ไลฟ์สไตล์
จอมพล
กินไข่วันอีสเตอร์

วันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันอีสเตอร์หรือวันขอบคุณพระเจ้าของชาวคริสต์แล้ว ผู้เขียนเคยเขียนเรื่องของวันอีสเตอร์ก็หลายครั้ง แต่ถึงกระนั้นจะพูดถึงอีกสักหน่อยก็คงจะไม่กระไร ท่านผู้อ่านก็คงจะลืมไปแล้วเช่นกัน พอดีได้ข้อมูลที่เกี่ยวกับไข่วันอีสเตอร์ เคยสงสัยบ้างไหมว่าไข่วันอีสเตอร์นั้นเกี่ยวข้องอะไรกับพิธีทางศาสนา ผู้เขียนได้ไปค้นคว้ามาจากเวปไซด์ขององค์กรคริสตจักรสร้างสรรค์เพื่อพระเยซูคริสต์ ได้ความมาฝากดังนี้

ในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ เรามักจะเห็นตามห้างสรรพสินค้า ร้านค้าตกแต่งด้วยรูปไข่ (Easter Eggs) และกระต่าย (Easter Bunny) หรือหากได้ไปร่วมกิจกรรมในคริสตจักรต่างๆ ในวันอาทิตย์ มักจะมีกิจกรรมเกี่ยวกับไข่ เช่น การตกแต่งไข่ให้มีสีสันต่างๆ และมอบให้กัน การนำไข่ไปซ่อนตามที่ต่างๆ เพื่อให้เด็กๆ ตามหาซึ่งอาจเป็นทั้งไข่จริงหรือไข่ที่ทำด้วยช็อคโกแลต การส่งการ์ดอวยพรที่มีรูปไข่กับกระต่าย เป็นต้น

ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่า ไข่กับกระต่าย เกี่ยวอะไรกับอีสเตอร์ พระคัมภีร์ไม่ได้กล่าวถึงสัญลักษณ์ของไข่และกระต่าย ว่ามีความสำคัญต่อการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์แต่อย่างใด

แต่การนำ ไข่ และ กระต่าย เข้ามาในเทศกาลอีสเตอร์นั้น มาจากประเพณีการเฉลิมฉลองทางศาสนา ที่พัฒนามาจากนิทานพื้นบ้านของผู้คนเชื้อสายอินโด-ยูโรเปี้ยน ที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของดินแดนเมโสโปเตเมียในอดีต

คนกลุ่มนี้ มองว่า “ไข่” เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฤดูใบไม้ผลิ ที่นำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์

ต่อมาคริสเตียนใช้ไข่ เป็นสัญลักษณ์ของอุโมงค์หินที่พระศพของพระเยซูคริสต์ถูกนำไปไว้หลังถูกตรึง บนกางเขน และหลังจากนั้น อีก 3 วันพระองค์ทรงฟื้นคืนพระชนม์ เสด็จออกมาจากอุโมงค์

นักวิชาการบางคนตั้งข้อสังเกตว่า “หากสังเกตการฉลองอีสเตอร์ในคริสตจักร จะเห็นว่ามีการนำเอาขนบประเพณีพื้นบ้าน ซึ่งมีกำเนิดมาจากพิธีกรรมการฉลองในสมัยโบราณมาใช้ เช่น เช่นการนำเอาไข่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพิธีกรรม การฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของผู้คนในแถบยุโรปและตะวันออกกลางที่ไม่เชื่อพระเจ้ามาใช้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตใหม่และการเป็นขึ้นมาจากความตาย”

นอกจากนั้น เรายังพบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวอียิปต์โบราณ มักจะใช้ไข่จำนวนมากห้อยทั่วบริเวณวิหารของชาวอียิปต์ ตะเกียงบุเสนที่จุดไว้ในวิหาร จะทำให้ไข่ธรรมดากลายเป็นสัญลักษณ์ของการกำเนิดชีวิต โดยเชื่อว่าไข่เหล่านี้มาจากปากของเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่แห่งอียิปต์ ไข่ลึกลับแห่งบาลิโลนที่หล่นมาจากสวรรค์สู่แม่น้ำยูเฟรติสถูกฟักออกมาเป็นเทพเจ้า วีนัส อีสตาร์ มีการตกแต่งไข่ให้มีสีสัน เพื่อใช้ถวายเครื่องบูชาแด่เทพเจ้าอีสตาร์ (ซึ่งเป็นวิธีการออกเสียง คำว่า “อีสเตอร์” ในภาษาเซมิติก) ในประเทศอียิปต์ ส่วนในประเทศจีนและประเทศในแถบยุโรป มีการค้นพบพิธีกรรมการแต่งแต้มไข่ด้วยสีสันต่างๆ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเชื่อว่าเป็นฤดูแห่งการกำเนิดชีวิตของสิ่งที่มีอยู่ในโลกและในสวรรค์

ดังนั้น การที่คริสเตียนนำเอาไข่เข้ามาเป็นสัญลักษณ์ในการฉลองเทศกาลอีสเตอร์ จึงมาจากการประยุกต์ประเพณีของคนที่ไม่ได้เป็นคริสเตียนมาใช้โดยสอดแทรกความ หมายของการดำเนินชีวิตใหม่ที่หลุดพ้นจากความบาป มีชัยชนะร่วมกับพระเยซูคริสต์ที่ทรงฟื้นคืนพระชนม์และเสด็จออกจากอุโมงค์หิน นั่นเอง

