ไลฟ์สไตล์
จอมพล
เก็บเชอร์รี่

อยู่อเมริกามาสิบกว่าปี ผู้เขียนไม่เคยไปเก็บเชอร์รี่เลย ได้ยินแต่คนเขาพูดกัน ฉะนั้นในจินตนาการการไปเก็บเชอร์รี่ก็หลับตาเห็นภาพตัวเอง เดินอยู่ท่ามกลางแดดเปรี้ยง ตะเกียกตะกายกระโดดเก็บลูกเชอร์รี่ที่ลูกกระจิ๊ดริดมีแต่ฝุ่นเกาะ เหมือนที่เคยเห็นคนเขาไปเก็บกันมา แล้วก็ไม่ได้ถูกอะไรนักหนาถ้าเทียบราคากับไปซื้อที่คอสโก คนที่ไปเก็บก็มักจะสวาปามกินเชอร์รี่เข้าไปเพราะกลัวไม่คุ้ม จนกระทั่งปวดท้องอาหารเป็นพิษ ผู้เขียนเลยไม่คิดอยากจะไปเก็บเชอร์รี่เท่าไรนัก

บังเอิญว่าเมื่อวันหยุดยาวที่ผ่านมานี้ ได้ติดรถชาวบ้านเขาไปเที่ยวที่วนอุทยานแห่งชาติซิโคยยา ที่มีต้นซิโคยยาที่เป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วขากลับเขาแวะเก็บเชอร์รี่ที่เบเกอร์ฟิวด์ ผู้เขียนในฐานะคนอาศัยรถเขาก็สงบปากสงบคำจำใจต้องติดไปเขาด้วย

การไปเก็บเชอร์รี่นั้น ผู้ที่มีปัญญาจักใคร่ไปเก็บตอนเช้าตรู่เพราะอากาศยังไม่ร้อน แล้วก็ไม่มีคนเยอะ เลือกเก็บได้ตามสบาย ไม่ต้องแย่งชิงตบตีกับใคร ประเภทฉันเห็นก่อนนะ อย่านะฉันจอง กรี๊ดกรี๊ด แบบละครไทย (รู้สึกว่าเขียนใส่ไข่เว่อร์ไปเสียหน่อย ไม่มีใครเขาตบตีหรือแน่นขนัดขนาดแย่งชิงกันเก็บเชอร์รี่ขนาดนั้น) ฉะนั้นจึงควรไปเสียแต่เช้าๆ ออกจากบ้านแต่มืดไปถึงเวลาเขาเปิดพอดีก็จะได้เก็บแต่ลูกเป่งๆดีๆที่สุกก่อนใคร

สาขา The Old Tomato Weigh Station

ไร่เชอร์รี่ที่ผู้เขียนไปเก็บนี้มีชื่อว่า Murray Family Farms ความจริงไร่เชอร์รี่นั้นมีมากมายหลายที่ ไม่จำเป็นต้องไปที่นี่ก็ได้ อย่างไรก็ตามคนที่ไปด้วยกับผู้เขียนซึ่งช่ำชองในการเก็บเชอร์รี่นั้นบอกว่า ไร่นี้ลูกเชอร์รี่ใหญ่และอร่อยหวานมาก นอกจากนี้ยังไม่ได้มีแค่เชอร์รี่ แต่ยังมีลูกแพร์ แบล็คเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ เน็คทารีน พีช และอื่นๆอีกมากมายให้เก็บได้อย่างหนำใจ เขาก็เลยชอบที่นี่กันมาก

