ไลฟ์สไตล์
จอมพล
ลูกกตัญญู

ใกล้ถึงวันแม่เข้ามาทุกที เป็นประจำทุกปีที่เมื่อถึงวันแม่ผู้เขียนก็มักจะนำเรื่องประทับใจที่เกี่ยวกับแม่มาเขียนลงเป็นประจำ ในปีนี้ได้ไปอ่านพบเรื่องของลูกกตัญญู และเห็นว่าน่าช่วยเหลือเป็นอย่างยิ่ง ดังนี้

"สุด ยอดลูกกตัญญู" วันนี้คณะครูโรงเรียนพิบูลย์รักษ์พิทยา ออกเยี่ยมบ้าน นายศราวุฒิ เบ้าทองจันทร์ หรือ บอม นักเรียนชั้น ม.6 ไม่มีบ้านของตนเองอาศัยอยู่บ้านป้าที่อยู่บ้านดอนเขือง ตำบลบ้านแดง อำเภอพิบูลย์รักษ์ จังหวัดอุดรธานี ภาพที่ทุกคนเห็นคือแม่ซึ่ง เคลื่อนไหวไม่ได้เลย นอนบนเสื่อเก่าๆที่ปูบนแคร่ไม้ไผ่ มีถุงมือยางใส้น้ำรองแผ่นหลังกันแผลกดทับ ทุกคนอึ้งไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ไม่คิดว่าแม่จะมีอาการหนักขนาดนี้ ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ จากการสอบถามทราบว่าขณะนี้แม่อายุ 43 ปี มีลูกชายคนเดียวคือ บอม แม่เริ่มป่วยเมื่อปี 2542 มีอาการปวดหลังและขาซื้อยาชุดมากินเองนาน 4 ปี แรกๆก็หายปวดต่อมาไม่ดีขึ้นไปหาหมอจึงรู้ว่าเป็นโรคกระดูกพรุน ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแต่ไม่ต่อเนื่องเพราะไม่มีเงินไปหาหมอ อาการทรุดหนักมาแลัว 4 ปีกว่าๆ ต้องนอนนิ่งๆอยู่กับที่ ภาระอันหนักอึ้งต้องตกอยู่ที่บอม เพราะพ่อสุขภาพไม่แข็งแรงทำงานหนักไม่ได้และต้องกินยาตลอดชีวิต บอมต้องตื่นแต่เช้า ต้มข้าวป้อนข้าวเช็ดตัวให้แม่ก่อนไปโรงเรียน กลางวันฝากปัาดูแล เลิกเรียนต้องรีบกลับบ้านเพื่อดูแลแม่ทุกๆวัน ตอนกลางคืนต้องออกหาปลา ได้กบ เขียด หนูนา มาขายเพื่อเป็นค่าอาหารเหลว นม แพมเพิร์สสำหรับแม่ ค่าอาหารกลางวันที่โรงเรีนน แต่เงินที่ได้เพียงน้อยนิดไม่พอกับค่าใช้จ่าย บางวันต้องอดอาหารบางวันเพื่อนๆก็แบ่งให้กิน เคยได้รับทุนการศึกษา แต่เงินที่ได้ก็หมดไป

บอมมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นช่างไฟฟ้า จบ ม.6 จะสอบเข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี จบมาจะได้มีงานทำมีเงินมารักษาและเลี้ยงดูพ่อแม่ให้มีความสุขเหมือนคนอื่นๆ เขาบ้าง แต่ก็คงได้แค่ฝันเพราะไม่มีเงิน

บอมเรียนดี มีความประพฤติเรียบร้อยมีจิตอาสา ช่วยกิจกรรมของโรงเรียน เป็นตัวแทนประกวดมารยาทงามได้รางวัลชนะเลิศทุกๆปี เป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียนอื่น วันนี้ท่าน ผอ.สุพรรณ กิ่งมิ่งแฮ มอบหมายให้ครูและคณะมาให้กำลังใจพร้อมทั้งมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น เล็กๆน้อยๆ และยังได้รับกำลังใจจากแพทย์หญิงทักษิณา เที่ยงธรรม หรือคุณหมอต้าย ซึ่งจะส่งทีมกายภาพบำบัดจากโรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์มาดูแลถึงบ้าน เราทุกคนได้แต่ภาวนาและหวังว่าปาฏิหาริย์จะมีจริง ขอให้แม่ของบอมหายป่วยเป็นปกติโดยเร็ว ขอให้บอมได้เรียนต่อจนประสบความสำเร็จ มีงานทำมีเงินและได้ทำในสิ่งที่มุ่งหวัง

