บันทึกจากเบย์แอเรีย
เพ็ญวิภา โสภาภันฑ์



กิจกรรมปลายเดือนพฤศจิกายน จากกรุงเทพฯ ลอยกระทง

28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 วันประเพณีลอยกระทง ที่ประเทศไทยปีนี้ นอกจากน้ำจะนองเต็มตลิ่งแล้ว ฝนยังตกกระหน่ำทั่วกรุงเทพมหานครตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงเย็น พรรคพวกบ่นกันพึมพำว่าปีที่แล้วก็ไม่ได้ลอยกระทงเพราะน้ำท่วม ปีนี้หากฝนไม่หยุดเราจะได้ลอยกระทงกันจริงๆ หรือ

บังเอิญว่า ปีนี้วันลอยกระทงมาตรงกับวันคล้ายวันเกิดของดิฉัน จึงถือโอกาสโหนกระแสล่องตามน้ำ ลงเรือด่วนเจ้าพระยาจากท่าน้ำสาทรไปถึงปากเกร็ด จุดหมายปลายทางวัดกู้ ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี อันเป็นวัดที่เก็บอัฐิบรรพบุรุษฝ่ายพ่อ

ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆเ กี่ยวกับวัดกู้

วัดกู้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ในตำบลบางพูด บริเวณริมน้ำหน้าวัดนั้นเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์สมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ด้วยเหตุว่าเป็นจุดที่เรือพระที่นั่งของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระมเหสีของพระองค์ประสบอุบัติเหตุเรือล่มสิ้นพระชนม์ ก็ได้มีการอัญเชิญพระศพมาไว้ที่วัดนี้ชั่วคราว

วัดนี้สร้างในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีเป็นศิลปะแบบมอญ ภายในโบสถ์หลังเก่ามีภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบมอญ เป็นภาพเขียนสีน้ำมันเรื่องราวพุทธประวัติ ด้านในของวัดซึ่งปัจจุบันอยู่ติดกับซอยปากเกร็ด 3 มีวิหารประดิษฐานองค์พระนอนใหญ่ ซึ่งพระนอนองค์นี้ดิฉันไปกราบไหว้บูชาเกือบจะทุกครั้งที่กลับไปเยี่ยมประเทศไทย เพราะมีความรู้สึกว่าคุ้นเคยกับองค์พระมาตั้งแต่ยังเล็กๆ สมัยนั้นคุณย่าเป็นคนไทยเชื้อสายมอญที่เกิดและเติบโตมาจากที่นั่น นอกจากนั้นด้านข้างของวิหารก็ยังเป็นที่เก็บเรือพระที่นั่งของพระนางเจ้าสุนันทาฯ ที่อับปางซึ่งชาวบ้านกู้ขึ้นมาได้ มีศาลพระนางเรือล่ม อยู่ในบริเวณกลางวัด

เล่ามาเสียยืดยาวก็เพียงเพื่อเก็บบันทึกเรื่องราวของวัดเก่าแก่ของชุมชนชาวมอญสมัยก่อนมาให้อ่านกัน และเพื่อจะเล่าต่อว่าในวันที่ดิฉันไปวัดมานั้น เกือบจะจำวัดแทบไม่ได้ เนื่องจากได้รับการบูรณะสวยงาม มีรั้วอิฐสูงใหญ่รายรอบโบสถ์ซึ่งกำลังจะสร้างใหม่แทนโบสถ์เก่าที่ชำรุดทรุดโทรมลงไปกับกาลเวลา แต่ที่เป็นที่น่ายินดีก็คือพระที่วัดท่านเล่าว่าบัดนี้กรมศิลปากรได้มาจดทะเบียนอนุรักษ์โบถส์เก่าไว้แล้ว ดังนั้นจึงเป็นที่เชื่อได้ว่าจะไม่มีการทุบหรือทำลายสิ่งมีค่ายิ่งของวัดไปได้

นอกจากนี้ วัดกำลังดำเนินการสร้างสถานที่จากท่าน้ำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ด้วยการรื้อวิหารพระนางเรือล่มเก่าไปสร้างใหม่ด้านใน และได้สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ห้า ในอริยาบทยืนสง่างามเคียงคู่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ โดยพระรูปปั้นของสองพระองค์หันหน้าไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา

ผู้เขียนเก็บภาพมาให้ชมกันด้วยค่ะ เป็นภาพที่สง่างามประทับใจ เชื่อว่าหากใครเดินเรือผ่านมาก็ย่อมจะต้องอดไม่ได้ที่จะประนมมือขึ้นแสดงความเคารพเป็นแน่นอน นึกภาพเรือที่แหวกคุ้งน้ำมาจากอยุูธยา หรือจากกรุงเทพฯออกไปอยุธยาก็คงจะต้องผ่านจุดนี้ คงจะเป็นทัศนียภาพที่ศักดิ์สิทธ์ที่สุด

