ไลฟ์สไตล์
จอมพล
รถยนต์พลังน้ำ

ความฝันเรื่องของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังน้ำนั้นเราได้ยินข่าวมานานมากแล้ว เรียกได้ว่าเกือบจะ ๕๐ ปีแล้วที่เราได้ยินเรื่องของความเป็นไปได้ที่จะใช้รถยนต์พลังน้ำ โดยเริ่มแรกนั้นก็ได้ยินว่ามีข่าวลือว่ามีนักวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จจากการสร้างโมเดลรถพลังน้ำ แต่ถูกล็อบบี้จากประเทศกลุ่มโอเปคไม่ให้ผลิตขึ้นใช้ในโลก เนื่องจากจะมีผลกระทบอย่างยิ่งต่อประเทศผู้ค้าน้ำมัน ถึงขนาดที่ว่ามีการอุ้มฆ่าทำลายงานวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ที่คิดค้นสำเร็จ

ความนี้จะเป็นจริงหรือเท็จเช่นใดผู้เขียนก็ไม่อาจทราบได้ มาเมื่อเกือบสิบปีที่ผ่านมานี้ได้ยินชื่อของคนไทยผู้หนึ่ง คือดร.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา ความว่าท่านสามารถสร้างต้นแบบรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังน้ำได้ดังข่าวที่ผู้เขียนยกมาดังนี้

“เมื่อราวเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ.2551 (ค.ศ.2008) อาจารย์สุมิตร หรือ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา กลายเป็นที่รู้จักของคนไทย จากการเป็นผู้คิดค้นรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนในประเทศไทยเป็นคนแรก โดยพัฒนาอุปกรณ์แยกไฮโดรเจนจากน้ำ ทำให้รถยนต์สามารถใช้พลังงานน้ำแทนน้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนได้ สำเร็จ หรือเรียกง่ายๆ ว่า รถใช้น้ำที่ใครหลายคนฝันไว้ ได้เกิดขึ้นได้จริงจากนักวิจัยท่านนี้

แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่านอกจากการเป็นนักวิจัยของไทยที่นับว่ามีความรู้ความ สามารถท่านหนึ่งแล้ว อาจารย์สุมิตรยังทำงานอยู่ในองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือองค์การนาซ่า ในสายงานที่อาจเรียกว่าพิเศษก็ไม่ผิดนัก กล่าวคือ ต้องทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก สร้างยานอวกาศ เพื่ออพยพผู้คนจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือ ปี ค.ศ.2012 (พ.ศ.2555) ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้กันในวงจำกัดเท่านั้น

อาจารย์สุมิตร บอกเล่าผ่านรายการ The Taxi ทางช่องเอ็นบีที เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติของโลก ว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า โลกจะเกิดหายนะขึ้นจากเหตุอุทกภัย น้ำจะท่วมโลกอย่างแน่นอน ซึ่งคนในองค์การนาซ่าทุกคนต่างทราบเรื่องนี้มานานแล้ว จึงได้พยายามสร้างยานอวกาศเพื่ออพยพผู้คนหนีภัยน้ำท่วมโลก โดยอาจารย์สุมิตร เผยว่า ยานอวกาศดังกล่าวใกล้เสร็จแล้ว แต่ไม่ได้ระบุว่าสร้างไว้ทั้งหมดกี่ลำ

พร้อมกันนี้ อาจารย์สุมิตร ยังระบุด้วยว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริง และปัจจุบันมีมนุษย์ต่างดาวมาทำงานร่วมกับองค์การนาซ่า โดยใช้วิธีสื่อสารทางโทรจิตในการถ่ายทอดความรู้ทางเทคโนโลยี เพื่อช่วยมนุษย์จากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 (พ.ศ.2555) อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ ทางสหรัฐอเมริกา ค่อนข้างปกปิด ทำให้คนส่วนมากในโลกไม่รู้ เนื่องจากอาจมองว่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวเป็นเรื่องเหลวไหล

