เห็นมา เขียนไป

ทิวสน
เห็นมา เขียนไป 26 เมษายน 2568

ไม่มีใครใหญ่กว่า กล้องหน้ารถ-วงจรปิด

เหตุการณ์ใหญ่ของสังคมไทยในเวลานี้ ไม่พ้นกรณีหนุ่มรถบีเอ็มดับบลิวกับรถกระบะของลุงป้า เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน บนท้องถนนเต็มไปด้วยคนใจเร็วใจร้อน มีโอกาสจะเกิดเรื่องวิวาทกันได้ง่ายๆ แต่เหตุการณ์นี้ ควรเป็นบทเรียนให้กับทุกๆ คน ว่าหากควบคุมอารมณ์ไม่ได้ จะนำมาสู่เรื่องราวร้ายแรงต่อชีวิตตัวเอง!?!

เรื่องไม่เป็นเรื่อง กลายเป็นเรื่องลุกลามบานปลาย เพียงแค่ในนาทีนั้น รถคันหนึ่งลดความเร็วลง เหยียบเบรก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุตั้งแต่นาทีแรก ก็จะไม่มีนาทีร้ายแรงตามมา เพราะการใช้อารมณ์ ไม่ผ่อนคันเร่งให้รถคันไหน นั่นแหละคือต้นตอของปัญหาชีวิตที่หนักเหนื่อยในเวลานี้

เหนืออื่นใด อย่าลืมว่า ยุคนี้บนท้องถนน เต็มไปด้วยกล้องหน้ารถของคันอื่นๆ ที่แล่นอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ

จนถึงกล้องวงจรปิดที่อยู่ทุกจุดบนท้องถนน คือ เครื่องบันทึกหลักฐานข้อเท็จจริง ที่ใครก็ปฏิเสธแบบปากแข็งไม่ได้!!

ขณะเดียวกัน ที่เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นกระแสใหญ่ในสังคม เพราะว่ามีประเด็นคนรวยกับคนจน คนมีสถานะบารมีกับชาวบ้านตัวเล็กๆ

แต่สุดท้ายแล้ว คำกล่าวที่ว่า ไม่มีใครอยู่หนือกฎหมาย ก็ถูกต้องส่วนหนึ่ง

อีกส่วนหนึ่งคือพยานหลักฐานที่มาจากกล้องบันทึกภาพ ซึ่งอยู่หน้ารถคันอื่นๆ และกล้องวงจรปิดบนทุกท้องถนน

ใครจะมีอิทธิพลบารมีหรือไม่ก็ตาม ลงเอยไม่มีใครเหนือกว่ากล้องวงจรปิดและกล้องหน้ารถของคันอื่น!!

พยานหลักฐานจากกล้อง 2 อย่างนี้ เมื่อกลายเป็นคลิปในโซเชี่ยล

จะเกิดกระแสร้อน ลุกลามอย่างรวดเร็ว คราวนี้ยากจะคลี่คลายสถานการณ์ได้ง่ายๆ ยากจะปกปิดบิดเบือนได้! แม้ว่าพื้นฐานจะมากด้วยบารมีและความกว้างขวางขนาดไหน รู้จักสนิทสนมนักการเมืองใหญ่ นายตำรวจใหญ่ สถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เป็นเรื่องยากที่ใครจะเข้ามาช่วยได้

แล้วเรื่องไม่เป็นเรื่องใช้อารมณ์หัวร้อนไร้สาระเช่นนี้ คงไม่มีใครอยากจะเข้ามาช่วยให้เปลืองตัว

เพราะฉะนั้นตัดประเด็นอิทธิพลการเมืองเข้ามาแทรกแซงคดีไปได้เลย!?

คลิปจากกล้องหน้ารถ จากกล้องวงจรปิดบนถนน เปิดให้เห็นทุกมุม ประจานพฤติกรรมขนาดนี้

การเมืองที่ไหนจะเข้ามาอุ้มมาช่วยเป็นไปไม่ได้

ยุคนี้ไม่มีใครใหญ่ไปกว่ากล้องหน้ารถและกล้องวงจรปิดที่อยู่ทั่วทุกถนนทุกมุมเมือง!!!!!!!

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก… วงค์ ตาวัน