วอนทุกท่านที่ได้อ่านเรื่องราวนี้ เพื่อนพ้องน้องพี่ ผู้ใหญ่ใจดีทุกๆท่านได้โปรดให้ความเมตตาช่วยต่อเติมฝันของบอมให้เป็นจริง โดยบริจาคทุนการศึกษา ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาแม่ตามกำลังศรัทธา โดยท่านสามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาเทสโก้ โลตัสหนองหาน ชื่อบัญชี นายศราวุฒิ เบ้าทองจันทร์ เลขที่บัญชี 9720105080 ด้วยอานิสงส์แห่งผลบุญในครั้งนี้ได้โปรดเกื้อหนุนให้ท่านและครอบครัวมีแต่ ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ

ปล. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คุณครูอภิญญา เที่ยงธรรม โทร.088-5727209


อย่างไรก็ตามเมื่อได้อ่านเรื่องนี้และเกิดความปิติใจที่เห็นความกตัญญูของน้องศราวุฒินี้ ท่านก็อาจจะฉุกใจคิดเรื่องของโรคกระดูกพรุนที่เป็นสาเหตุให้มารดาของน้องบอมต้องกลายมาเป็นเช่นนี้ ผู้เขียนจึงไปเสาะหาข้อมูลมาเพิ่มเติมเป็นอุทาหรณ์ดังนี้

ภาวะกระดูกพรุน คือ โรค ที่ผู้ป่วยมีมวลกระดูกต่ำกว่าปกติ และมีแนวโน้มจะต่ำลงเรื่อยๆ จนเป็นสาเหตุให้เกิดกระดูกหักจากอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย และมีโอกาสที่กระดูกที่หักอาจไม่สามารถติดกันได้


อาการของภาวะกระดูกพรุน

ปวดตามกระดูกส่วนกลางที่รับน้ำหนัก เช่น กระดูกสันหลัง กระดูกสะโพก และอาจมีอาการปวดข้อร่วมด้วย ต่อมาความสูงของลำตัวจะค่อยๆ ลดลง หลังจะโก่งค่อมหากหลังโก่งค่อมมากๆ จะทำให้ปวดหลังมากเสียบุคลิก เคลื่อนไหวลำบากระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหารถูกรบกวน เมื่อเป็นโรคติดเชื้อของทางเดินหายใจจะหายยาก ระบบย่อยอาหารผิดปกติ ท้องอืดเฟ้อ และท้องผูกเป็นประจำ

กระดูกพรุนจะเสี่ยงต่อกระดูกหักโดยเแพาะกระดูกสะโพก กระดูกพรุนมักจะเกิดในหญิงมากกว่าชายด้วยเหตุผล 2 ประการ

1.) ความหนาแน่ของมาลกระดูกผู้ชายสูงกว่าผู้หญิง

2.) เมื่อเข้าสู่วัยทองระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงอย่างรวดเร็วทำให้เนื้อกระดูกลดลงอย่างรวดเร็ว


วิธีการป้องกันกระดูกพรุน

1.) บริโภคอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น บล็อกโคลี่ ผักกาดเขียว ผักกวางตุ้ง คะน้า ดอกกระหล่ำ นม ถั่วเหลือง

2.) บริโภคอาหารที่มีฟอสฟอรัสให้พอดี เช่น นม เนื้อ ปลา เป็ด ไก่ ไข่ เนยแข็ง ตับ ข้าวกล้อง ถั่ว ยีสต์

3.) บริโภคอาหารที่มีแมกนีเซียมให้เพียงพอ เช่น ถั่วต่างๆ ธัญพืช แป้ง และอาหารทะเล

4.) หลีกเลี่ยงหรืองดบริโภคอาหารที่มีโปรตีนจากเนื้อสัตว์จำนวนมาก

5.) หลีกเลี่ยงหรืองดบริโภคอาหารรสเค็มจัด

6.) หลีกเลี่ยงหรืองดบริโภคเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน

7.) หลีกเลี่ยงหรืองดบริโภคน้ำอัดลม

8.) หลีกเลี่ยงหรืองดบริโภคสุรา

9.) หลีกเลี่ยงหรืองดสูบบุหรี่

10.) หลีกเลี่ยงหรืองดบริโภคยาบางชนิด


ที่มา : www.thaibio.com