บันทึกจากเบย์แอเรีย
เพ็ญวิภา โสภาภันฑ์



ธัญสมุย รีสอร์ทเพื่อสุขภาพ

เกาะสมุย - เกาะเต่า – เกาะนางญวน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นสถานที่ที่สวยงาม รู้จักกันในความงดงามของท้องทะเล แหล่งดำน้ำ – ดูปะการัง หาดทรายเชื่อมต่อกันไปถึงเกาะเล็กๆ ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมุ่งมาที่นี่ แต่ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งมุ่งหน้ามายังเกาะสมุยเพื่อมารักษาสุขภาพที่ “ธัญสมุย”

“สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ากับพิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ด้วยตาตนเอง” ผู้เขียนและสามีจึงได้บินมาจากซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เพื่อบินต่อไปยังเกาะสมุยและเข้าพักที่ “ธัญสมุย” ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมของ คุณชญาบุญ เพชรพรหม หรือที่เรียกชื่อเล่นว่า “คุณกอบ” เป็นเวลา 6 วัน

ก่อนที่จะบรรยายเรื่องราวของการไปเข้าคอร์สเพื่อรักษาสุขภาพที่ธัญสมุย ผู้เขียนอยากจะขอแนะนำบุคคลสำคัญที่สุดของศูนย์สุขภาพแห่งนี้ นั่นคือ คุณชนาบุญ (กอบ) เพชรพรหม ซึ่งผู้เขียนขอเรียกเธอว่าเป็น “ผู้ปิดทองหลังพระ”


ชญาบุญ เพชรพรหม ผู้ปิดทองหลังพระ

ใครจะเชื่อว่า ผู้หญิงร่างเล็ก หน้าตาสวยงาม จะมีหน้าที่ดมถัง “อุจจาระ” ที่แสนจะเหม็นเหมือนกลิ่นหญ้าเน่า ปลาเน่าและศพเน่า นับแสนถังตลอดระยะเวลากว่า 6 ปี เพื่อบอกผู้มารักษาสุขภาพในสถาน “ธัญสมุย” ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมของเธอว่า พวกเขาเป็นโรคอะไรและจะดูแลตัวเองได้อย่างไร

คุณชญาบุญ (กอบ) เล่าให้ฟังว่า เธอเกิดในครอบครัวเกษตรกรรม คุณพ่อ – คุณแม่ มีลูก 9 คน คุณกอบเป็นคนที่ 6 คุณตา – คุณยาย ได้นำไปเลี้ยง – อบรม ตั้งแต่เล็กและพาไปวัดทุกวัน ชีวิตวัยเด็กมองเกาะสมุยเป็นเกาะที่สวยงามบริสุทธิ์ ไม่เคยได้เห็น (มี) โรงพยาบาลไม่ต้องมีหมอ คนเจ็บ – คนแก่ มักจะมีลูกหลานดูแลอยู่ที่บ้าน ใครป่วยก็ใช้สมุนไพรรักษาแบบชาวบ้าน

เมื่ออายุ 18 ปี เกาะสมุย เริ่มสร้างโรงพยาบาล เธอยังคิดในใจว่าเขาจะหาคนป่วยที่ไหนหนอ จนกระทั่งโตขึ้น ถูกส่งไปเรียนที่กรุงเทพฯ เริ่มเห็นคนกินน้ำแข็งและอาหารแทบทุกอย่างถูกแช่น้ำแข็งหมด สิ่งที่โหยหามากคืออยากกินปลาที่ไม่แช่น้ำแข็ง ได้เรียนจบ ม.ศ.5 แล้วเข้าเรียนต่อที่ม.รามคำแหง ทางด้านบริหารธุรกิจ เพราะไม่อยากเป็นชาวสวนเหมือนคุณพ่อ – คุณแม่ เรียนอยู่กับบ้านที่เกาะสมุย โดยใช้วิทยุเป็นสื่อสอน พ่อไม่เข้าใจว่า ทำไมไม่ไปเรียนที่มหาวิทยาลัย จึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ อีกเพื่อเรียนและทำงานควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบจึงกลับมาบ้าน และยึดอาชีพที่บ้าน เห็นเกาะสมุยเป็นโอกาสทางด้านธุรกิจ

