ไลฟ์สไตล์
จอมพล
I WISH YOU ENOUGH

สัปดาห์แรกของปีใหม่ หอมกลิ่นลมหนาว กับช่วงเวลาใหม่ๆ การเริ่มต้นใหม่ การล้มเลิกสิ่งที่ไม่ดีในปีเก่า และเป็นโอกาสที่ได้ตั้งความหวังใหม่ ในช่วงปีใหม่เราก็มักจะได้ของขวัญ พร้อมด้วยการ์ดอวยพรปีใหม่ ซึ่งก็มักจะเป็นการขอให้เรามีความสุข มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ และที่ขาดไม่ได้คือขอให้เงินทองไหลมาเทมา

อันความสุขที่เป็นความหมายของคนทั่วไปนั้นคือการได้รับ เช่น ได้รับตำแหน่งใหม่ ได้รับเงินเดือนขึ้น ได้รับมรดก ได้แต่งงาน หรือได้อื่นๆอีกมากมาย นี่เป็นความสุขแบบปุถุชนคือความสุขแบบผิวเผินที่เราคุ้นเคยกันดี

อย่างไรก็ตามชีวิตที่ดีที่มีความสุข คือชีวิตที่เพียบพร้อม คือพรั่งพร้อมด้วยเกียรติยศ ชื่อเสียง ทรัพย์ศฤงคาร สุขภาพอนามัย ญาติสนิทมิตรสหาย การงาน คู่สมรส และบุตรธิดา ชีวิตที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งทั้งหลายนี้ คือชีวิตที่มีความสุข ที่คนเราใฝ่หากันใช่หรือไม่

ผู้เขียนได้อ่านข้อเขียนที่ทำให้ฉุกคิดว่า แท้จริงแล้ว อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์ อะไรคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์เรามีความสุขอย่างแท้จริง ลองอ่านดูแล้วท่านจะคิดเหมือนผู้เขียนหรือไม่

I WISH YOU ENOUGH

Recently, I overheard a mother and daughter in their last moments together at the airport as the daughter's departure had been announced.

“ไม่นานมานี้ ฉันบังเอิญได้ยินแม่กับลูกสาวร่ำลากันที่สนามบิน ในขณะที่สนามบินได้ประกาศว่าเครื่องบินของลูกสาวกำลังจะออก

Standing near the security gate, they hugged and the mother said:"I love you and I wish you enough.

ในขณะที่ยืนอยู่ใกล้กับประตูทางออก ทั้งสองกอดกันและคนแม่ได้พูดว่า “แม่รักลูกและแม่ขอให้ลูกมีพอเพียงนะ”

"The daughter replied, "Mom, our life together has been more than enough. Your love is all I ever needed. I wish you enough, too, Mom.

ลูกสาวตอบว่า “แม่คะ ชีวิตของเราทั้งสองที่ผ่านมานั้นมากเกินกว่าแค่พอเพียง ความรักของแม่เป็นสิ่งเดียวที่หนูต้องการ หนูขอให้แม่มีพอเพียงเช่นกันค่ะ”

" They kissed and the daughter left. The mother walked over to the window where I sat.

เขาจูบลากันและลูกสาวก็จากไป คนแม่เดินไปยังหน้าต่างที่ซึ่งฉันนั่งอยู่

Standing there, I could see she wanted and needed to cry. I tried not to intrude on her privacy but she welcomed me in by asking, "Did you ever say good-bye to someone knowing it would be forever?"

ยืนอยู่ตรงนั้น ฉันสามารถจะเห็นได้ว่าเธออยากจะร้องไห้ ฉันพยายามจะไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอ แต่เธอกลับเป็นฝ่ายเริ่มด้วยการถามฉันว่า “ คุณเคยลาจากใครโดยรู้ว่าจะเป็นการลาจากตลอดไปไหมคะ”

"Yes, I have," I replied. "Forgive me for asking but why is this a forever good-bye?"

“เคยค่ะ” ฉันตอบ “ขอโทษนะคะถ้าอยากจะถามว่าทำไมถึงเป็นการร่ำลาตลอดไปคะ”

"I am old and she lives so far away. I have challenges ahead and the reality is the next trip back will be for my funeral," she said.

“ฉันแก่แล้วและเธอก็อยู่ไกลเหลือเกิน ฉันมีสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ข้างหน้าและแท้จริงแล้ว การเดินทางครั้งหน้าของเธอก็คงจะเป็นงานศพของฉัน” เธอกล่าว

When you were saying good-bye, I heard you say, "I wish you enough." May I ask what that means?" She began to smile.

ตอนที่คุณลากัน ฉันได้ยินคุณพูดว่า “ แม่ขอให้ลูกมีพอเพียงนะ” “ถามหน่อยได้ไหมคะว่าหมายความว่าอะไร “ เธอก็เริ่มยิ้ม

"That's a wish that has been handed down from other generations. My parents used to say it to everyone."

นั่นเป็นคำอวยพรที่เราใช้ต่อๆกันมาหลายชั่วคนแล้ว พ่อแม่ของฉันก็เคยพูดแบบนี้กับทุกคน

She paused a moment and looked up as if trying to remember it in detail and she smiled even more.

