เห็นมา เขียนไป

ทิวสน
เห็นมา เขียนไป 20 กรกฎาคม 2567

ปิดซิม 2.1 ล้านเบอร์ ไม่มายืนยันตัวตน ลุยจัดการแก๊งคอลฯ

กสทช.สั่งปิดซิมการ์ดกว่า2.1 ล้านหมายเลข ไม่มายืนยันตัวตนตามกำหนดเวลา จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้ากำจัด ซิมผี บัญชีม้าเสา สายกระจายสัญญาณโทรคมนาคมเถื่อนของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เมื่อวันที่ 16กรกฎาคม พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานอนุ กรรมการบูรณาการแนวทางในการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีโทรคมนาคมและความมั่นคงของรัฐ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา กสทช.เดินหน้าแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ ออกมาตรการต่างๆ บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงมีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าในหลายประเด็น ดังนี้ การดำเนินการตามประกาศ กสทช.เรื่อง การยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกลุ่มผู้ถือครองซิมการ์ด 6–100 เลขหมาย ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 และเริ่มทยอยระงับการใช้งาน โดยจะมีการระงับการใช้ในกลุ่มนี้ 2,141,317 เลขหมาย โดยระงับการโทร.ออก การส่งข้อความ และการใช้อินเทอร์เน็ต แต่ยังคงรับสายโทรเข้าได้อีกระยะหนึ่งก่อนถูกเพิกถอน และน่าเชื่อว่า 2–3 สัปดาห์หลังจากการระงับจะมีผู้ใช้บริการจำนวนมากหลั่งไหลมายืนยันเพิ่มเติมเช่นเดียวกับกลุ่มแรก ซึ่งกลุ่ม 101 หมายเลขขึ้นไปนั้น ถูกระงับการใช้งานไป 1,096,000 เลขหมาย ดังนั้นซิมการ์ดที่เปิดใช้โดยไม่มีการลงทะเบียนหรือลงทะเบียนด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไม่ครบถ้วน และคาดว่าอยู่ในความครอบครองของแก็งคอลเซ็นเตอร์ก็จะถูกกำจัดออกไป

การตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนซิมการ์ด Mobile Banking กับบัญชีธนาคารว่าเป็นของบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ กสทช.ได้รับข้อมูลจากธนาคารทั้ง 21 แห่งผ่านทาง ปปง. แล้ว 113,568,836 บัญชีคิดเป็น 79 ล้านเลขหมาย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบแยกเครือข่าย ก่อนส่งให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละราย ตรวจเปรียบเทียบ ว่าเจ้าของซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ใช้ทำธุรกรรมออนไลน์ กับเจ้าของบัญชีธนาคารนั้นๆ เป็นของบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ จากนั้น กสทช.จะรวบรวมส่งกลับให้ธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งผ่านทางระบบของ ปปง.เพื่อดำเนินการต่อไป คาดว่าจะแล้วเสร็จได้ภายในกำหนด

มาตรการกำจัดเสา สาย กระจายสัญญาณโทรคมนาคมเถื่อน กสทช. ร่วมกับ สตช. กวาดล้างจับกุม ผู้ลักลอบติดตั้งเสาส่งสัญญาณเถื่อน ตามแนวชายแดน เอื้อกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย 29 ราย และตรวจสอบสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่และเสาสัญญาณของผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม ตรวจสอบทิศทางการกระจายสัญญาณบริเวณชายแดน ออกมาตรการตรวจสอบเข้มข้น โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย ผลการดำเนินการในพื้นที่ 5 จังหวัด 7 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สอด จ.ตาก, อ.แม่สาย อ.เชียงของ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย, อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว, อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และ อ.เมือง จ.ระนอง มีสถานีวิทยุคมนาคมที่ให้บริการโทรคมนาคมเข้าข่ายและมีการดำเนินการแล้ว ดังนี้ ระงับสัญญาณ 465 จุด, ปรับทิศทางสายอากาศ 470 จุด และรื้อถอนสายอากาศ 179 จุด นอกจากนี้ กสทช.ได้มีหนังสือแจ้งเพิ่มเติมพื้นที่บริเวณชายแดนที่มีความเสี่ยงใน อ.แม่ระมาด อ.พบพระ จ.ตาก อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์

แถลงผลตรวจค้นจับกุมอุปกรณ์โทรคมนาคมเถื่อนที่ไม่ได้อนุญาตจาก กสทช.จับกุมผู้ต้องหา และยึดของกลางได้เป็นจำนวนมากในพื้นที่เขตสวนหลวง และเขตวัฒนา เมื่อวันที่ 11 กรกฎษคมที่ผ่านมา กสทช.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสรรพสามิต นำหมายศาล เข้าตรวจค้นสถานที่ลักลอบจำหน่ายอุปกรณ์โทรคมนาคมเถื่อน ในเขตสวนหลวง และเขตวัฒนา ตรวจยึดของกลางได้ 18 ประเภทรายการ มากกว่า 6,000 ชิ้น รวมมูลค่าของกลางมากกว่า 12 ล้านบาท เป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคม ในข้อหา มี ใช้ นำเข้า และค้า ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ดำเนินคดีต่อไป

มาตรการกำจัดซิมผีบัญชีม้า โค่นเสาสัญญาณเถื่อน และตรวจค้นจับกุมอุปกรณ์โทรคมนาคมผิดกฎหมายดังกล่าว เป็นการทำลายปัจจัยสำคัญ ในก่ออาชญากรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้อย่างเป็นรูปธรรม จะเห็นได้จากการไหลทะลักเข้ามาของอุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียม Starlink ไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง คาดว่าคนร้ายเริ่มปรับตัว