บันทึกจากเบย์แอเรีย
เพ็ญวิภา โสภาภันฑ์



อำลา อาลัยคณะครูอาสา ม.ราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ประจำศูนย์วัฒนธรรมไทยเบิร์กเล่ย์

บันทึกเบย์แอเรียฉบับนี้ ผมยังคงรับหน้าที่แทนพี่แมว “เพ็ญวิภา” เหมือนเดิม และจะเหมือนเดิมตลอดไปหรือไม่ ก็แล้วแต่ท่านเจ้าของคอลัมน์จะโปรดให้ทำหน้าที่หรือเปล่า และฉบับนี้จะขอบันทึกเรื่องราวของคุณครูอาสาสมัครทั้ง ๔ ท่าน ขอยกพื้นให้ทั้งหมด ด้วยความซาบซึ้ง...ตราไว้ในดวงจิต

ท่านมาเราดีใจ ท่านจากไปเราคิดถึง.. เมื่ออาทิตย์ที่ ๓๐ กันยายน โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดมงคลรัตนาราม โดยคณะสงฆ์ ศูนย์วัฒนธรรมไทย สมาคมไทยฯ คณะกรรมการ คณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน ได้จัดงาน “อำลา อาลัย” เลี้ยงส่งคณะครูทั้ง ๔ ท่าน ครูชาย ๒ ครูหญิง ๒ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ที่อาสาสมัครมาสอนเป็นเวลา ๑ ปีคือ คุณครูอัมพิกา โพนเมืองหล้า ครูภาษาไทย คุณครูสุนทรีย์ เรืองโรจน์ ครูดนตรีไทย คุณครูไพโรจน์ บัวอุไร ครูนาฏศิลป์ไทย คุณครูวิทวัส สุขประเสริฐ ครูดนตรีไทย ซึ่งครูทั้ง ๔ ท่าน เป็นนิสิตปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา กทม.

อาชีพครู ความจริงไม่อยากเรียกว่าอาชีพ เพราะคำว่า “ครู” ทุกสาขาวิชาการย่อมมีสปิริตมีวิญญาณของความเป็นผู้สอนมากกว่าค่าจ้าง มีนักเรียนมีลูกศิษย์เป็นเดิมพัน พลเมืองของชาติจะมีองค์ความรู้ มีระเบียบวินัย เป็นคนดีมีคุณภาพก็อยู่ที่ครูจะอบรมสั่งสอนประสิทธิ์ประศาสน์วิชาการให้ แต่รู้สึกว่าเราให้ความสำคัญแก่ครูน้อยมาก มีคำนิยามเกี่ยวกับครูว่า...แม่พิมพ์ของชาติบ้าง... เรือจ้างบ้าง แม้จะเป็นคำจำกัดความที่ฟังดูด้อยค่า แต่ก็เป็นความภูมิใจลึกๆ ของครูทั้งหลายที่ได้ทำหน้าที่เรือจ้างส่งศิษย์ขึ้นฝั่ง มีฐานะหน้าที่การ มียศตำแหน่ง มากมายหลายคนไปได้ดีกว่าครู แต่ครูก็ยังเป็นครูทำหน้าที่แจวเรือส่งคนข้ามฝั่ง (ให้พ้นจากห้วงมหรรณพคือโมหะอวิชชา)ต่อไป

มีบทกวีที่สื่อความหมายของ “เรือจ้าง” ได้อย่างงดงามและโดนใจ ซึ่งผมนำมาจากหนังสืออนุสรณ์ที่แจกในวัน “อำลา อาลัย” มาฝากกัน โดยเฉพาะ “ครู” ต้องอ่านครับ

“ใครคือครูผู้สอนในวันนี้ ใช่อยู่ที่ปริญญามหาศาล
ใช่อยู่ที่เรียกว่าครูอาจารย์ ใช่อยู่นานสอนนานในโรงเรียน
ครูคือผู้ชี้นำทางความคิด ให้รู้ถูกรู้ผิดคิดอ่านเขียน
ให้รู้ทุกข์รู้ยากรู้พากเพียร ให้รู้เปลี่ยนแปลงสู้รู้สร้างงาน
ครูคือผู้ยกระดับวิญญาณมนุษย์ ให้สูงสุดกว่าสัตว์เดรัจฉาน
ครูคือผู้สั่งสมอุดมการณ์ มีดวงมานเพื่อปวงชนใช่ตนเอง”

“ครูจึงเป็นนักสร้างผู้ยิ่งใหญ่ สร้างคนจริงสร้างคนกล้าสร้างคนเก่ง สร้างคนให้ได้เป็นตัวของตัวเอง”

