ไลฟ์สไตล์
จอมพล
น้ำจิ้ม ตอนที่ ๑

สิ่งที่อาหารไทยแตกต่างจากอาหารชาติอื่นๆก็คือรสชาติที่จัดจ้านและมีครบทุกรส อาหารไทยนั้นสิ่งที่สำคัญก็คือน้ำจิ้มที่จะเสกสรรให้อาหารจานนั้นเอร็ดอร่อยขึ้นมาทันที อาหารบางอย่างถ้าขาดน้ำจิ้มเสียแล้วก็หมดรสชาติ ไม่อร่อยหรือรับประทานไม่ได้ไปเลยก็มี

ผู้เขียนไปพบสูตรน้ำจิ้มถึง ๑๖ ชนิดมาจากในกระปุกดอทคอม ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะเซพเก็บไว้เผื่อจะหยิบมาดูเวลาต้องทำน้ำจิ้ม ปรากฏว่ามีผู้ใหญ่หลายท่านที่ได้เห็นและบอกว่าน่าจะนำมาเผยแพร่ต่อในคอลัมน์ไลฟ์สไตล์ เพราะเป็นหนังสือพิมพ์จะตัดเก็บไว้ได้ ผู้เขียนก็เห็นด้วย จึงขออนุญาตนำมาลงเสียในฉบับนี้

อย่างไรก็ตามสูตรนี้มีถึง ๑๖ สูตร อาจจะยาวเกินไปที่จะลงหมดในฉบับเดียว ผู้เขียนจึงขอแบ่งเป็นสองฉบับ ฉบับนี้ลงแค่ ๘ สูตรก่อน และท่านผู้อ่านที่ต้องการสูตรให้ครบทั้ง ๑๖ สูตร โปรดติดตามต่อฉบับต่อไปครับ


น้ำจิ้ม ถือเป็นเครื่องจิ้ม เครื่องปรุงรสที่ทำให้อาหารมีรสชาติที่อร่อยมากขึ้น แถมอาหารบางอย่างก็ไม่สามารถยกไปเสิร์ฟได้เลยถ้าไม่มีน้ำจิ้ม แต่น้อยคนนักจะรู้ว่า น้ำจิ้มแต่ละถ้วยมีส่วนผสมอะไรบ้าง

ตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันนี้ก็ยังไล่เรียงชื่อน้ำจิ้มแต่ละถ้วยไม่หมดสักที มีหลายชนิดซะเหลือเกิน เลือกกินเลือกจิ้มคู่กับอาหารได้มากมายทั้งคาว-หวาน โดยเฉพาะคนไทย น้ำจิ้มถือเป็นเครื่องเคียงที่ขาดไปไม่ได้เลย ไม่ว่าจะกินอาหารเมนูไหน ๆ ก็มักจะมีน้ำจิ้มแซมมาให้เห็นอยู่เสมอ แต่ทว่า น้ำจิ้มแต่ละสูตรก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวต่างกันไป ส่วนผสมก็แตกต่างกัน แล้วเราจะรู้ได้อดย่างไรว่า น้ำจิ้มยอดฮิตที่เราชอบกินกันนั้นมีวิธีทำอย่างไรบ้าง วันนี้ กระปุกดอทคอม ก็ได้รวบรวมสูตรน้ำจิ้ม และวิธีทำน้ำจิ้มยอดฮิตมาฝากถึง 21 สูตรน้ำจิ้มด้วยกัน ชอบสูตรไหนก็เลือกจิ้มกันได้ตามใจชอบเลยจ้า

1. น้ำจิ้มสุกี้

ถ้าวันไหนครอบครัวของคุณเกิดอยากจะจัดปาร์ตี้สุกี้ขึ้นมา แล้วกลัวว่า น้ำจิ้มที่ซื้อมาจะไม่พอ ก็มาทำกินเองซะเลยดีกว่า ได้ทีเดียวหม้อเบ้อเริ่ม เป็นน้ำจิ้มสุกี้สูตรมาจาก คุณ Mr Trin สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

สิ่งที่ต้องเตรียม
ซอสพริก 1 ขวดใหญ่
น้ำส้มสายชู 3 ทัพพี
ซอสมะเขือเทศ 1 ทัพพี
ซีอิ๊วขาว 3 ทัพพี
ซอสหอยนางรม 1 ทัพพี
กระเทียมดอง 2 ทัพพี
น้ำตาลทราย 3 ทัพพี
พริกชีฟ้าแดง 9 เม็ด
กระเทียม 6 กลีบ
เต้าหู้ยี้ 4 ชิ้น
งาขาวคั่ว บดพอหยาบ 1 กำมือ
น้ำมันงา 2 ทัพพี
ผักชี และผักชีฝรั่งซอย
วิธีทำ

1. ใส่ซอสพริกลงในกระทะ ตามด้วยน้ำส้มสายชู ซอสมะเขือเทศ ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำกระเทียมดอง และน้ำตาลทราย คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้

