เห็นมา เขียนไป

ทิวสน
เห็นมา เขียนไป 26 ตุลาคม 2567

สมาธิเป็นวิทยาศาสตร์ ใช้รักษาโรคได้อย่างมีนัยสำคัญ โดย รพ.ศิริราช

สมาธิเป็นวิทยาศาสตร์100% ซึ่งบางครั้งเรียกว่า"อ็อกซิเจน- บำบัด" รพ.ศิริราชจึงแนะนำวิธี ทำสมาธิที่มีคุณค่าต่อร่างกายและใช้รักษาโรคต่างๆได้ทั้งในระยะเวลาอันสั้น และระยะยาว สมาธิทำให้ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปมาก ยิ่งถ้าได้กินอาหารที่สะอาดและมีประโยชน์ด้วย แทบไม่ต้องไปหาหมอเลย

วิธีทำสมาธิตามที่แพทย์แนะนำ

1.หายใจเข้าช้าๆให้ลึกและยาวนานโดยนับ 1 ถึง 4 (หรือเท่าที่สามารถทนได้เพื่อให้เลือดและอ็อกซิเจนไปเลี้ยงสมอง) วิธีทำอาจนั่ง หรือนอนก็ได้ แต่นอนทำดีที่สุด

2.กลั้นลมหายใจไว้เลี้ยงสมองโดยนับ 1 ถึง 4 เพื่อให้เลือดและอ็อกซิเจนทำปฏิกริยากัน

3. จากนั้น ปล่อยลมหายใจออกทางปากช้าๆยาวๆจนสุด ทำเช่นนี้ต่อเนื่องกัน 20 ครั้ง

4. จากนั้นผ่อนคลายจิตใจให้สงบนิ่ง หยุดคิดเรื่องราวในอดีต อนาคต สักครู่จะเกิดอาการปีติตามมา

5.อาการปีติคือ รู้สึกตัวเบา น้ำตาไหล น้ำมูกไหล ขนลุกเห็นแสงสว่าง และสบายใจ

6.ระหว่างที่มีอาการเหล่านี้แสดงว่า ร่างกายของเรากำลังผลิตสเต็มเซลล์(Stem Cell) เพื่อซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกายซึ่งโดยธรรมชาติจะได้เซลล์นี้จากการหลับลึกเท่านั้น

7.การหยุดคิด1 นาทีจะได้ผลเท่ากับการหลับลึกถึง 1 ชั่วโมง(หากปฎิบัติบ่อยและนานๆกว่าที่บรรยายมาแล้ว ร่างกายจะได้รับการซ่อมแซมมากขึ้น)

8. ให้ทำสมาธิเช่นนี้ทุกครั้งที่นึกได้ โดยเอาเวลาเล่นไลน์ เล่นเฟซบุ๊ก หรืออินสตรา -แกรมมาฝึกหายใจแบบนี้โดยให้ทำอย่างน้อยวันละ 10 ครั้ง

ผลที่ได้รับคือ อารมณ์ของท่านจะดีขึ้น ความจำแม่นยำกว่าเดิม ความดันโลหิตสูงจะต่ำลงมาอย่างเห็นได้ชัดเจน โรคอัลไซเมอร์จะถอยห่าง สุขภาพกายและจิต รวมทั้งมีความคิดในเชิงบวกจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งโรคมะเร็ง และโรค NCDs จะ ค่อยๆทุเลาลงจนหายไปในที่สุด

ลองฝึกทำดู ท่านจะเห็นผลทันที (ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากผู้ใช้ชื่อในกลุ่มไลน์ว่า “Ging Intira”