ไหนๆ ก็คุยกันมาถึงเรื่องของไข่แล้ว รู้หรือไม่ว่าเรามีความเชื่อเรื่องไข่ผิดๆมาเป็นเวลานาน ได้ไปอ่านเรื่องของไข่ในเฟสบุ๊คเขียนโดยคุณพรพรรณ เปี่ยมปัญญาชน เห็นว่ามีประโยชน์ดี เลยนำมาแถมต่อท้ายเรื่องของไข่อีสเตอร์เสียเลยดังนี้

โดนฝรั่งหลอกว่าไข่ไก่กินไม่ดี ไขมันสูง ลองมาอ่านของจริงบ้างเป็นอย่างไร เราโง่มานานแล้ว

คลอเรสเตอร์รอลมันเกิดจากการกินอาหารเพียง 20 %แต่มันสร้างโดยตับเราเองถึง 80% แล้วการสร้างอนุมูลอิสระตัว HDL ซึ่งเป็นตัวมีประโยชน์ต่อร่างกายได้ดีที่สุดคือ การกินไข่ จะได้เพิ่มถึง 48% เชียวนะ

ภาวะสมองเสื่อม..กับไข่ไก่ มีประโยชน์มากหากใครได้ดูรายการ 'ข้อเท็จจริง..วันนี้' ทางช่องยูบีซี 7 ที่มีการการพูดคุยกับ ศ.นพ.รุ่งธรรม ลัดพลี เกี่ยวกับ เรื่อง 'ภาวะสมองเสื่อม..กับไข่ไก่ ' เรื่องที่มีการการสนทนากันนั้น พอจับใจความหลักๆ ได้ว่า ... จากค่านิยมเดิมๆที่ทราบกันว่า การบริโภคไข่ทุกวัน นั้น จะไปเพิ่มระดับคลอเลสเตอรอลในเลือด

คุณหมอบอกว่า อยากให้เลิกค่านิยมดังกล่าวเสียเพราะข้อเท็จจริงในปัจจุบันนั้น ไข่นับว่าเป็นอาหารราคาถูก ปรุงง่าย แต่ มากด้วยคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุดการที่หลายๆคนมีระดับคลอเสลเตอรอลในเลือดสูงนั้น เป็นเพราะตับทำงานไม่มีประสิทธิภาพเอง คุณหมอยังกล่าวอีกว่า สำหรับคนที่มีระดับคลอเลสเตอรอลสูงในระดับ 200 นั้น หากทานไข่แล้ว มันไปเพิ่มอีกเพียง 20 แต่ตรงกันข้ามประโยชน์ที่ได้จากการทานไข่ มันมากกว่าไอ้ส่วนที่ไป เพิ่มระดับคลอเลสเตอรอลในเลือด เป็นเพราะอาการเลือดในสมองน้อยหรือเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ การ รับประทานไข่ ทุกวันๆละอย่างน้อย 2 ฟอง จะช่วยได้มาก

คุณหมอยังอ้างถึงและพูดถึงผู้สูงอายุว่าการบริโภคไข่ทุกวันนั้น ไม่มีปัญหาดังที่เราๆเข้าใจกันแบบผิดๆ คุณหมอรักษาผู้สูงอายุหลายๆคนที่มาให้การรักษาในหลายๆโรค ขนาดอายุ 80 กว่า คุณหมอยังแนะนำให้ทานไข่วันละ 2 ฟอง

ผลก็คืออาการของโรคที่รักษาบรรเทาลง คนไข้มีอาการดีขึ้นกว่าเดิมมาก จากที่เดินไม่ค่อยได้ก็กลับมาเดินได้.......นี่เป็นตัวอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ไข่มีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่,ไข่เป็ด,ไข่นกกระทา, และอีกหลายๆชนิด แต่ไข่ไก่ดีที่สุดในกลุ่ม ส่วนการนำมาประกอบอาหารนั้นแล้วแต่ใจชอบ ประกอบอาหารแบบไหนได้ทั้งนั้น คุณหมอเสริมว่า ส่วนของไข่ที่ดีที่สุดนั้น อยู่ที่จุดๆหนึ่งในไข่แดงที่มีลักษณะคล้ายๆเส้นใยยึดส่วนอื่นๆไว้ (หากไม่เคยสังเกต ก็ลองเตาะไข่ดิบดู) พร้อมกันนี้ ได้มีการยกแผนภูมินำมาประกอบว่าประเทศไทยมีการบริโภคไข่ต่อคนมากน้อยเพียงใด ปรากฎว่า ต่ำกว่าหลายๆประเทศที่เจริญแล้ว โดยประเทศที่บริโภคไข่ต่อคนสูงสุดก็คือญี่ปุ่น รองๆลงมาก็มีจีนแดง, สหรัฐอเมริกา, ฯลฯ คุณหมอยังให้ข้อคิดว่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ประชาชนส่วนใหญ่มีสติปัญญาที่ดี ทำไมอาหารมื้อเช้าทุกวัน ยังมีไข่เป็นส่วนประกอบเสมอ และทานกันทุกวัน แต่เรากลับยึดถือแต่ค่านิยมเรื่องคลอเลสเตอรอล.... การบริโภคไข่จะช่วยบำรุงสมองเป็นอย่างดี

อย่าไปสนใจพวกอาหารเสริมที่โฆษณากันเลย ไข่นี่แหละสุดยอดของอาหารแล้ว หากอยากฉลาด ต้องทานไข่เป็นประจำ

ได้สาระเรื่องของไข่วันอีสเตอร์และก็มาทานไข่กันอย่าไปทานไข่ที่ข้างในเป็นช็อคโกแลตก็แล้วกัน