บันทึกจากเบย์แอเรีย
ผอ.นสพ.เพ็ญวิภา โสภาภัณฑ์



เนื่องในเทศกาลออกพรรษา

บันทึกจากเบย์แอเรียวันนี้ขอนำท่านเข้าสู่เทศกาลวันสำคัญในพุทธศาสนาด้วยบทกวีอัน ไพเราะ ประพันธ์โดยเพื่อนนักเรียนดิฉัน ชื่อ “จี๊ด” แต่ไม่ขอเปิดเผยนามจริงดีกว่าค่ะ เขาขอใช้นามปากกา “แสงประภัสสร” จี๊ดกับดิฉันเป็นเพื่อนเรียนที่สาธิตมัธยมสวนสุนันทา และไปเรียนด้วยกันอีกที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พญาไท รุ่น ๒๔ โดยดิฉันเรียนสายอักษร จี๊ดเรียนสายวิทย์ และจี๊ดไปเรียนต่อจบมหาวิทยาลัยที่เกษตรศาสตร์ ส่วนดิฉันไปเรียนนิเทศศาสตร์จุฬาฯ เริ่มฝึกเขียนโคลง กลอน กาพย์ ฉันท์ อย่างจริงจังเมื่อ พฤษภาคม ปี ๒๕๖๕ โดยมี “แอ๋ว” เพื่อนที่เรียนสุนันช่วยแนะนำ ส่วนใหญ่จี๊ดมักจะแต่งกลอนธรรมะเป็นหลัก ส่งให้เพื่อนๆ อ่านทุกวันพระ โดยจี๊ดตั้งปณิธานไว้ว่า การเขียนกวีนิพนธ์ก็ “เพื่อตัวเองจะได้ศึกษาธรรมให้แน่น แฟ้นยิ่งขึ้น และหวังว่าอาจจุดประกายสว่างให้ผู้อื่นได้อีกด้วย อันเป็นกำลังส่งให้ฝักใฝ่ในธรรมทุกภพชาติ ในวัฏฏสงสารอีกยาวไกล ถึงแม้ยังไม่บรรลุธรรม ก็ขอให้ได้เกิดในกาลที่มีพุทธศาสนาอุบัติขึ้น”

ดิฉันขออนุโมทนาในจิตอาสาเผยแพร่พุทธศาสนาผ่านงานกวีนิพนธ์ และขอเป็นผู้หนึ่งที่สนับสนุน โดยจะนำเสนอผลงานของเพื่อนเป็นระยะๆ ในคอลัมน์ของดิฉันในโอกาสต่อไป จี๊ดมีผลงานให้ผู้สนใจในบทกวีธรรมะ ในเว็บไซต์บ้านกลอนน้อย ลิตเติลเกิร์ล อยู่สม่ำเสมอ สนใจคลิกไปอ่านได้ค่ะ www.homelittlegirl.com สำหรับภาพประกอบขอนำภาพจากงานออกพรรษาเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาจากวัดมงคลรัตนารามและวัดพุทธานุสรณ์มาให้ชมกันนะคะ พบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ


วันออกพรรษา(วันมหาปวารณา)

ภุชงควิเชียรฉันท์ ๒๓

๑.ลุสุดสิ้นซิออกพรรษ์ พระสงฆ์นั้น “ปวาร์นา”
เพื่อให้ติติงหนา นยะผิดประมาททราม

๒.พระพุทธ์องค์แนะ “ปวาฯ” ตริเตือนนาและห้ามปราม
“สงสัย” ก็สอบถาม ผิวะ “ยิน” กะได้ “ยล”

