เห็นมา เขียนไป

เห็นมา เขียนไป วันที่ 8 มกราคม 2565

เห็นมาจากไลน์กลุ่ม จึงบอกต่อ…. สวัสดีปีใหม่ 2022 ปีที่โควิดจะจบเสียที!

จากงานวิจัยที่มีเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ จะประมวลออกมาเป็นเหตุผล 6 ข้อ ที่ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกทำนายว่าโควิดจะจบในปี 2022 พอสรุปได้ดังนี้:-

1. การกลายพันธ์ุเป็น Omicron ซึ่งปรับตัวเองให้แพร่กระจายมากขึ้นแต่ความรุนแรงน้อยลง ทำให้ Omicron กลายเป็น "ไวรัสทางเดินหายใจที่รักษาง่ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา" (most treatable respiratory virus known to man) และผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันว่า Omicron นั้น ไม่เหมือนกับโควิดสายพันธุ์อื่นๆที่ผ่านมา

2. การวิจัยพบว่า Omicron นั้นมักจะไม่ลงปอด และอยู่ในลำคอเป็นส่วนใหญ่ เพราะเกาะกับเซลล์มนุษย์ทั่วไปได้ดี เลยถูกช่องคอดักไว้ก่อน นี่คือเหตุผลว่าทำไม Omicron ถึงแพร่ได้ง่ายแต่ไม่รุนแรง และทำให้รักษาง่าย เหมือนเจ็บคอ ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ยาก็หาได้ง่ายกว่ามาก (ฟทจ. รักษาเดลต้ามาแล้ว ทำไมจะรักษา Omicron ไม่ได้จริงไหมครับ) (ส่วนเดลต้าที่มีคนตายมากกว่าก็เพราะไปเกาะกับปอดได้ดีกว่าสายพันธุ์อื่น)

3. สิ่งที่สำคัญก็คือ อัตราการตายจาก Omicron นั้นน้อยมาก การวิจัยพบว่า โควิดสายพันธุ์อื่นๆนั้น อัตราการติดเชื้อนั้นสามารถทำนายอัตราการตายได้ (ก็คือ ยิ่งติดมาก ยิ่งตายมาก) โดยอัตราส่วนนั้นต่างกันไปในแต่ละประเทศ และขึ้นอยู่กับแต่ละกลุ่ม (ของไทยคือประมาณ 0.8%) แต่ Omicron นั้นกลายเป็นว่า อัตราผู้ติดเชื้อ ไม่สามารถทำนายผู้เสียชีวิตได้ เพราะไม่เป็นไปตามสัดส่วน หลายประเทศในยุโรป หรือในอเมริกา ติดเชื้อเป็นแสนๆ หรือหลักล้าน แต่ยอดผู้เสียชีวิตก็ยังนิ่งๆ ไม่ได้เพิ่มเป็นสัดส่วนตามยอดผู้ติดเชื้อ จนตอนนี้เปรียบเทียบแล้ว Omicron มีอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่าไข้หวัดใหญ่เสียอีก

4. แม้จะมียอดพุ่งหลายแสนต่อวัน แต่ก็ยังไม่มีประเทศไหนรายงานว่าระบบสาธารณสุขใกล้ล่ม เพราะผู้ติดเชื้อส่วนมากไม่มีอาการ จน CDC ออกมาลดเวลากักตัวครึ่งหนึ่ง จาก 10 วันเหลือ 5 วัน แล้วบอกว่า ถ้า 5 วันไม่มีอาการแล้วก็ใส่แมสก์ออกจากบ้านได้เลย (ซึ่งก็เหมือนเป็นหวัดทั่วไป)

5. ประเทศแอฟริกาใต้ ที่โดน Omicron โจมตีเป็นประเทศแรกๆ ช่วงปลายเดือน พ.ย. ตอนนี้ประกาศว่า ผ่านจุดติดเชื้อสูงสุดมาแล้ว ควบคุมได้แล้ว ปรับลดมาตรการต่างๆลงมาเยอะ ซึ่งรวมเวลาแค่ประมาณเดือนเดียว ทั้งที่เป็นประเทศที่ฉีดวัคซีนไม่ถึงครึ่งของประเทศ และระบบสาธารณสุขไม่ได้ดีมาก

6. ที่เป็นโชคดีอีกอย่างคือ การวิจัยพบว่า หากติดเชื้อ Omicron แล้ว จะมีภูมิคุ้มกันโควิดเดลต้า ที่เป็นสายพันธุ์ที่ครองโลกอยู่ก่อนด้วย ดังนั้นถึงแม้จะพลาดติด Omicron ก็จะไม่เป็นอะไรมาก โดยเฉพาะถ้าฉีดวัคซีนยิ่งน่าจะไม่มีอาการ แถมได้ Super Immunity ไม่ย้อนมาเป็นเดลต้าและ Omicron อีก

ดังนั้นการที่โควิดกลายพันธุ์เป็น Omicron และเข้ามาครอบครองโลกแทนเดลต้า ที่แพร่กระจายง่ายและอาการรุนแรง อาจจะเรียกว่าเป็น Blessing in Disguise (โชคดีที่แฝงตัวมา) สำหรับชาวโลกก็ได้ และเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าโลกจะปิดเกมกับโควิดได้ในปี 2022 และโควิดจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น (endemic) เหมือนไข้หวัดใหญ่ และในปีนี้เราก็จะมีวัคซีนและยาสำหรับ Omicron โดยเฉพาะ ซึ่ง Omicron ไม่ได้แพร่กระจายง่ายกว่าสายพันธุ์อื่นด้วยตัวของมันเอง แต่เป็นเพราะวัคซีนที่มีอยู่ยังใช้ไม่ได้ดีเท่าสายพันธุ์ก่อนหน้าเท่านั้นเอง