"โลกมนุษย์เรา ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ในจักรวาลอื่นๆ ก็มีมนุษย์ต่างดาวประมาณ 200 จักรวาล ซึ่งโลกของเราเป็นเพียงจักรวาลเล็กๆ 1 จักรวาล เท่านั้น เราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวหรอกนะ"

เมื่อรู้เช่นนี้ อาจารย์สุมิตร จึงเสนอต่อกระทรวงวิทยาศาสตร์ของไทย เพื่อให้เร่งสร้างยานอวกาศเตรียมไว้สำหรับอพยพคนไทยจากอุทกภัยน้ำท่วมโลก ค.ศ.2012 แต่กลับไม่มีใครเชื่อ เนื่องจากอาจเห็นว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่มีน้ำหนักมากพอในเชิงหลักฐาน

"อีก 3 ปี ข้างหน้านี้ โลกกำลังจะเกิดหายนะจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 แน่นอน นี่เป็นเรื่องจริง ที่ฝรั่งเค้าตื่นตัวกันมาก โดยเฉพาะในหมู่นักวิทยาศาสตร์อวกาศ แต่คนไทยเกือบทั้งหมด ยังไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ มันเป็นวันหายนะที่ร้ายแรง ไม่งั้นมนุษย์ต่างดาวคงไม่มาทำงานร่วมกับองค์การนาซ่า เพื่อช่วยในการสร้างยานอพยพผู้คนในครั้งนี้เป็นแน่"

ที่ผนวกเรื่องของมนุษย์ต่างดาวเข้ามาด้วยก็เพราะหลังจากที่ได้อ่านเรื่องนี้แล้วก็มีผู้ให้ความคิดเห็นมากมายผ่านทางเวปพันธุ์ทิพย์ดอทคอม ซึ่งแน่นอนว่าการที่น้ำท่วมโลกในปี ๒๐๑๒ นั้นไม่เป็นความจริง และผู้เขียนยังพบผู้ที่แสดงความเห็นเอาไว้ ในเชิงที่ว่าดร.ท่านนี้เป็นคนลวงโลกเสียอีกดังนี้

“ผมสรุปสั้นๆ เกี่ยวกับ อ.สุมิตร คนนี้นะ

- เค้าเปิดตัวในไทยว่าเป็นวิศวกรนาซ่าอัจฉริยะ สร้างโน้นสร้างนี้ ... แต่งานจริงที่เค้าทำที่นาซ่า คือ ช่างดูแลเครื่องบินไอพ่นฝึกหัดสำหรับนักบินอวกาศ

- เค้าโปรโมตว่าสร้างรถพลังน้ำได้คนแรก แต่จริงๆ คือเครื่องยนต์ที่เอาน้ำมาแตกไอออนเป็นไฮโดรเจน แล้วฉีดเข้าไป ซึ่งมี (หลอก) ขายกันมานานแล้วในเมืองนอก รถที่เค้าเอามาโชว์นั้นก็ต้องเติมน้ำมัน ไม่ใช่ใช้แต่น้ำอย่างเดียว

- พอเค้าเริ่มดัง ก็ฉีกไปพูดเรื่องโลกแตกปี 2012 ได้ออกช่อง 3 สรยุทธ คนตื่นเต้นกัน ... แต่วันนี้คงรู้แล้วว่าหลอกลวง”

จากผู้เขียนนามว่า JD300

อีกท่านหนึ่งใช้นามว่า LN106 ได้ให้ความเห็นต่อไปดังนี้

“เมื่อซัก 2-3 ปีก่อน มีคนชื่อ ดร.สุมิตร ไปบวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.ชัยปราการ ซึ่งวัดนี้ท่านเจ้าอาวาส จบ ดร.มาจากต่างประเทศ แต่ก็เลื่อมใสในศาสนาท่านก็เลยมาบวช และช่วยเหลือชาวบ้านอยู่ที่นั่น ก็เลยมีญาติโยมเข้ามาปฏิบัติธรรมเยอะมาก คนกรุงเทพก็ยังมาเลย