เริ่มเปิดทำธุรกิจรถมอเตอร์ไซด์ปล่อยเช่า เมื่อ 18 ปีล่วงมาแล้ว เคยบวชชีพราห์มที่สวนโมกข์ 15 วัน หลังจากนั้นเปิดบริษัททัวร์ชื่อ สมุยแอร์ เทรเวล และขอเป็นตัวแทนจำหน่ายตั๋วบางกอกแอร์ (ตอนนั้นอายุแค่ 27 ปี)และเปิดขยายเพิ่มเป็นสมุยแอร์อินเตอร์เนชั่นเเนล 18 สาขา

ต่อมาได้ไปหัดเรียนนวดแผนโบราณ เรียนที่วัดโพธิ์ กรุงเทพฯ 3 เดือน จบกลับมาเปิดสมุยหัตถเวช เปิด 4 แห่ง มี 100 เตียง ตอนนั้นอายุเพียง 32 ปี เปิดที่หาดละไม 3 แห่ง ที่หาดชะเวง 2 แห่ง

ยุคนั้น พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นยุคที่ดินเฟื่องฟู ซื้อง่ายขายคล่อง คุณกอบก็ทำธุรกิจ ทำรายได้จากการซื้อขายที่ดินด้วยและคิดอยากจะทำโรงแรม โดยเปิดโรงแรมติดกับชายหาด ทำสัญญาเช่าที่ 25 ปี ลงทุน 75 ล้าน กู้แบงค์เพียง 17 ล้าน มี 120 ห้อง สามารถหมดหนี้สินภายใน 5 ปี

เมื่อมีเงินมากแล้ว อยากทำสิ่งที่รักมากที่สุดเพราะคุณกอบชอบศิลปะเป็นชีวิตจิตใจ จึงเปิดธัญสมุย ซึ่งรีสอร์ททั้งหมดคุณกอบเป็นคนออกแบบและตกแต่งด้วยตัวเองทั้งสิ้น อยากโชว์ศิลปวัฒนธรรมไทย ผสมผสานกับแบบขอม จึงเปิดศูนย์โชว์ศิลปกรรมควบคู่ไปด้วย (ART GALLARY)

คุณกอบเป็นคนรักความยุติธรรม ในยุครัฐบาลทักษิณ เห็นความไม่ถูกต้องหลายแห่ง เขาม็อบกันในกรุงเทพฯหลายครั้ง 180 วันบ้าง 300 วันบ้าง คุณกอบก็ไปทุกครั้ง จนบริษัททัวร์โดนโกง เพราะไม่มีเวลาไปดูแล เมื่อจิตตกโรคภัยไข้เจ็บก็ตามมา ตอนนั้นสุขภาพไม่ดี เป็นเนื้องอกในมดลูก, มะเร็งเต้านม, ไตไม่ดี, เป็นต้อเนื้อ, ภูมิแพ้, ไทรอยด์ ต้องไปพบหมอตลอดเวลา ถึงเวลาจะต้องไปผ่าตัด แต่คิดว่าเราต้องไปร่วมม็อบก่อน ชาติต้องมาก่อน สุขภาพมาทีหลังก็ได้

เมื่อมีความทุกข์ หน้าตาก็ทรุดโทรม ทุกคนก็เป็นห่วงคุณกอบ จนวันหนึ่ง คุณเส็ง อาลี (คนเคารพนับถือกัน) บอกคุณพ่อให้มาตามคุณกอบไปล้างพิษตับที่โรงเรียนผู้นำ ตอนนั้นคุณกอบไม่รู้ว่าการล้างพิษตับคืออะไร แต่คิดว่าคงจะดี แต่ก็บอกไม่ถูกว่าดีอย่างไร

คุณขวัญดิน (อาเปิ้น) เป็นคนสอนให้ทุกอย่าง ตรวจถังอุจจาระคุณกอบแล้วบอกว่า คุณกอบมีเซลล์เม็ดเลือดแดงออกมามาก เกิดจากการนอนดึกและนอนไม่เพียงพอ คุณกอบดูในถังแล้วไม่เห็นมีอะไรออกมาแต่กลิ่นเหม็นมากๆ เมื่อกลับไปล้างพิษตับครั้งที่ 2 มีโรคต่างๆ ออกมา จากการถ่ายของเสียลงในถัง แต่ที่สังเกตเห็นง่ายๆ คือ ฝ้าบนใบหน้าดีขึ้น ไปล้างพิษตับอีกครั้งที่ 3, 4 ทิ้งงานไปนานเลย

