สู้กลลวง-วิธีป้องกันภัยคุกคาม "มิจฉาชีพ" ปี 2568
เชื่อว่าการหลอกลงทุนที่สร้างความเสียหายอย่างมากเป็นวงกว้าง จะเป็นกลลวงที่มิจฉาชีพจะนำมาใช้ในปี 2568 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยังได้ให้เหตุผลที่การหลอกลงทุน จะเป็นกลลวงที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ได้แก่
1. ผลตอบแทนสูงเป็นแรงจูงใจ : มิจฉาชีพมักเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง เพื่อดึงดูดความสนใจของเหยื่อ ทำให้หลายคนหลงเชื่อและตัดสินใจลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ
2. การใช้บุคคลที่มีชื่อเสียง : การนำดาราหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซนเตอร์หรือผู้สนับสนุน ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับโครงการลงทุน ทำให้เหยื่อรู้สึกมั่นใจและตัดสินใจลงทุนง่ายขึ้น
3. การสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ : มิจฉาชีพมักสร้างภาพลักษณ์ของบริษัทหรือโครงการให้ดูน่าเชื่อถือ เช่น การจัดสัมมนา การแสดงความหรูหรา หรือการอ้างถึงรางวัลที่ได้รับ เพื่อสร้างความไว้วางใจในหมู่เหยื่อ
ส่วนกลุ่มที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพในปี 2568 นั้น เชื่อว่าจะยังคงมีหลากหลายช่วงวัยและหลายอาชีพ โดยจากสถิติปี 2567 ที่ผ่านมาพบว่า ช่วงอายุที่ถูกหลอกมากที่สุดแบ่งเป็น 4 ช่วงอายุ คือ ช่วงอายุ 20 - 49 ปี , ช่วงอายุ 50 - 64 ปี , ช่วงอายุต่ำกว่า 20 ปี และอายุ 65 ปีขึ้นไปตามลำดับ
ช่วงอายุที่ถูกมิจฉาชีพหลอกมากที่สุดคือ ช่วงอายุ 20 - 49 ปี ซึ่งถือเป็นช่วงที่มีมูลค่าความเสียหายมากที่สุดอีกด้วย โดยมีมูลค่าความเสียหายถึง 8,223 ล้านบาท ช่วงอายุที่ถูกหลอกมากที่สุดในปี 2567
1. ช่วงอายุ 20 - 49 ปี จำนวนการแจ้งเรื่อง 145,302 เคส มูลค่าความเสียหาย 8,223 ล้านบาท
2. ช่วงอายุ 50 - 64 ปี จำนวนการแจ้งเรื่อง 33,875 เคส มูลค่าความเสียหาย 5,330 ล้านบาท
3. ช่วงอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวนการแจ้งเรื่อง 9,800 เคส มูลค่าความเสียหาย 193 ล้านบาท
4. อายุ 65 ปีขึ้นไป จำนวนการแจ้งเรื่อง 8,026 เคส มูลค่าความเสียหาย 2,439 ล้านบาท
ผลการสำรวจยังพบว่า “เพศหญิง” ถูกหลอกมากกว่าเพศชายในทุกช่วงอายุอีกด้วย
เราสามารถป้องกันตัวเองได้ดังนี้
การป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพไม่ใช่แค่เรื่องของการระวังตัว แต่ยังเกี่ยวกับการเรียนรู้วิธีการต่าง ๆ ที่มิจฉาชีพใช้ในการหลอกลวง รวมถึงการหาความรู้ในการระวังภัย , การใช้สติ , การตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ
จำไว้เสมอว่าหากอะไรที่ดูดีเกินไป อาจจะเป็นกลลวงของมิจฉาชีพ