พระบวชใหม่ตอนแรกก็ปฏิบัติดีอยู่หรอก แต่ซัก 3-4 เดือน ก็เริ่มบอกญาติโยมที่ไปปฏิบัติธรรมที่นั่นว่า ในวันที่ 5 เดือน พฤษภาคม 2555 จะมีลมพายุความเร็วลม 450 กม. พัดมาทำลายแผ่นดิน แต่มีเขตปลอดภัยอยู่รอบมหาเจดีย์ของวัดนี้ รัศมีกี่ร้อยเมตรผมก็ลืมไปแล้ว ที่จะไม่มีอันตราย

และพระบวชใหม่ก็ยังบอกต่อไปว่า จะสร้างที่หลบภัย เป็นตู้คอนเทนเนอร์ ตู้นึงอยู่ได้ 8 คน ค่าใช้จ่ายที่ละกี่หมื่นผมก็ลืมไปแล้ว ซึ่งก็มีญาติโยมร่วมลงขันกันรวมเป็นหลักล้านอาจจะเป็นสิบล้านก็อาจจะได้ เพราะมีการจองเผื่อญาติพี่น้องอีกด้วย และการก่อสร้างที่หลบภัยก็เริ่มขึ้น แต่ทำได้ไม่นาน พระบวชใหม่ก็บอกว่านาซ่าเชิญตัวไป เดี๋ยวจะกลับมาใหม่ จากนั้น ท่านก็ไม่เคยกลับมาพร้อมกับปล่อยให้ผู้รับเหมาทวงหาค่าแรงจากท่านเจ้าอาวาส ซึ่งท่านก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้

และอีกอย่างนึงก็คือ มีคนเห็นรถเก๋งติดป้ายรถพลังน้ำของ ดร.สุมิตร ไปเติมแก๊สในปั๊มแถวนั้นด้วย”

สรุปแล้วถ้าฟังหูไว้หู เรื่องรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังน้ำที่คิดค้นโดยคนไทย กลับกลายเป็นโอละพ่อเป็นเรื่องหลอกลวงไปเสียฉิบ

อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆนี้ผู้เขียนก็ได้พบข่าวล่าสุดว่ารถพลังน้ำนั้นเป็นเรื่องจริงและผลิตออกมาแล้ว และเปิดให้เราจองได้แล้วด้วยดังข่าวที่ยกมาต่อไปนี้

“อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อดาวโลกผ่านพ้นยุคมืด ที่ต้องพึ่งพาสารให้พลังงานสีดำที่ชื่อว่าไฮโดรคาร์บอน ไปสู่ยุคสารให้พลังงานสีขาว หรือ “ไฮโดรเจนบริสุทธิ์” ได้เริ่มขึ้นแล้ว

พลังงานไฮโดรเจน แรงขับเคลื่อนใหม่ที่ใช้แทนน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ

การค้นพบวิธีที่จะทำให้เติมไฮโดรเจนเหลวเข้า ไปในถังน้ำมันได้โดยตรง โครงการวิจัยใช้เวลาถึง 4 ปีในห้องปฏิบัติการมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เรียกว่า “น้ำมันไฮโดรเจน” อยู่ในรูปของเกลือ “ไฮไดรด์” กับโมเลกุลเชิงซ้อนจำเพาะที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นแคปซูลกักไฮโดรเจนไว้นำไป ใช้สันดาปได้ทันทีในเครื่องยนต์ ทั้งยังช่วยปกป้องไฮโดรเจนจากอากาศขณะยังไม่ผ่านเข้าเครื่องยนต์ ส่งผลให้ไม่มีคุณสมบัติติดไฟ โดยใช้กรรมวิธีผลิตพิเศษ เรียกว่า “อิเล็กโตรสปินนิ่งแบบร่วมแกน” ซึ่งบังคับให้โมเลกุลเกลือไฮไดรด์ถูกผลักให้เข้าไปอยู่ตามรูของแคปซูลโพลิเมอร์จำเพาะเกิดเป็นโมเลกุลเชิงซ้อน มีสถานะเป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้อง (25 องศาเซลเซียส) ราคาราว 1.5 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หรือราว 10 บาทต่อลิตร