เมื่อผู้เขียนไปถึงนั้นเป็นเวลาเก้าโมงเช้า ปรกติไร่เชอร์รี่นั้นเขาจะให้เราเข้าไปเก็บได้ไม่อั้น แล้วขากลับเขาก็เอามาชั่งน้ำหนัก แต่ที่นี่ในปีนี้เขาเปลี่ยนกฏใหม่เป็นการซื้อถังซึ่งมีอยู่สามขนาดอันได้แก่ ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ราคาของถังเล็กนั้น ๑๒ เหรียญ ถังกลาง ๒๒ เหรียญ และถังใหญ่ ๔๒ เหรียญ ผู้เขียนซึ่งไม่ใคร่จะใส่ใจกับการเก็บเชอร์รี่นัก ก็เลือกเอาแค่ถังกลาง เพราะรู้สึกขี้เกียจเก็บเยอะ จากนั้นเข้าห้องน้ำห้องท่าเสร็จก็เตรียมขึ้นรถอีแต๋นที่เขาจัดให้มารับไปยังไร่

แดดตอนเช้ากำลังอุ่นสบาย รถอีแต๋นขับโดยหนุ่มคาวบอยสุดหล่อ ใส่เสื้อเชิร์ตลายสก๊อตแบะอกเห็นกล้ามเป็นมัดๆ ใส่กางเกงยีนส์รัดเปรี๊ยะ พร้อมกับยิ้มกว้างเห็นฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ ผิวแทนแก้มแดงแป๊ด สาวๆในคณะเห็นแล้วกรี๊ดสลบ พยายามจะชวนพ่อหนุ่มไปเก็บเชอร์รี่ไกลตาคน แต่เขาไม่ไปด้วยเพราะต้องขับรถไปมารับผู้โดยสารอยู่อย่างนั้น จึงแห้วไปตามระเบียบ เป็นที่สมน้ำหน้าของเราชาวคณะ นั่งรถไปนิดเดียวก็ถึงไร่เชอร์รี่ ต้นเชอร์รี่นั้นจริงแล้วไม่สูงใหญ่อย่างที่คิด สูงประมาณไม่เกิน ๑๐ ฟุตเห็นจะได้ ที่ไร่นี้เขาปลูกเชอร์รี่หลายพันธุ์ด้วยกันเช่น Sappin, Rainier, Champagne, Polar light, Sequoia Cherries, Lapping Cherries, และ GG 1 อันชื่อของเชอร์รี่เหล่านี้ ผู้เขียนนั้นก็ไม่ค่อยสันทัด รู้แต่ว่าพันธุ์ Rainier นั้นเกิดจากการตัดต่อสายพันธุกรรมทำให้เชอร์รี่มีผลสีเหลืองจนถึงเหลืองอมชมพู มีรสชาดหวานและฉ่ำ ไม่กรอบเหมือนลูกสีแดง แต่ชื่นใจยิ่งนัก ราคาก็มักจะแพงกว่าเชอร์รี่ธรรมดา อย่างไรก็ตามเชอร์รี่พันธุ์ GG1 นั้นเชอร์รี่เรนเนียร์ก็ล้มจีจี้วันไม่ลงเหมือนกัน เพราะกรอบหอมหวานจัดจนแสบท้องแล้วเนื้อก็เยอะเม็ดติ๊ดเดียว ผู้เขียนเมื่อเดินเข้าไปในไร่แล้วมีความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในสวรรค์ เพราะต้นเชอร์รี่ที่เห็นอยู่เบื้องหน้านั้น มีลูกดกมากเหมือนแกล้ง สะพรั่งพรึ่บไปทั้งต้น ลูกใหญ่ๆเป้งๆแบบไม่เคยเห็นมาก่อนในตลาด เมื่อปลิดผลสดๆเข้าปาก ก็ต้องหลับตาแล้วดื่มด่ำกับความสดชื่นและความหอมหวานอย่างอลังการของเชอร์รี่เหล่านี้ ไม่ได้กระแดะแต่น้ำตาจะไหลด้วยความปลื้มใจ