ต่อมาอาเปิ้น แนะนำให้หัดทำเอง เมื่อกลับมาบ้านลองหัดทำเองถึง 8 ครั้ง สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ใบหน้าผ่องใส งดงาม จนกระทั่งคุณลุงจำลองจำไม่ได้ แต่จากการที่ทิ้งงานไว้นานๆ ธุรกิจบางแห่งเริ่มขาดทุน คุณกอบจึงประกาศขายรีสอร์ทและสปาทั้งหมด อาเปิ้น-คุณขวัญดิน บอกว่าไม่ควรขาย ควรดัดแปลงรีสอร์ทให้เป็นศูนย์รักษาสุขภาพ อ.ขวัญดินจะสอนให้ทุกอย่าง

เมื่อกลับจากการล้างพิษตับ มะเร็งเต้านมและโรคร้ายต่างๆ ของคุณกอบหายไปอย่างหน้ามหัศจรรย์ เลยตัดสินใจเปิดศูนย์สุขภาพขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “ธัญสมุย” ศูนย์รวมสุขภาพ ดังกล่าวขึ้น เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2554

ความรู้ที่คุณกอบมี สามารถช่วยคนป่วยได้โดยให้คิดและเข้าใจว่าทุกคนมาเอาร่างกายใหม่

1.คนป่วยจะหายป่วยได้

2.คนป่วยที่จะละสังขาร – ให้ตายเองให้รู้จักระวังและทำใจ อาจจะอยู่ได้นานขึ้น

3.คนไม่เจ็บป่วย ให้รู้จักการกินและรักษาสุขภาพให้ดีขึ้น (ที่นี่ได้ทำสัญญากับญี่ปุ่นส่งคนมารักษา – ให้ดูแล 60 คน ถ้าหายหรือตาย ก็ต้องส่งกลับประเทศเขา)

บางคนบอกว่า ค่ารักษาที่นี่แพง ซึ่งแล้วแต่จะคิด เพราะความจริงที่นี่เป็นรีสอร์ทติดทะเล ค่าที่พักปกติราคาคืนละประมาณ 2,000 บาทอยู่แล้ว ที่นี่เตรียมน้ำสุขภาพ น้ำจากต้นไผ่ ที่จะขับไล่โรคนิ่ว รวมทั้งยาต่างๆ และคอยดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด ทุกเช้าจะมีการแช่เท้ากับน้ำสมุนไพรและพอกหน้า พนักงาน 20 คน คอยควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด

ค่าเข้าคอร์ส รวมทั้งที่พักและอาหารทุกมื้อ, น้ำสุขภาพ ราคาคนละ 18,000 บาท ต่อ 6 คืน 7 วัน (ตามสูตรรักษา) พระสงฆ์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายดังที่บอกข้างต้น ที่นี่มีเอ็นไซน์,น้ำผึ้งและยา จ่ายหลังจากจบคอร์ส

คนป่วยอาการหนักที่ไม่มีปัญญาจะเสียค่ารักษา ทางธัญสมุยไม่เก็บค่ารักษา ซึ่งนำเข้าโครงการทั้งหมด 787 คน ขณะนี้เหลืออยู่ 200 คน บางคนต้องรักษาอยู่เป็นปี พระภิกษุบางรูปต้องดูแล 1-8 เดือน หรือดูแลตลอดชีวิตของท่าน ที่นี่ก็ทำมาแล้ว

ชีวิตจะปรารถนาอะไรหรือ นอกจากจะทำความดีตลอดชีวิตที่เหลือจะได้ไม่ต้องเกิดอีกหรือหวังเกิดในยุคพระศรีอารย์ ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงรับสั่งว่า “ในร่างกายมนุษย์มีแต่สิ่งหม่นหมอง”

คุณกอบบอกว่า อยากให้ทุกคนได้ในสิ่งที่ ได้ร่างกายใหม่ จิตวิญญาณใหม่ มีเงินจำเป็นไหม ? ถ้าเรามีเงินแต่ไม่ได้พักร่างกาย ถ้าสุขภาพไม่ดี อารมณ์จะร้าย ไม่สบายกาย ก็จะไม่สบายใจ ถ้าเราไม่มีเงินแต่มีสุขภาพดี จะเริ่มต้นหาเงินใหม่ก็อาจจะได้ ถ้าการกินอยู่ไม่เป็นระเบียบ สุขภาพร่างกายก็จะทรุดโทรม