2. โขลกพริกชี้ฟ้าแดงกับกระเทียมให้เข้ากันจนแหลก ใส่เต้าหู้ยี้พร้อมน้ำลงไป บดทุกอย่างจนเข้ากัน จากนั้นตักใส่ในกระทะที่มีซอสพริก

3. คนส่วนผสมในกระทะเข้าด้วยกัน นำขึ้นตั้งไฟอ่อนคนผสมจนเดือด ปิดไฟ

4. ใส่งาขาวคั่วบดลงไป ตามด้วยน้ำมันงา ค่อย ๆ คนผสมเข้าด้วยกัน ใส่ผักชีและผักชีฝรั่งซอย คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้กินกับสุกี้


2. น้ำจิ้มซีฟู้ด

อีกหนึ่งสูตรน้ำจิ้มที่ใคร ๆ ก็อยากจะมีไว้ในครอบครอง เพราะน้ำจิ้มซีฟู้ดสามารถนำไปจิ้มกินกับอาหารได้หลายอย่าง แต่ที่นิยมก็คงจะเป็นอาหารทะเล ย่างสด ๆ ร้อน ๆ จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดเด็ด ๆ แบบนี้ อร่อยเด็ด !

ส่วนผสม
พริกขี้หนูสวน 20 เม็ด
พริกขี้หนูเม็ดใหญ่ 20 เม็ด
กระเทียมไทยแกะเปลือก 1/2 ถ้วย
รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 7 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1/2 ถ้วย
น้ำต้มสุก 1/2 ถ้วย
วิธีทำ

1. ใส่พริกขี้หนูทั้งหมดลงในเครื่องปั่น ตามด้วยกระเทียม รากผักชี เกลือ น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว ปั่นให้เข้ากันพอหยาบ

2. ใส่น้ำต้มสุกลงไป คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ


3. น้ำจิ้มหมูกระทะ

คงจะมีหลายบ้านหลายครอบครัวที่ชอบทำหมูกระทะกินกันเอง สนุกสนานเฮฮาปาร์ตี้กันไป นอกจากจะหมักหมู และเครื่องต่าง ๆ ให้อร่อยแล้ว หัวใจหลักสำคัญของอาหารปิ้งย่างก็ต้องอยู่ที่น้ำจิ้มด้วย ไปซื้อแบบสำเร็จมากินก็ไม่ถูกปาก ลองมาทำกินเองดีกว่าตามสูตรที่เรานำมาฝากนี้เลย รับรองว่า อร่อยจ้า

ส่วนผสม
ซอสมะเขือเทศ 1 ถ้วย
ซอสพริก 3/4 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 1/4 ถ้วย
เต้าหู้ยี้ บดพอหยาบ 1 ก้อน
น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
ผงพะโล้ 1/2 ช้อนชา
งาขาวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ

1. ใส่ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก ซีอิ๊วขาว และเต้าหู้ยี้ ลงในหม้อคนผสมให้เข้ากัน นำขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟปานกลาง คนผสมตลอดเวลาจนเดือด

2. ใส่น้ำมันงา พริกไทย ผงพะโล้ และงาขาวคั่วครึ่งหนึ่งลงไป คนผสมจนเดือดอีกครั้ง ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย โรยงาขาวคั่ว พร้อมเสิร์ฟ


4. น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ

เมนูหมูสะเต๊ะถือเป็นอีกหนึ่งอาหารที่มีเสน่ห์อยู่ที่น้ำจิ้ม เนื้อสัตว์หมักเครื่องเทศย่าง กินคู่กับน้ำจิ้มสะเต๊ะผัดหอม ๆ รสหวานกลมกล่อม ๆ ยิ่งได้กินคู่กับน้ำจิ้มอาจาดยิ่งอร่อยครบรสขึ้นไปอีกว่าแล้วก็มาจดสูตรน้ำ จิ้มสะเต๊ะไปลองทำกันเลยจ้า

ส่วนผสม
กะทิ 2 ถ้วย
ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ 1/2 ถ้วย
น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร 2 ช้อนชา
วิธีทำ

1. ใส่กะทิ 1 ถ้วย ลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางเคี่ยวจนกะทิแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงและถั่วลิสงคั่วบดลงผัดให้เข้ากัน เติมกะทิที่เหลือ คนผสมให้เข้ากัน ลดไฟลง หมั่นคนตลอดเวลา

2. ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และเกลือ เคี่ยวจนข้น และมีน้ำมันลอยหน้า ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ


5. น้ำจิ้มอาจาด สะเต๊ะ

ในเมื่อมีน้ำจิ้มสะเต๊ะอร่อย ๆ แล้ว ก็ต้องมาคู่กับน้ำจิ้มอาจาด เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกันด้วย น้ำจิ้มอาจาดไม่ใช่แค่กินกับเมนูสะเต๊ะได้อย่างเดียวเท่านั้น ยังสามารถนำไปกินกับพวกทอดมัน ขนมปังหน้าหมู หรืออาหารทอด ๆ อย่างอื่นได้อีกด้วย