อันความปลื้มใจนี้ดื่มด่ำจากการเห็นคุณค่าของแผ่นดิน ไม่น่าเชื่อว่าผลไม้สวรรค์นี้จะงอกงามขึ้นมาจากผืนดินที่เหมือนทะเลทรายแห่งนี้ ความที่เป็นคนไทยแล้วเราคุ้นเคยกับการที่คิดว่าดินดีนั้นต้องดำสนิท ชุ่มชื้น แต่พอมาเห็นดินร่วนปนทรายแล้งเสียขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถปลูกพืชพันธ์ธัญญาหารได้งดงามขนาดนี้ ความจริงแล้วแคลิฟอร์เนียร์นั้นเป็นแหล่งผลิตอาหารของคนอเมริกันทั้งชาติ แคลิฟอร์เนียร์รัฐเดียวผลิตผัก ผลไม้เท่ากับ๖๘ เปอร์เซ็นต์ของประเทศ ปีหนึ่งๆผลิตผลไม้และพืชจำพวกถั่วถึง ๑๕.๗ ล้านตัน ท่านเชื่อหรือไม่ว่าเมล็ดอัลมอนด์นั้นผลิตจากรัฐแคลิฟอร์เนียร์ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ และผลองุ่น ๙๐ เปอร์เซ็นต์มาจากแคลิฟอร์เนียร์ จากข้อมูลของ USDA’s Economic Research Service 2011 แคลิฟอร์เนียร์ส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ รัฐที่ผลิตพืชผักผลไม้เรียงมาตามลำดับได้แก่ อันดับที่ ๑ แคลิฟอร์เนียร์ อันดับที่ ๒ ฟลอริดา และอันดับที่ ๓ ได้แก่วอชิงตัน แคลิฟอร์เนียร์รัฐเดียวผลิตผลไม้มากกว่าครึ่งหนึ่งที่ผลิตได้ในประเทศ จำว่าได้เคยคุยกับเพื่อนซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ดร.สุวรรณ จันทิวาสารกิจ อาจารย์สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เมื่อครั้งที่มานำเสนองานวิจัยที่ลาส เวกัส เธอบอกกับผู้เขียนว่า ชอบแคลิฟอร์เนียร์และอยากมาอยู่แอลเอ นั่นก็เพราะว่าพืชผักผลไม้ของที่นี่สดและใหม่เต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหาร เธอเรียนทางฝั่งนิวยอร์คและบอกว่ารู้เลยว่าผักผลไม้ทางฝั่งตะวันออกนั้นเทียบไม่ได้เลยกับทางฝั่งเรา อันความจริงนี้เราไม่เคยรู้มาก่อน ครั้นเมื่อได้มาเห็นไร่ผลไม้แห่งนี้ จึงเชื่อสนิทใจ

อันเมอร์เรย์ แฟมิลี่ ฟาร์มแห่งนี้เขียนเอาไว้ในโปรชัวร์ว่าเขาปลูกพืชไร่ของเขาในระบบ Sustainable Farming หมายถึงการปลูกพืชแบบอนุรักษ์นิยม อันได้แก่การคำนึงถึงคุณค่าสามประการประกอบด้วย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การส่งเสริมผลกำไร และการดำรงคุณค่าทางสังคมโดยมวลรวม (According to the Culture Research and Education Program. WWW.sarep.ucdavis.com) การใช้ภาษาแบบแปลมาให้อ่านแล้วไม่รู้เรื่องนี้ผู้เขียนชำนาญมาก พูดง่ายๆก็คือ ไร่พวกนี้เขาคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เช่นใช้ปุ๋ยธรรมชาติ ใช้ยาฆ่าแมลงที่ผลิตจากธรรมชาติ ใช้วิถีทางธรรมชาติขจัดแมลง ใช้ระบบน้ำหยดซึ่งประหยัดการใช้น้ำ นอกจากนี้เขายังใช้คนงานท้องถิ่น ซึ่งมีการจ่ายค่าแรงอย่างเป็นธรรม มีสวัสดิการที่ดี คนงานมีความสุข เจ้าของไร่เขาว่าเขาอาศัยอยู่ที่ไร่ ลูกก็เกิดที่ไร่ เลี้ยงลูกให้โตที่นี่ ช่วยเหลือและส่งเสริมสังคมน้อยๆในเมือง San Joaquin Valley และเขาว่าเขาเห็นคุณค่าของครอบครัว มีอยู่ประโยคหนึ่งที่เขาเขียนไว้ใน Mission Statement ว่า “To surprise customers with the incredible flavor of Grown Ripe here fruits and vegetables” ซึ่งแปลได้ว่า เราต้องการให้ท่านประหลาดใจกับรสชาดของผักและผลไม้ที่สุกงอมอย่างพอดี อันคำกล่าวที่ว่านี้เป็นจริงอย่างอัศจรรย์ เพราะผลไม้ที่นี่สวยงาม อร่อยหวาน อย่างที่ต้องตบหน้าตัวเองด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือความจริงไม่ได้ฝันไป