ขณะนี้คุณกอบกำลังจะร่วมมือกับสาธารณสุขเกาะสมุย จะส่งผู้เข้าอบรมในวันที่ 6-7 ก.ย. 58 ที่โรงพยาบาลขอนแก่น และนำสถิติ (โรค) ผู้ป่วยทุกคนที่มารักษาที่นี่ เมื่อทำการวิจัย – คนที่มาอบรมที่ ธัญสมุย ต้องเริ่มเรียนรู้ รับรู้ และปฏิบัติตามศรัทธา

ค่าใช้จ่ายในธัญสมุยรวมค่าที่พัก – อาหาร – สมุนไพร – น้ำเอ็นไซด์และยา ทุกมื้อ รถรับ – ส่ง จากสนามบิน รวมทั้งสิ้นประมาณ 20,000 บาท ผู้เขียนคิดว่าไม่แพงเลย สำหรับค่าบริการทุกอย่างที่ดีเลิศ


ประสบการณ์โดยตรงของผู้เขียน

เมื่อเดินทางไปถึง ธัญสมุย ผู้เขียนกับสามีก็เดินสำรวจ สังเกตได้ว่า ธัญสมุยนั้นสมกับเป็นรีสอร์ทไฮคลาส มีอาคารทั้งหมด 12 หลัง ตั้งอยู่ 2 ฟากถนน ตกแต่งแบบมีศิลป์ ด้วยภาพจิตกรรมบนฝาผนัง รูปแกะสลักพระพุทธรูปและองค์เทพจตุคามองค์ใหญ่ ตัวตึกทำงานอยู่กลางแมกไม้ ร่มรื่น ใต้ต้นไม้มีรูปปั้นคนและสัตว์น่ารักๆ ตลอดเส้นทางเดิน ศาลาทรงกลมโปร่ง แขวนชิงช้ารอบด้าน มีรูปปั้นพญานาคอยู่กลางสระ ลมพัดโบกเย็นตลอดเวลา ทำให้เกิดจินตนาการว่าสถานที่นี้คือ “วิมานของนางฟ้า” มีนางอัปสร (ที่มองไม่เห็น) ถือพัดขนนกด้ามยาว คอยโบกพัดให้ต้องผิวกายเย็นชื่นใจตลอดเวลา

จากรีสอร์ทสามารถเดินตามถนน ผ่านเข้าไปใน “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ” ผ่านกรงลิง มะขามแคระ (Tamarind) จากแอฟริกา เดินไปถึงหาดทรายยาวทิวมะพร้าวและทะเลสวย มีฝรั่งกำลังเดินเล่นห้อยโหนกับว่าวยักษ์ (Motor Parachute) อยู่กลุ่มหนึ่ง บรรยากาศที่นี้เงียบสงบ เย็นสบาย

สายหน่อย ผู้คนหลากหลายทยอยเข้ามาใน ธัญสมุย บางคนตาบอดมีคนจูงเดิน บางคนนั่งรถเข็นมา บางคนเป็นโรคเอดส์ บ้างเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต บ้างเป็นโรคกระเพาะ ความดัน นิ่ว มะเร็งขั้นที่ 4 ฯลฯ หลายคนหน้าตาอมทุกข์ด้วยความวิตกในโรคร้ายต่างๆ แต่บางคนหน้าตาสดใสบอกกับผู้เขียนว่า มาเข้าคอร์สนี้ประมาณ 6 – 10 ครั้งแล้ว จากป่วยมากตอนนี้เกือบหายแล้ว ทุกคนมาล้างพิษตับและฝากความหวังไว้กับผู้หญิงตัวเล็กๆ ใจบุญ คนนี้ ด้วยความหวังว่า โรคของพวกเขาจะหายขาดในวันหนึ่งข้างหน้า

คอร์สนี้เป็นรุ่นที่ 183 มีผู้เข้าอบรม 67 คน (ประกอบด้วยพระภิกษุสงฆ์ 11 รูป ผู้ป่วยเรื้อรังรายได้น้อย 26 คน)ทั้งพระภิกษุสงฆ์ และผู้มีรายได้น้อยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สรุปแล้วในคอร์สนี้ ธัญสมุย เก็บเงินได้เพียง 30 คน และรายได้นี้ยังแบ่งช่วยองค์กรการกุศลต่างๆ ด้วย

ผู้เขียนได้สอบถามจากเจ้าหน้าที่ของที่นี่ ซึ่งได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า จากฐานข้อมูลลงทะเบียนสุขภาพ ณ ธัญสมุยได้สรุปตัวอย่างย่อๆ ว่า