ส่วนผสม
น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
แตงกวาซอย
หอมแดงซอย
พริกชี้ฟ้าแดงเม็ดใหญ่ซอย
วิธีทำ

1. ใส่น้ำส้มสายชูและน้ำตาลทรายลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน เคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลาย เติมเกลือลงไปเล็กน้อย ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น

2. เวลาเสิร์ฟ ตักอาจาดใส่ถ้วย ตามด้วยแตงกวาซอย หอมแดงซอย และพริกชี้ฟ้าแดงซอย พร้อมเสิร์ฟ

6. น้ำจิ้มแจ่ว

เชื่อเลยว่า น้ำจิ้มแจ่วสไตล์อีสานเป็นอีกหนึ่งน้ำจิ้มที่หลายคนชอบ แต่ไม่รู้ว่า ถ้าทำกินเอง จะอร่อยเหมือนที่แถมมาจากร้านหรือเปล่า รับรองว่าสูตรน้ำจิ้มแจ่วด้านล่างนี้ อร่อยเป๊ะ ! เป็นสูตรมาจาก คุณเนินน้ำ

ส่วนผสม
น้ำมะขามเปียก 50 กรัม
น้ำอุ่น 1 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
ข้าวคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ
ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ

1. แช่มะขามเปียกในน้ำอุ่นพอนุ่ม คั้นแล้วกรองเอาแต่น้ำ เตรียมไว้

2. ผสมน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บและน้ำปลาเข้าด้วยกันในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวจนเหนียว เติมพริกป่น ข้าวคั่วป่น คนพอเข้ากัน ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนอุ่น

3. ตักใส่ถ้วยโรยด้วยผักชีฝรั่งซอย และหอมแดงซอย พร้อมเสิร์ฟ


7. น้ำจิ้มลูกชิ้น

เวลาซื้อลูกชิ้นสุดโปรดแบบเป็นกิโล ๆ มากิน ถึงแม้ว่าเนื้อลูกชิ้นจะอร่อยนุ่มนิ่มขนาดไหน แต่ถ้านำมาจิ้มกินกับน้ำจิ้มไก่สำเร็จรูปธรรมดา ๆ ก็หมดราคากันพอดี แบบนี้ก็ต้องทำน้ำจิ้มลูกชิ้นไว้กินเองได้แล้ว

ส่วนผสม
พริกแห้งแกะเมล็ดออกแช่น้ำจนนุ่ม 20 เม็ด
กระเทียมไทยแกะเปลือก 3 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมดอง 3 หัว
น้ำ 1 ถ้วย
น้ำมะขามเปียก 1 1/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 3/4 ถ้วย
เกลือสมุทร 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ

1. ใส่พริกแห้ง กระเทียม กระเทียมดอง และน้ำลงในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้

2. ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลทราย และเกลือลงในหม้อ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนน้ำตาลละลาย จากนั้นใส่เครื่องที่ปั่นไว้ลงไป เคี่ยวจนข้นเหนียว ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ


8. น้ำจิ้มสะเดาน้ำปลาหวาน

พอถึงหน้าสะเดาออกดอก วัยรุ่นเก๋า ๆ หน่อยก็จะปลื้มปริ่ม เพราะจะได้ซื้อสะเดามาจิ้มกินกับน้ำปลาหวาน แต่ถ้าเป็นวัยว้าวุ้นก็คงจะร้องยี้ให้กับความขมปี๋ของสะเดา แต่พอเอามาจิ้มกินกับน้ำปลาหวานก็ช่วยลดความขมลงไปได้เยอะ แถมเข้ากันดีอย่าบอกใครเชียว ถ้าที่บ้านไหนได้รับสะเดามาเป็นของฝากหน้าหนาว ก็ลองมาทำน้ำจิ้มสะเดาน้ำปลาหวานกินกันเองเลยดีกว่า

ส่วนผสม
น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 3/4 ถ้วย
น้ำปลา 1/4 ถ้วย
หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
หอมแดงเจียว
พริกขี้หนูแห้งทอด
วิธีทำ

1. ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา ลงในหม้อ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนข้นและเหนียว ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้พออุ่น

2. ใส่หอมแดงซอย คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย โรยหอมแดงเจียว และพริกขี้หนูแห้งทอด พร้อมเสิร์ฟ

สำหรับฉบับนี้ขอแค่ ๙ สูตรก่อน ติดตามต่อฉบับหน้าซึ่งจะมีสูตรเด็ดๆ กะปิหวาน น้ำจิ้มเมี่ยงคำ หรือ น้ำจิ้มไก่ต้มแบบโบราณ อย่าพลาดนะครับ ขอขอบคุณความรู้ดีๆจากกระปุกดอทคอมด้วยครับ