เวลา ๑ ปีย่อมมีความผูกพันที่ดีน่าประทับใจ ยอมว่ารับคณะครูทั้ง ๔ ท่านมีความประพฤติปฏิบัติดี มีผลงานดีเด่นทั้งการเรียนการสอน ขวนขวายช่วยเหลือกิจกรรมวัดด้วยความเต็มใจมิได้ขาดตกบกพร่อง เรื่องนี้...ท่านพระครูสิริรัตนธรรมวิเทศ เจ้าอาวาสเอ่ยปากชมต่อสาธารณชนด้วยความภูมิใจ และงานสังคมงานสมาคมฯก็ได้คุณครูไปร่วมด้วยช่วยแสดงนับว่าเป็นเกียรติศักดิ์ศรีหน้าตาของชุมชนชาวไทย ในงานเลี้ยงส่งครั้งนี้..ทุกคนมาด้วยหัวใจที่แสดงออกถึงความรักความอาลัย มีของขวัญของกำนัลติดมือมาให้กำลังใจ เรารู้ดีว่าใจหนึ่งคณะครูก็แสนจะดีใจและตื่นเต้นที่จะได้กลับสู่มาตุภูมิที่จากมาเป็นแรมปี แต่อีกใจหนึ่งก็อาลัยอาวรณ์ที่จะต้องจากไป อยากจะบอกว่า.. ครูซึ่งเปรียบเสมือนเรือจ้าง ท่านทำได้หน้าที่ส่งผู้โดยสารขึ้นฝั่งแห่งความรู้ (วิชา) แม้จะเหน็ดเหนื่อยกับนักเรียนตัวน้อยเหมือนจับปูใส่กระด้ง พูดภาษาไทยปนอังกฤษ แต่คุณครูก็ฝึกปรือจนปูน้อยได้ความรู้และมีระเบียบ รู้จักกราบไหว้ทายทักแบบไทยๆ เท่านี้ก็ชื่นใจหายเหนื่อย

ในนามชุมชนชาวไทยผมขอฝากขอบคุณ มหาวิทยาลัยราชภัฏ บ้านสมเด็จเจ้าพระยา ที่คัดเลือกครูดีมีประสิทธิภาพ ให้ลูกหลานไทยในเบย์แอเรียได้ศึกษาเล่าเรียนเขียนอ่านและการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย และคุณครูทั้ง ๔ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ได้นำชื่อเสียงเกียรติคุณมาสู่มหาวิทยาลัยอย่างน่าภาคภูมิใจ

สุภาษิต (หนัง) จีนกล่าวว่า “งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ส่งกันพันลี้ ยังต้องจากกัน” แต่ผมว่า “เริ่มเพื่อจบ พบเพื่อจาก” ก่อนจากได้ฝากผลงานและความดีมีคุณค่าไว้กับสังคมให้เป็นที่ประทับใจ ตราบที่กาลเวลาและเข็มนาฬิกายังไม่หยุดเดิน ในโลกกลม ๆ นี้เราคงได้โคจรมาพบกันอีก ขออำนวยพรให้คุณครูทั้ง ๔ ท่านจงประสบความสำเร็จทางการศึกษา และมีหน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง รักษาอุดมคติปณิธานและวิญญาณของความเป็นครูไว้อย่างเหนียวแน่น ไปแล้วอย่าไปลับมีโอกาสแล้วกลับมาเยือนกันใหม่ เบย์แอเรีย Welcome anytime

ก่อนจากกันไปในฉบับนี้ ก็ขอฝากข้อความจากพี่แมว-เพ็ญวิภา ที่โอดครวญข้ามฟ้ามาจากกรุงเทพฯ ว่า ตอนนี้หาแม่บ้านหรือผู้ดูแลคนป่วยชาวไทยยากขึ้นทุกวัน กลายเป็นช่องทางเปิดให้แรงงานต่างด้าวที่ไม่ว่าจะทำงานได้โดยถูกต้องตามกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายทำงานนี้กันเป็นจำนวนมาก แรงงานไทยในการให้บริการดูแลผู้ป่วยนี้ หากได้เงินค่าแรงต่ำกว่าแปดพันบาทหรือหนึ่งหมื่นบาท รับรองโดนเมินจากแรงงานไทย (ดูไปแล้วก็คงไม่ต่างจากประเทศอเมริกาตอนนี้ แม่บ้านหรือคนล้างจานไม่พ้นชาวต่างด้าวท้าวต่างแดน ชาติใดคงมิต้องเอ่ยให้เป็นการลบหลู่)

งานนี้พี่แมวของขึ้น วิญญาณผู้สื่อข่าวพิเศษพุ่งปรี๊ดคว้าปากกาเอ๊ยคีย์บอร์ดพิมพ์รายงานพิเศษ ฉบับหน้าพบกับเรื่อง “เฝ้าคนไข้ หาคนเฝ้าคนไข้ ยากแท้เพียงไร” ส่วนกระพ๊ม ก็ขอสวัสดีไปก่อน พบกันใหม่โอกาสหน้าคร๊าบ...


วัลลภ คชินทร รายงาน