ไลฟ์สไตล์
จอมพล
บัญญัติ ๑๓ ประการสำหรับคนแกร่ง

เรื่องราวสำหรับคนแกร่งในวันนี้ ผู้เขียนแปลและเรียบเรียง มาจากเวปไซด์ themindunleashed.org ประจำวันที่ ๑ พฤษภาคม ปี ๑๔ ที่ผ่านมานี้ หัวเรื่องเป็นภาษาอังกฤษว่า “ 13 things mentally strong people don’t do” ซึ่งอาจแปลเป็นไทยได้ว่า ๑๓ สิ่งที่คนจิตใจเข้มแข็งจะไม่ทำ แต่ผู้เขียนเห็นว่าเปลี่ยนเป็น บัญญัติ ๑๓ ประการสำหรับคนแกร่งจะสละสลวยกว่า

ผู้เขียนไม่ได้แปลตัวต่อตัว เอาเป็นว่าแปลเขาบ้าง เขียนเองบ้างก็แล้วกัน

เขาบอกว่าคนที่มีจิตใจเข้มแข็ง คือไม่เป็นคนอ่อนแอนั้นจะเป็นคนที่มีนิสัยที่ฝรั่งเรียกว่า “เฮ้ลท์ตี้” น่าจะหมายถึงมีสุขภาพจิตดี เพราะคนเข้มแข็งนั้นจะสามารถจัดการกับอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมในหลายๆรูปแบบซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต ลองอ่านดูบัญญัติ ๑๓ ประการต่อไปนี้และลองคิดดูว่ามีข้อไหนที่คุณควรจะปรับปรุงบ้าง

๑. ไม่เสียเวลามานั่งเศร้าใจให้กับตัวเอง
คนที่เข้มแข็งจะไม่มัวมานั่งเสียใจร้องห่มร้องไห้ให้กับตัวเองเวลาที่ทำตัวเองหรือถูกกระทำจากผู้อื่น ในทางกลับกันพวกเขาจะรับผิดชอบต่อหน้าที่และบทบาทของตนเอง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเข้าอกเข้าใจว่า ชีวิตนั้นมันไม่ยุติธรรมเสมอไป

๒. ไม่ยอมให้ใครมีอำนาจเหนือตัวเอง
คนที่เข้มแข็งจะไม่ยอมให้ใครมาควบคุมพวกเขา และเขาก็จะไม่ให้อำนาจแก่คนอื่น เขาจะไม่พูดว่า “หัวหน้าเฮงซวย ทำให้เซ็งเลยวันนี้” ทั้งนี้ก็เป็นเพราะเขาเข้าใจว่า เขาคือคนที่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนได้ และเขาก็สามารถจะเลือกที่จะตอบสนองอารมณ์นั้นอย่างไร

(อ่านคำแปลภาษาอังกฤษของตัวเองแล้วก็งงๆ จริงๆแล้วถ้าจะให้อธิบายให้เข้าใจก็คือ ตัวเรานั้นมีอำนาจในตัวเองที่จะเลือกให้คนอื่นมามีอิทธิพลต่อความสุขความทุกข์ของเราหรือไม่ สิ่งที่ถูกต้องก็คือเราต้องไม่ให้คนอื่นมามีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเรา คนอ่อนแอจะโน้มตามสิ่งแวดล้อมเสมอ เช่นเรากำลังนั่งทำงานอย่างมีความสุข จู่ๆเพื่อนร่วมงานก็เข้ามาอารมณ์เสียด่าทอโน่นนี่แล้วก็มาพาลกับเรา คนที่เข้มแข็งจะไม่ยอมให้อารมณ์ของผู้อื่นมามีอิทธิพลเหนือกว่าตัวเอง ฉะนั้นเขาก็จะไม่โมโหโกรธาไปกับเพื่อนร่วมงานที่มาหาเรื่อง เช่นนี้เป็นต้น)

๓. ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง
คนเข้มแข็งจะไม่พยายามหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลง ในทางตรงกันข้าม พวกเขาจะยินดีที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีและจะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดี พวกเขาเข้าใจดีว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเชื่อมั่นในตัวเองว่าจะสามารถปรับตัวได้

๔. เขาจะไม่หมดเปลืองพลังงานไปกับสิ่งที่เขาไม่สามารถควบคุมได้
คุณจะไม่ได้ยินคนที่มีจิตใจเข้มแข็งบ่นเรื่องกระเป๋าเดินทางหายหรือรถติด ในทางตรงกันข้าม พวกเขาจะสนใจแต่สิ่งที่เขาสามารถควบคุมได้ด้วยตัวเอง เพราะพวกเขารู้ว่าบางครั้งสิ่งเดียวที่เขาสามารถควบคุมได้ก็คือทัศนคติของเขาเอง