-ผู้ป่วย H.I.V. (โรคเอดส์) จำนวน 440 คน มารักษาที่นี่โรคร้ายหายเกือบทุกคน

-ไทรอยด์เป็นพิษ มารักษาที่นี่หายทุกคน

-คนเป็นโรคตับแข็ง มารักษาที่นี้ 80% หาย

-คุณจำนงค์ อ่านขาน (นามสมมติ) เป็นเนื้องอกที่ตับ เหนื่อยเดินไม่ได้ ขณะนี้ก้าวขาเดินได้แล้ว ได้มาล้างพิษตับ 9 ครั้ง

-โรคมะเร็งระยะที่ 1 โรคหอบ, อัมพฤกษ์ อัมพาต หลายคนหมอบอกรักษาไม่สำเร็จ อาการดีขึ้น (เกือบ) 100%

-คุณวิบูลย์ มีทรัพย์ (นามสมมติ) เป็นไวรัสในตับ ที่นี่สามารถรักษา (รีดพิษ) บีบตัวไวรัสออกมา 22 ล้านตัว จากการตรวจจากโรงพยาบาลภายหลังจากการล้างตับแล้วไวรัสลดลงเหลือเพียง 65 ตัว

-โรคพาติสัน ใน 45 คนที่มาที่นี้ รักษาหายแล้ว

ผู้เขียนได้ฟังเทปของคุณหมอบรรเจิด บรรยาย 45 นาที เล่าถึงว่า โรงพยาบาลคุณหมอได้ตรวจตับกว่าแสนคน พบว่า 2 ใน 3 เป็นไขมันพอกตับ โรคผังผืดที่ตับ นี้คือสาเหตุเริ่มต้นของการเป็นโรคมะเร็งที่ตับ ส่วนใครทานน้ำมันมะกอก + น้ำมะนาว ถ้ารู้สึกมีรสเค็ม จะมีปัญหาเรื่องไต และไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำเพราะดื่มนมมากเกินไป

นี่เป็นทางออกของชีวิต ถ้ารู้จักปฏิบัติตน ควบคุมสุขภาพให้ดี กินอาหารให้ถูกวิธี โรคต่างๆ ก็จะหายได้ การที่คนโบราณหุงข้าวเช็ดน้ำ ซึ่งการเทน้ำข้าวทิ้ง คือการเทน้ำตาลออกจากข้าว แต่ปัจจุบันเราใช้หม้อไฟฟ้า นับเป็นการไม่ถูกวิธี

ธัญสมุย เปิดบริการมา 183 รุ่น รักษาคนไข้มาแล้วประมาณ 23,000 คน คุณกอบดมถังอุจจาระกว่าแสนถัง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยทำให้สามารถวิจัยได้จากประสบการณ์ บางคนเลิกกินเหล้ามา 10 ปี แต่ยังตกค้างอยู่ในอุจจาระก็สามารถบอกได้ บางคนเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย หมอบอกอยู่ได้ 4 เดือน แต่เมื่อมารักษาที่นี่เขาสามารถอยู่ได้ถึง 2 ปี

ข้อแนะนำเพื่อสุขภาพที่ดี ควรนอนก่อน 4 ทุ่ม ตื่นก่อน 7 โมงเช้า รับประทานอาหาร 8 โมงเช้า – กลางวัน เที่ยง ถ้าทานหลังบ่ายโมงถึงบ่ายสาม กรดจะไหลย้อน ไม่ควรทานอาหารเย็น ทานได้ตั้งแต่บ่ายสามโมงกว่าจนถึงหกโมงเย็น ถ้าทานหลังสี่ทุ่ม กลไกภายในร่างกายจะไม่ทำงาน อาหารจะติดอยู่ในกระเพาะอาหารไม่ย่อย

สุดท้ายนี้ ผู้เขียนขออวยพรให้คุณกอบ จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ เจริญรุ่งเรืองในกิจการ และมีความสุขในการดูแลผู้มีปัญหาสุขภาพให้หายเจ็บป่วยเพราะความสุขอยู่ที่ใจ – ทั้งหมดนี้คือศักยภาพที่ล้นเหลือของ คุณชญาบุญ เพชรพรหม หรือ คุณกอบ ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เกิดมาเพื่อปิดทองหลังพระ ซึ่งควรประกาศให้โลกรู้ถึงการอุทิศตนเพื่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง


ป้อม สุคนธา


(ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊กของธัญสมุย)

เขียนโดย เจริญรัตน์ สุขุม