เห็นมา เขียนไป

ทิวสน
เห็นมา เขียนไป วันที่ 1 เมษายน 2566

สงกรานต์มีแต่ฝุ่นพิษ ธุรกิจท่องเที่ยวชะงักอีก

สถานการณ์การท่องเที่ยวในภาคเหนือ โดยเฉพาะสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง อยู่ในภาวะน่าเป็นห่วงมาก หลังจากโควิดคลี่คลายไปแล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับเข้ามา รวมทั้งคนไทยออกท่องเที่ยวในประเทศกันคึกคักขึ้น

แต่มาปีนี้ กลับมาเจอวิกฤตฝุ่นพิษ สภาพอากาศเลวร้ายอย่างหนัก ขมุกขมัวอย่างน่ากลัวสุดๆ

กระทบต่อการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์นี้แน่นอน

โควิดเพิ่งผ่านไป ต้องมาโดนฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เข้ามาแทน

ดังนั้นแทนที่สงกรานต์นี้ ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ซึ่งเคยฮอตฮิตมาตลอด จะได้ฟื้นฟูธุรกิจในวงจรการท่องเที่ยว เงินทองจะกลับมาสะพัด เป็นเรื่องน่าเศร้าใจสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ปีนี้คงหงอยเหงาซบเซา!

เอาเข้าจริงๆ ชีวิตประชาชนในหลายจังหวัดภาคเหนือ เสี่ยงอันตรายจากสภาพอากาศเลวร้ายมาหลายเดือนแล้ว

ภาพข่าวจากสื่อต่างๆ เห็นบรรยากาศอันน่าหวาดกลัวอย่างชัดแจ้ง

แต่ก็แปลก การแก้ปัญหาจากรัฐบาล ดูไม่มีความคึกคักจริงจัง

ส่วนหนึ่งเพราะ 2-3 เดือนมานี้ เป็นช่วงเตรียมการเลือกตั้งใหม่

เปรียบกันว่าช่วงนี้ เราไม่มีรัฐบาลทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชน มีแต่รัฐบาลทำกิจกรรมเพื่อหาเสียงอย่างเดียว!?!

ถือเป็นความโชคร้ายของประชาชนคนไทยจริงๆ

พี่น้องประชาชนภาคเหนือ ต้องทนทุกข์จากฝุ่นละอองอันตรายมายาวนาน

ขนาดโรงพยาบาลต่างๆ ยังเจอปัญหา ต้องระดมเครื่องฟอกอากาศเข้ามาช่วย ในพื้นที่ห่างไกลไฟฟ้า ต้องใช้โซลาร์เซลล์ กลายเป็นโดนฝุ่นละอองปกคลุมจนแสงแดดไม่เพียงพอ พลังงานไฟฟ้าธรรมชาติเลยหมดสภาพ!

แถมสภาพอากาศที่ร้อนจัด ป่าเขาเต็มไปด้วยสภาพร้อนแล้ง

ทำให้เกิดไฟป่าลุกลามในหลายพื้นที่ เพิ่มปริมาณฝุ่นละอองมากขึ้นไปอีก

ล่าสุดที่นครนายก ไฟไหม้ภูเขาทั้งลูกอย่างน่ากลัว

สภาพอากาศในพื้นที่ดังกล่าว รวมมาถึงกทม. จึงน่าเป็นห่วงไปด้วย

นี่คือชีวิตของประชาชนคนไทย ที่เหมือนไม่มีรัฐบาลช่วยแก้ปัญหา

เอาเป็นว่าสงกรานต์นี้คงหมดสนุก ที่แน่ๆ ธุรกิจท่องเที่ยวภาคเหนือเจ๊งกันระนาว!

วงค์ ตาวัน