าน” สามครั้ง โดโรธีร่ำลาเพื่อนๆแล้วเคาะรองเท้าเธอจึงกลับไปยังแคนซัสเหมือนเดิม

เมื่อโดโรธีกลับไปก็พบว่าเพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้เธอนอนสลบไปเป็นเวลานาน เมื่อเธอตื่นขึ้นก็พบลุงและป้าของเธอพร้อมด้วยโปรเฟสเซอร์มาร์เวล ซึ่งบอกกับเธอว่าสิ่งที่เธอได้พบในเมืองออซนั้นแท้ที่จริงคือความฝันเท่านั้นเอง

เนื้อเรื่องก็มีอยู่เพียงเท่านี้ ผู้เขียนนั้นได้ดูที่เป็นภาพยนต์แล้วยังพอจำได้ เมื่อมาดูละครเวทีก็พบว่าสร้างเหมือนกับในภาพยนต์อย่างไม่มีผิดเพี้ยน ฉากและดนตรีตลอดจนการแสดงและท่าเต้นทำได้อย่างสมจริงและอลังการมากอย่างนึกไม่ถึง ด้วยการใช้เทคนิคพิเศษคือภาพยนต์ผสมกับฉากและการแสดงยิ่งใหญ่สมกับเป็นละครบรอดเวย์ ตัวละครที่เล่นเป็นโดโรธีนั้นแสดงโดย ดาเนียล โฮป นักแสดงและนักร้องสาวชาวอังกฤษ นั้นร้องเพลงและแสดงได้เหมือนจูดี กาแลนในภาพยนต์มาก เสียงร้องของเธอนั้นงดงามและมีพลัง อ่อนหวานและซาบซึ้งมากทีเดียว เมื่อละครจบคนดูก็ลุกขึ้นปรบมือยาวนานอย่างน่าประทับใจ

สิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะกล่าวถึงก็คือ เรื่องเดอะวิซาร์ดออฟออซ นี้นั้น มีเรื่องที่ยาวกว่านั้นคือกำเนิดของพ่อมดออซ ซึ่งทำเป็นภาพยนต์ใหม่ในปีนี้เอง สร้างเป็นหนังสามมิติ กำกับโดย แซม ไรมี มีชื่อว่า OZ the Great and Powerful โดยมีนักแสดงหนุ่มหล่อ เจมส์ ฟรานโก มาเล่นเป็นออสการ์ ดิกส์ หนังเรื่องนี้สร้างจากนิยายของแฟรงค์ บวม ผู้เขียนเรื่องออซนี้เอง ที่เป็นที่มาของพ่อมดแห่งออซ ที่แท้ที่จริงเป็นแค่นักมายากลที่ติดพายุหลงเข้าไปในเมืองออซและช่วยรักษาเมืองไว้จากแม่มดชั่วร้ายสองพี่น้อง นับเป็นตอนต้นของ เดอะวิซาร์ด ออฟ ออซ นั่นเอง

อย่างไรก็ตามเรื่องของวิซาร์ด ออฟ ออซ นี้ยังมีตอนก่อนที่ทำเป็นละครเพลงที่ลือลั่นและเล่นอยู่ที่โรงละครแพนเทสเจสนี้มานานนั่นก็คือเรื่อง The Wicked ซึ่งทำดนตรีโดยสตีเฟน ชวาซ์ สร้างจากนิยายของเกรกอรี่ มากีร์เรื่อง Wicked: The Life and Times of the Wicked Witch of the West อันเป็นเรื่องราวกำเนิดของแม่มดผู้ชั่วร้ายแห่งตะวันตกนั่นเอง

ไปๆมาๆทั้งสามเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวกัน สิ่งที่ประทับใจผู้เขียนคือ เมื่อครั้งแรกที่ได้ชม ผู้เขียนดูเรื่อง The Wicked ก่อนแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนัก ต่อมาได้มาดู OZ the Great and Powerful ก็ยิ่งทำให้งงหนักเข้าไปใหญ่ สุดท้ายเมื่อได้มาดู The Wizard of OZ ก็เลยถึงความกระจ่าง รู้แล้วว่าเรื่องทั้งหมดมีที่มาที่ไปอย่างไร

การสร้างเรื่องย้อนที่มานี้ ฮอลลีวู้ดทำมานานแล้ว ตั้งแต่เรื่อง Star War ไปจนถึงเรื่อง Harry Potter’s ซึ่งทำให้คนดูต้องคอยติดตามทั้งหมดแล้วจึงจะเข้าใจเรื่องที่มาที่ไป

ได้มาดูแล้วก็เลยประทับใจ เลยนำเรื่องทั้งหมดมาเล่าให้ฟังในฉบับนี้ครับ