เธอหยุดไปครู่หนึ่งและเงยหน้าขึ้นในขณะที่กำลังพยายามนึกถึงรายละเอียด และเธอก็ยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม

"When we said 'I wish you enough' we were wanting the other person to have a life filled with just enough good things to sustain them".

“เมื่อเรากล่าวว่า “ฉันขอให้เธอพอ” เรากำลังต้องการให้เขาคนนั้นมีชีวิตที่มีพอเพียงในสิ่งดีๆที่จะช่วยอุปถัมถ์เขา

Then turning toward me, she shared the following, reciting it from memory,

จากนั้นก็หันมาที่ฉัน เล่าความจากความทรงจำของเธอดังต่อไปนี้

"I wish you enough sun to keep your attitude bright.

ฉันขอให้เธอได้รับแสงอาทิตย์พอที่จะทำให้เธอมีทัศนคติต่อชีวิตที่สดใส

I wish you enough rain to appreciate the sun more.

ฉันขอให้เธอมีฝนพรำเพียงพอที่จะสำนึกในบุญคุณของดวงอาทิตย์

I wish you enough happiness to keep your spirit alive.

ฉันขอให้เธอมีความสุขเพียงพอที่จะรักษาให้จิตวิญญานยั่งยืน

I wish you enough pain so that the smallest joys in life appear much bigger.

ฉันขอให้เธอเจ็บปวดพอที่จะเห็นว่าความสุขเล็กๆในชีวิตมีค่ายิ่งใหญ่

I wish you enough gain to satisfy your wanting.

ฉันขอให้เธอได้รับพอที่จะพอใจกับความต้องการของเธอ

I wish you enough loss to appreciate all that you possess.

ฉันขอให้เธอสูญเสียพอที่จะเห็นคุณค่ากับสิ่งที่เธอมีอยู่

I wish you enough hellos to get you through the final good-bye."

ฉันขอให้เธอได้ทักทายพอเพียงที่จะผ่านพ้นวันที่จะต้องลาจากเป็นครั้งสุดท้าย

She then began to cry and walked away.

เธอกล่าวแล้วก็เริ่มจะร้องไห้และเดินจากไป

They say it takes a minute to find a special person. An hour to appreciate them. A day to love them. And an entire life to forget them.

ท่านกล่าวว่า มันใช้เวลาแค่นาทีเดียวเท่านั้นที่จะพบคนพิเศษสักคน แค่หนึ่งชั่วโมงที่จะเห็นคุณค่าของเขา แค่วันเดียวที่จะรักพวกเขา และใช้เวลาทั้งชีวิตที่จะลืมเขา

หากเราจะพิจารณาบทความนี้อย่างลึกซึ้งจะเห็นได้ถึงปรัชญาอันยิ่งใหญ่ที่แอบแฝงอยู่ในเนื้อเรื่อง

ความพอเพียงคือคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์ได้เต็มคน

คนรวยไม่มีวันรวย ถ้าไม่รู้จักพอ ตราบใดที่ยังไม่พอ ก็ยังไม่รู้สึกว่าตนเองรวย

คนไม่เคยมีความทุกข์ ก็ยากที่จะมีความสุข เพราะเมื่อไม่มีทุกข์ สุขก็ไม่เกิด เฉยๆไปเช่นนั้นสุขก็ไม่มี แต่ถ้าทุกข์มากเกิน สุขก็ไม่เกิดอีก เพราะทุกข์เกินกว่าจะชื่นชมสิ่งเล็กๆในชีวิตที่ทำให้มีความสุขได้

ฉะนั้นหากปรารถนาสุข ก็ต้องรู้จักทุกข์ รู้จักการสูญเสีย รู้จักการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องมีแค่พอ พอเพื่อให้รู้สุข เช่นนี้จึงจะเรียกว่าเป็นชีวิตที่สมบูรณ์

ไม่รู้จักค่ำคืนอันหนาวเหน็บ ก็ไม่ชื่นชมอรุณอุ่นยามเช้า

ไม่หนาวเย็นยะเยือก ก็ไม่ขอบคุณชาอุ่นๆในมือ

ไม่หิวจนตาลาย ก็ไม่รู้สึกว่าข้าวเปล่าๆก็อร่อย

คนเราจึงไม่ควรกลัวความทุกข์ เพราะเมื่อมีทุกข์เดี๋ยวก็มีสุข

คนเราจึงไม่ต้องกลัวล้ม เพราะเมื่อล้มเดี๋ยวก็ลุกได้

คำอวยพรในปีใหม่นี้ คำที่มีคุณค่าที่สุดคือ “I wish you enough”

เพราะเมื่อเรารู้จักคำว่าพอ ได้ประสบกับรสชาติแห่งชีวิตอย่างพอเพียง เราก็จะชื่นชมกับสิ่งที่เป็นความสุขได้

ขอให้ท่านผู้อ่านไลฟ์สไตล์ทุกท่าน “มีความพอเพียงในปีใหม่ที่มาถึงนี้ทุกท่านครับ”