๕. เขาจะไม่มัวกังวลที่จะคอยเอาอกเอาใจทุกๆคน
คนเข้มแข็งรู้ว่าเขาไม่ต้องเอาใจคนทุกคนตลอดเวลา พวกเขาไม่กลัวที่จะตอบปฏิเสธหรือลุกขึ้นสู้เมื่อมีความจำเป็น ถึงแม้ว่าจะเป็นคนใจดีและเป็นคนยุติธรรม แต่เขาก็สามารถรับมือในเวลาที่ผู้อื่นโมโหผิดหวังหรือเสียใจในตัวเขาเพราะเขาไม่ได้พยายามทำให้พวกเขามีความสุขได้เป็นอย่างดี

๖. พวกเขาไม่กลัวสิ่งที่คาดคะเนว่าจะเป็นความเสี่ยง
ไม่ได้หมายความว่าคนเข้มแข็งจะปัญญาอ่อนเข้าไปเสี่ยงกับเรื่องโง่ๆ แต่เขาจะใช้เวลาตรึกตรองเพื่อดูว่าความเสี่ยงนั้นจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าหรือไม่ และเตรียมพร้อมที่จะต้องเผชิญกับความเสียหายเมื่อสิ่งที่คาดการณ์ไม่เป็นไปตามที่หวัง

๗. ไม่มัวแต่จมอยู่ในอดีต
คนเข้มแข็งจะไม่เสียเวลาจมอยู่กับอดีตและคิดว่าไม่น่าจะทำสิ่งเหล่านั้นในอดีตเลย พวกเขาจะเรียนรู้อดีตเพื่อที่จะใช้เป็นบทเรียน ไม่มัวแต่จมกับความหลังหรือฝันเฟื่องถึงอนาคต แต่เขาจะอยู่กับปัจจุบันและวางแผนเพื่ออนาคต

๘. ไม่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก
คนเข้มแข็งยอมรับผิดชอบต่อการกระทำของตนในอดีตและเรียนรู้ความผิดพลาดนั้นเป็นบทเรียน ผลก็คือพวกเขาจะไม่ทำผิดซ้ำซาก แต่เขาจะเดินต่อเพื่อการตัดสินใจในชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต

๙. ไม่อิจฉาความสำเร็จของผู้อื่น
คนเข้มแข็งจะยินดีในความสำเร็จของผู้อื่น พวกเขาไม่ขี้อิจฉาริษยาหรือรู้สึกน้อยหน้าเวลาที่คนอื่นได้ดีเกินหน้าเกินตา ในทางตรงกันข้ามเขาจะเรียนรู้ว่าความสำเร็จนั้นมาจากการทำงานหนักและพวกเขาก็พร้อมจะทำงานหนักเพื่อโอกาสของเขาบ้าง

๑๐. ไม่ท้อเมื่อล้มเหลวเป็นครั้งแรก
คนเข้มแข็งจะไม่ใช้ความล้มเหลวเป็นข้ออ้างในการล้มเลิก พวกเขาจะใช้ความล้มเหลวเพื่อเป็นโอกาสที่จะโตขึ้นและปรับปรุงตน เขาจะพยายามจนกว่าจะทำได้

๑๑. ไม่กลัวเวลาที่ต้องอยู่คนเดียว
คนเข้มแข็งสามารถที่จะอดทนต่อความเหงาและไม่กลัวความเงียบ พวกเขาไม่กลัวที่จะต้องอยู่ผู้เดียวกับความคิดคำนึงในทางตรงกันข้ามเขาใช้เวลานั้นให้เป็นประโยชน์ เขาจะชอบอยู่คนเดียวและไม่ต้องขึ้นกับคนอื่นให้มาคอยเป็นเพื่อนหรือคอยสร้างความสนุกสนานตลอดเวลา เพราะเขามีความสุขได้ถึงแม้จะอยู่ผู้เดียว

๑๒. ไม่เคยคิดว่าโลกนี้ต้องให้อะไรเขา
คนเข้มแข็งไม่ยึดติดกับสิ่งในชีวิต เขาไม่ได้เกิดมาด้วยความรู้สึกที่ว่าคนอื่นๆจะต้องมาคอยช่วยเหลือพวกเขาหรือโลกนี้จะต้องให้อะไรแก่เขา ในทางตรงกันข้ามเขาจะมองหาโอกาสในชีวิตที่ผ่านมาตามชะตาของตนเอง

๑๓. ไม่หวังผลให้เกิดขึ้นทันที
ไม่ว่าพวกเขาจะทำงานหรือพยายามจะทำให้สุขภาพตนดีขึ้นหรือทำธุรกิจใหม่ให้เจริญขึ้น คนเข้มแข็งจะไม่หวังว่าจะได้เห็นผลทันที แต่เขาจะใช้ความรู้ความสามารถและเวลาเพื่อทำให้ดีที่สุดและเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นต้องใช้เวลา

ได้อ่านบัญญัติ ๑๓ ประการนี้แล้ว ท่านผู้อ่านไลฟ์สไตล์พบข้อใดที่จะปรับปรุงตนเองให้เป็นคนที่มีจิตใจมั่นคงเข้มแข็งมากขึ้น ลองพิจารณาตัวเองเผื่อจะพบสิ่งที่ควรเปลี่ยนแปลงครับ