๓.ริถามเหตุกระจ่างใจ กระทำใดสิแปลกปน
ถูกเตือนและยอมตน รติยิ่งจิแถลง

๔.พระสงฆ์เร่งลุก่อการ เจริญงานซิเกริกแกร่ง
สังคมพระศาสน์แจง บริสุทธิ์ยะยงขาน

๕.ลุออกพรรษ์ตระเวณไกล ริสิ่งใดประโยชน์ชาญ
ความรู้ประสมสาร นยนาประชาชี

๖.นิกรมุ่งผจงบุญ อุทิศคุณกะญาติพลี
เทโวฯประเสริฐศรี พระคุณาพระพุทธ์องค์

๗.ประเพณีกฐินทาน จะเจือจานพระสงฆ์วงศ์
ฟังเวสฯมหาฯคง จริยา “พระโพธิ์” ใส

๘.ประกอบบุญกฐินกาล วิเศษทานชะงัดไกล
เวลากระชับไข และเจาะสังฆทานพูน

๙.กฐินวัดสิต้องจอง กะให้ว่องและสมบูรณ์
ของใช้พระสงฆ์คูณ อภิรักษ์สถานงาม

๑๐.กฐินบุญคุณาเลิศ อุดมเจิดและทองวาม
ด้วยอายุยืนขาม จะเขษมละอัคคี

๑๑.มหาชาติซิเทศ์นา พระศาส์ดาอุบัติมี
อดทนก็ทวี ระดะเรื่องแนะสอนคน

๑๒.พระองค์กระทำไม่ท้อ เหมาะเพียงพอจะฝึกตน
ฟังเทศน์กระนี้ผล ชิวิสุขสงบเย็น

๑๓.ละโลกหน้าลุสรวงนวล พะพานด่วนพระศรีฯเป็น
เทศน์นี้จะรักษ์เห็น สุตะใจสราญรมย์

๑๔.จิออกพรรษ์คะนึงคิด มฤตย์ชิดกระชั้นตรม
เร่งบุญกุก่องสม ปิติใจระรื่นรวย

๑๕.ติเตือนสติตรองตน ก็เพื่อดลกุศลอวย
เยือกเย็นหทัยฉวย มิลุทางอบายเทอญฯ|ะ


แสงประภัสสร

๒๐ มีนาคม ๒๕๖๖

พรรษ์=พรรษา

วันออกพรรษา=วันออกจากการอยู่ประจำในฤดูฝนของพระสงฆ์ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑

ปวาฯ=มหาปวารณา, ปวารณ แปลว่า อนุญาต หรือยอมให้โอกาสให้สงฆ์ตักเตือนกันได้ เกี่ยวกับข้อผิดพลั้ง ในระหว่างจำพรรษาด้วยกัน พระพุทธเจ้า ทรงแนะถ้อยคำที่ภิกษุจะติติงกัน ต้องอยู่ใน ๓ ประเด็น คือได้ยิน ได้เห็น และ สงสัย เพื่อชี้แจงให้กระจ่าง

ยะยง=ยืนยง

เทโวฯ=เทโวโรหน(แปลว่า การเสด็จจากเทวโลกของพระพุทธเจ้า หลังจากเสด็จไปโปรดพุทธมารดาในสวรรค์) หมายถึงการตักบาตรเทโว ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ หลังออกพรรษา ๑ วัน

กฐินกาล=ตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ รวม ๑ เดือน ทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้อยู่จำพรรษาครบ ๓ เดือน สามารถรับผ้านุ่งห่มได้

มหาฯ=เทศน์มหาชาติ คือวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๒ หลังฤดูทอดกฐิน และจะฟังเทศน์มหาชาติ เรื่อง เวสสันดรชาดก รวม ๑๓ กัณฑ์

พระโพธ์สัตว์=พระโพธิสัตว์ หมายถึงบุคคลที่ปรารถนาโพธิญาณ เพื่อจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

พระศาส์ดา=พระศาสดา

พระศรีฯ=พระศรีอริยเมตตรัย จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ต่อไปจากพระโคดมพุทธเจ้าของเรา เมื่อศาสนาของพระโคดมได้ลุครบ ๕,๐๐๐ ปี แล้ว

อบาย=สถานที่ปราศจากความเจริญมี ๔ ภูมิ คือ นรก เปรต อสุรกาย และดิรัจฉาน