กลับจากวัดกู้ฝนก็ตกลงมาอีกกราวใหญ่ น้องสะใภ้และหลานสามีที่ไปทำบุญด้วยกันมาส่งดิฉันที่ท่าน้ำนนทบุรี เพื่อลงเรือกลับไปยังสาทร ตอนลงเรือนั้นทางท่าเรือนนทบุรีเต็มไปด้วยผู้คนที่ตระเตรียมงานตั้งแต่ก่อสร้างเวที นักเรียน และข้าราชการที่เตรียมงานลอยกระทงอยู่ยืนเปียกฝนกันทั่วหน้า แต่บนเรือโชคดีที่เขามีผ้าใบคลุมมิให้น้ำสาดเข้ามา ดิฉันว่าดีกว่านั่งรถเมล์ด้วยซ้ำ เพราะว่าไม่ต้องเปิดแอร์ก็มีแอร์ธรรมชาติผสมกลิ่นแม่น้ำและกลิ่นไอฝน ประทับใจและมีความสุขไปอีกแบบหนึ่ง ไม่เดือดร้อน เรือแล่นฝ่ากระแสน้ำพร้อมกับแตรและนกหวีดที่ดังปรี๊ดปรี๊ดเมื่อจะเทียบท่า ถึงท่าเรือสาทรด้วยสวัสดิภาพ ฝนหยุดตก เป็นนิมิตหมายว่าคืนนี้ประชาชนชาวกรุงเทพฯ คงจะได้ลอยกระทงสมใจอยาก

ตอนหัวค่ำดิฉันลงมาจากคอนโดฯ ที่อยู่ปลายสะพานตากสิน มาเดินปะปนกับฝูงชนที่เริ่มเบียดเสียดมุ่งสู่ท่าน้ำ เห็นผู้คนที่มาเดินซื้อกระทง ลูกเด็กเล็กแดง ผู้เฒ่า ผู้หนุ่ม ผู้สาว พากันประคองกระทงจุดเทียนจุดธูปและอธิษฐานก่อนจะส่งกระทงให้เจ้าหน้าที่ลอยลงแม่น้ำก็ให้ชื่นใจว่าประเพณีลอยกระทง ขอขมาแม่พระคงคา และการอธิษฐานให้สิ่งไม่ดีงามลอยไปกับแม่น้ำนั้น จะยังคงอยู่กับคนไทยไปอีกนานแสนนาน

นั่นคือความสุขของคนไทยในประเพณีวันลอยกระทง


งานสมรสของลูกหลานชาวซานฟรานในกรุงเทพฯ

และอีกกิจกรรมของอาทิตย์ที่ผ่านมา ขอบันทึกถึงการรวมพลคนเบย์แอเรียในกรุงเทพฯ การรวมพลดังกล่าวนี้มิได้ไปร่วมขบวนม๊อบที่ใดนะคะ แต่รวมตัวกันไปร่วมงานฉลองสมรสของ บอย-กษิดิศ ศิริญาณ บัณฑิตจากยูซีริเวอร์ไซต์ บุตรชาย คุณชัยวัฒน์-ม่วยนี้ ศิริญาณ อดีตนายกสมาคมไทยซานฟราน ณ โรงแรมเพนนินซูล่า ถนนเจริญนคร ฝั่งธนบุรี กับเจ้าสาวคนสวย กิฟ-จันทราภา บัณฑิตจากคณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บุตรสาว คุณอนุสนธ์ กับ ผศ. ขวัญเดือน ชวนประสิทธิ ซึ่งหนุ่มสาวพบกันในเบย์แอเรียค่ะ ทั้งคู่ต่างก็ให้สัมภาษณ์ว่าที่เกิดความรักกันจนตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันนั้น เป็นเพราะต่างคนต่างดูแลเอาใจใส่ทุกข์สุขกันและกันตลอดระยะเวลาห้าปีที่คบหากัน

งานนี้กระทบไหล่เพื่อนเก่าชาวเบย์ฯ ที่กลับไปใช้ชีวิตที่ประเทศไทย อาทิ พี่สมเกียรติ-สบสภาพ พงษ์กัณฑา จุไรรัตน์ พรหมดวง พี่เพชรา และมาริน รุจิระบรรเจิด จิระพงศ์ สัจจะวัชระพงศ์ อดีตนายกสมาคมซานฟรานฯ และที่เดินทางไปสมทบจากซานฟราน อาทิ พี่สรีย์ ปรารถนาดี กิ่งกาญจน์ สมิตามร เกียว อุไร-ยงยุทธ หาญสมุทร และ ธนา วัฒนานันท์ เป็นต้น ในงานเต็มไปด้วยบรรยากาศของความชื่นมื่น รอยยิ้มจากเจ้าสาวคนสวยและเจ้าบ่าวรูปหล่อแถมลักยิ้มกับการต้อนรับที่เป็นกันเอง ทำให้ผู้ไปร่วมงานรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากไอรักของทั้งคู่ ขออวยพรให้ครองรักกันไปตลอดการนะคะ

จบบันทีกด้วยภาพของพระบรมราชานุสาวรีย์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 กับพระนางสุนันทาฯ ที่หน้าท่าน้ำวัดกู้ นำมาให้ชมกันสำหรับท่านที่อาจจะยังไม่เคยเห็นพระบรมราชานุสาวรีย์ใหม่นี้ว่าสง่างามเพียงใด และภาพจากวันงานสมรสของ กิฟ-จันทราภา กับ บอย-กศิดิศ ศิริญาณ ณ โรงแรมเพนนินซูล่า ประเทศไทยค่ะ


เพ็ญวิภา โสภาภัณฑ์
บันทึก