ผู้เขียนนึกเสียใจที่เอาถังขนาดกลางมา เพราะยิ่งเก็บยิ่งสนุก เลือกเชอร์รี่ลูกโตๆไร้ตำหนิ หวานเจี๊ยบอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน เก็บจนเพลิน ปรากฏว่าโน่น ไร่บลูเบอร์รี่ ลูกโตๆ ยังอยู่ด้านโน้น ลูกแพร์สีชมพู แนคทารีนแสนหวาน รวมไปถึงโลควอท ยังรออยู่ทางโน้น ที่น่าอัศจรรย์ที่สุดคือเจ้าลูกหม่อน แบล็คเบอร์รี่ที่แสนสวยลูกโตเท่านิ้วโป้งผู้ชายตัวใหญ่ๆอย่างผู้เขียน แล้วหวานเจี๊ยบ ดกดำพรึนไปหมดทั้งต้น เห็นแล้วต้องบอกว่าจะบ้าตาย เกิดมาไม่เคยละลานตาอย่างนี้มาก่อน

การได้มาอยู่ท่ามกลางแสงแดดอ่อน มีลมพัดเย็น มองไปเห็นทุ่งกว้างและเทือกเขาร้อยเรียงเป็นฉากหลัง ท้องฟ้าแต่งแต้มด้วยสีสรรงดงามราวจิตกรวาด เมฆขาวเป็นกลุ่มลอยตุ๊บป่อง กับความเงียบสงบและกลิ่นหอมของผลไม้สด เติมพลังชีวิตให้มีความสุขอย่างประหลาด ครั้นเมื่อปลิดผลไม้สดๆเข้าปาก หลับตาพริ้มและดื่มด่ำกับน้ำหวานที่ชุ่มลิ้นสดและอร่อยอย่างไม่รู้จะกล่าวคำใดๆ ก็ทำให้เกิดปิติและปรารถนาที่จะเผยแพร่ความรู้สึกนี้ให้กับคนที่ไม่เคยได้ไปมาก่อน

วันที่ผู้เขียนไป พนักงานเขาบอกว่าอาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์สุดท้ายแล้วเขาจะปิดไร่เพื่อเก็บขายส่งออก แต่ถ้าผลไม้ยังมีอยู่และมีคนต้องการไปเขาจะยังเปิดต่ออีกหนึ่งอาทิตย์ ถ้าท่านผู้อ่านอยากไปบ้างต้องโทรฯไปถามก่อนว่ายังเปิดอยู่ไหมและเปิดถึงเมื่อไร ผู้เขียนจะให้ที่อยู่และเวปไซด์ตรงนี้ ตอนนี้ขออนุญาตไปนอนกินเชอร์รี่ที่เก็บมายังอยู่เต็มตู้เย็น ไม่ยอมแบ่งให้ใครเพราะตะกละอยากจะกินคนเดียวให้ท้องแตกตายไปเลย


Murray Family Farms ตั้งอยู่ที่ 9557 Copus Rd. Bakersfield, California 93313 เบอร์โทรศัพท์ 661-858-1100
WWW.murrayfamilyfarms.com