

แฉ 6 กลโกงมิจฉาชีพ ใช้หลอกผู้สูงวัย ต้องรู้ทันก่อนหมด
ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ SCB เผยว่ามิจฉาชีพยุคใหม่ไม่ใช้กำลังข่มขู่ แต่ใช้หลัก "จิตวิทยา" และการเล่นกับความรู้สึกเป็นวิธีหลอกลวงผู้สูงวัย ได้แก่
1. หลอกให้ลงทุน ได้ผลตอบแทนสูง มุกนี้ใช้ความหวังและความอยากมีเงินได้เป็นแรงจูงใจ โดยมักแอบอ้างบุคคลสำคัญ บริษัทดัง หรือสร้างแพลตฟอร์มปลอมขึ้นมา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ หลอกให้ผู้สูงอายุนำเงินมาลงทุนในสิ่งที่ดูดีมีอนาคต เช่น เหรียญดิจิทัล กองทุนหรือหุ้นปลอม พร้อมคำโฆษณาที่ว่า เป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูงในเวลาไม่นาน และเป็นประเภทที่สร้างความเสียหายสูงสุดต่อราย
2. หลอกให้กลัว แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐอย่างตำรวจ หรือ DSI บอกว่าเหยื่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีร้ายแรง และต้องโอนเงินเพื่อตรวจสอบหรือยืนยันความบริสุทธิ์ ด้วยความตกใจและเกรงกลัวกฎหมาย คนสูงวัยส่วนใหญ่มักหลงเชื่อและทำตาม
3. หลอกให้รัก (Romance Scam) มิจฉาชีพสร้างโปรไฟล์ที่ดูดีและน่าเชื่อถือ เข้ามาพูดคุยตีสนิทและสร้างความสัมพันธ์ที่ดูอบอุ่น จนเหยื่อหลงรักและไว้ใจ จากนั้นจึงเริ่มสร้างเรื่องราวที่น่าสงสารเพื่อขอความช่วยเหลือทางการเงิน
4. หลอกลวงเรื่องครอบครัวและคนใกล้ชิด ใช้ความรักและความห่วงใยในครอบครัวเป็นเครื่องมือ โทรศัพท์มาอ้างว่าเป็นลูกหลานกำลังประสบอุบัติเหตุ หรือมีเหตุฉุกเฉิน และต้องการเงินด่วนเพื่อใช้รักษาพยาบาล
5. การหลอกขายสินค้า หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ หลอกขายยาหรืออาหารเสริมที่อ้างว่าสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ ด้วยคำโฆษณาเกินจริง ซึ่งผู้สูงอายุที่ห่วงใยสุขภาพเป็นพิเศษมักจะตกเป็นเหยื่อได้ง่าย
6. หลอกให้รับสวัสดิการ หรือได้รับเงินคืน มิจฉาชีพจะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เช่น การไฟฟ้า, กรมที่ดิน, หน่วยงานบำนาญ ฯลฯ แจ้งว่าผู้สูงอายุมีสิทธิ์ได้รับเงินคืน มีค้างค่าบริการ หรือมีปัญหาที่ต้องแก้ไขด่วน แล้วหลอกให้กดลิงก์ปลอม หรือหลอกขอข้อมูลส่วนตัวเพื่อยืนยันการรับเงิน โดยใช้ความดีใจ ความหวัง และความเข้าใจผิดเกี่ยวกับขั้นตอนราชการมาเป็นจุดอ่อน
…วิธีป้องกันผู้สูงวัยจากมิจฉาชีพ…
สำหรับลูกหลานที่มีผู้สูงวัยอยู่ในครอบครัวหรือเป็นคนใกล้ชิด ควรหาวิธีป้องกันให้ห่างไกลจากมิจฉาชีพ โดยใช้วิธีดังต่อไปนี้ 1. ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวเด็ดขาด 2. มีสติ ตรวจสอบข้อมูล และปรึกษาครอบครัว 3. ปรึกษาลูกหลานก่อนทุกครั้ง 4. ระวังการกดลิงก์และการติดตั้งแอปพลิเคชัน 5. สร้างความรู้ความเข้าใจอย่างสม่ำเสมอ
ที่สำคัญคือ หากมีการโอนเงินไปแล้วและทราบภายหลังว่าเป็นมิจฉาชีพ ให้ รีบติดต่อธนาคาร เพื่ออายัดบัญชีให้เร็วที่สุด และแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที