บันทึกจากเบย์แอเรีย
เพ็ญวิภา โสภาภันฑ์



เทคนิเชี่ยนไทย กับงานติดตั้งเครื่องเสียง London Olympic 2012

อีกไม่กี่วันที่จะถึง กีฬาโอลิมปิก สำหรับฤดูร้อนปีนี้ก็จะเริ่มขึ้นในวันที่ 27 กรกฎาคม ถึง 12 สิงหาคม ค.ศ. 2012 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลายๆ คนก็คงจะตั้งใจคอยชมกีฬาในประเภทที่ชื่นชอบกันด้วยใจจดจ่อ โดยในปีนี้จะมีนักกีฬาจากสองร้อยห้าประเทศเข้าร่วมแข่งขัน โดยกรุงลอนดอนเคยเป็นสถานที่แข่งขันโอลิมปิกมาแล้วในปี ค.ศ. 1908 และ ค.ศ. 1948

ประเทศอังกฤษเตรียมพร้อมเต็มที่ ที่จะให้การจัดงานโอลิมปิกครั้งนี้เป็นไปด้วยความยิ่งใหญ่และประทับใจด้วยการปรับปรุงก่อสร้างอาคารสถานที่ ระบบขนส่งทันสมัยสะดวกแก่การคมนาคม โดยหวังว่าจะทำให้ London Olympic 2012 เป็นเกมโอลิมปิกแบบยั่งยืน ซึ่งหลังจากซัมเมอร์โอลิมปิกแล้ว ลอนดอนก็จะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันพาราลิมปิก ต่อในวันที่ 29 August to 9 September ซึ่งจะเป็นเกมครั้งที่14 เพื่ออุทิศให้กับนักกีฬาผู้พิการทั้งร่างกาย และบกพร่องทางปัญญา

และในกีฬาโอลิมปิกที่ลอนดอนปีนี้ เรามีคนไทยหนึ่งคนที่มีส่วนร่วมในการตระเตรียมงานกีฬาอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ด้วย ในฐานะเทคนิเชี่ยนผู้ติดตั้งเครื่องเสียงในงานพิธีครั้งนี้

ผู้เขียนเคยเกริ่นแล้วว่าในการเขียนคอลัมน์นี้ มีเจตนาบอกเล่าหลากเรื่องราวมีสาระในเบย์แอเรีย นับแต่ข่าวสังคมไปจนแนะนำบุคคลโดยเพิ่มบทเขียนเป็นแกลเลอรีเรื่องราวของผู้คนที่น่าสนใจในเบย์แอเรียเดือนละครั้ง เดือนนี้ขอแนะนำ คุณธนา วัฒนานันท์ เทคนิเชี่ยนชาวไทยในเบย์แอเรียผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งเครื่องเสียง

ผู้เขียนรู้จักกับธนามาหลายสิบปี ตั้งแต่เขายังเป็นหนุ่มน้อยเดินทางโดดเดี่ยวมาอยู่วัดพุทธานุสรณ์ ตราบปัจจุบันเป็นสมาชิกชุมชนไทยรุ่นคุณพ่อ ที่อาสาทำงานนานาประการให้กับสังคมวัดไทยและสังคมไทยในเบย์แอเรีย เป็นหนึ่งในผู้มีพรสวรรค์ในการร้องเพลงไทยสากล มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในซานฟรานฯ และเบย์แอเรีย

ธนา เป็นคนกรุงเทพฯ คุณพ่อชื่อ ธะนะ คุณแม่ชื่อ สอดแสง มาอเมริกาเมื่อ อายุ 19 ปี ลูกคนเดียว คุณพ่อเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็กๆ อยู่


ความตั้งใจมาอเมริกา

ไม่มีความตั้งใจเลยที่จะมา ในช่วงนั้นเพิ่งจะจบม.ปลายจากโรงเรียนวัดราชบพิตร แต่ในช่วงนั้นความประพฤติส่วนตัวในช่วงวัยรุ่นไม่ค่อยดีนัก คุณแม่และครอบครัววัฒนานันท์เป็นโยมที่สนิทกับเจ้าคุณวิเทศธรรมกวี (หลวงพ่อประเสริฐ) เจ้าอาวาสวัดพุทธานุสรณ์ปัจจุบัน จึงพาไปฝากที่วัดเลียบ คุณแม่บอกท่านว่าช่วยเอาไปอบรมเปลี่ยนนิสัย เขาอยากเรียนอะไรก็ให้เรียน หลวงพ่อก็เลยพูดว่าธนาไปเป็นลูกศิษย์วัดที่เมกากับหลวงน้านะ ท่านเรียกตัวท่านเองกับลูกศิษย์หลายๆ คนว่า “หลวงน้า” ผมก็เลยมาอย่างไม่มีจุดหมายว่ามาเพื่ออะไร กะว่าไม่กี่เดือนคงอยู่ไม่ได้ก็กลับ มาถึงอเมริกาในแรกเลยก็ได้ไปเยี่ยมบ้านคุณแม่เพ็ญศรี เรฮาน่า แม่ของ คุณแอ้ด-ชุติวรรณ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แถมหมั่นไส้ด้วยซ้ำว่านี่มันผู้หญิงหรือ ทอมบอย

ชีวิตเปลี่ยนแปลง

เริ่มนั่งรถเมล์ไปโรงเรียน ตอนเย็นก็ไปทำงานล้างจานอยู่ร้าน ปาปิญอง และร้านอาหารอื่นๆ แต่ในเวลาเดียวกันผมกับแอ๊ดก็สนิทกันมากขึ้น จนกระทั่งได้แต่งงานกันและมีบุตรสาวคนแรกในปี 1992 สุวรรณา หรือ น้องหนึ่ง พอได้เป็นคนที่อยู่อย่างถูกกฎหมายอเมริกัน ในปีเดียวกันกับที่มีน้องหนึ่ง ก็เริ่มทำงานเป็นหลักแหล่ง ไม่ว่าจะเป็น 7-11, Gas Station และทำงานในร้านอาหารด้วย ปี ค.ศ.2003 ก็มีลูกสาวอีกคน น้องแน๊ต- แน๊ทริยา

กฎเกณฑ์ในการเลี้ยงดูลูกๆ

คิดว่าก็คงไม่แตกต่างจากคนทั่วไป ผมโชคดีที่มีแม่ยาย ลุงและป้าที่ช่วยเลี้ยงดูแลหลานๆ เป็นอย่างดี จะว่าเลี้ยงลูกแบบไทยๆ ก็ว่าได้ ผมจะเป็นคนไม่ค่อยบังคับลูก ชอบให้เขาเรียนรู้ด้วยตัวเองถ้าเขาทำผิดก็จะบอกว่าผิด ให้แก้ตัวใหม่ ชอบให้เขาตัดสินใจด้วยตัวเอง

ความภูมิใจในตัวลูกๆ

น้องหนึ่ง เป็นเด็กที่ค่อนข้างฉลาด คิด และตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองได้ ชอบช่วยเหลือกิจกรรมสังคม นำเพื่อนฝูง รักครอบครัว น้องแน๊ท ต่างกับพี่มาก ชอบเล่นกิจกรรมโลดโผนเหมือนผู้ชาย ชอบร้องเพลง ทำอะไรที่เจ็บตัวเองอยู่สม่ำเสมอเหมือนพ่อ

ชีวิตในการเป็น Technician Installer

ในปี ค.ศ. 1995 เข้ามาทำงานใน Sony Systems Solutions โดยการชักนำของเพื่อนสนิท ปูก้า- ศักดิ์ชัย ตรีศรี โดยทำงานติดสายเคเบิลให้กับบริษัทอยู่ประมาณครึ่งปีก็ได้รับการชักชวนให้ออกไปเป็นผู้ติดตั้งห้องส่งทีวี (installer) ของห้องอัดเสียง ก็เลยชอบและผลักดันตัวเองให้เรียนรู้ และหาประสบการณ์ด้านนี้มาโดยตลอด

เล่าให้ฟังหน่อยว่า ทำไมจึงได้รับเลือกให้ไปติดตั้งเครื่องเสียงในงานกีฬาโอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอนตอนนี้

ผมเคยเป็นพนักของ Sony โดยตรง เมื่อมีลูกค้ามาติดต่อซื้อเครื่องถ่ายทอด อุปกรณ์ในห้องส่งทีวี แผนกผมก็จะรับงานมาอีกที คือจะแผนกออกแบบดีไซน์ ว่าเครื่องต่างๆ จะต่อสายให้เข้าหากันยังไงเพื่อจะได้สัญญาณส่ง uplink ส่งเข้าตามเคเบิล หรือจานดาวเทียมตามบ้านคนทั่วไป และก็ไปติดตั้งกล้องถ่ายทอดตามสนามแข่งขันต่างๆ ด้วย

โอลิมปิกก็เช่นเดียวกันครับ เพียงแต่เป็น event ชั่วคราว แต่เราก็ยกอุปกรณ์ทุกอย่างมาที่นี่ ไม่ว่าสตูดิโอ ห้องอัดเสียง และใช้เวลาติดตั้งประมาณสองเดือนครึ่ง แต่ช่วงแข่งโอลิมปิกแค่สิบกว่าวัน แล้วก็รื้อเก็บภายใน 15วัน และก็ส่งอุปกรณ์กลับ NBC Headquarter in new York และก็เตรียมงานต่อไปคือ winter Olympic ที่รัสเซีย จะเป็นอยู่แบบนี้ทุกสองปี และในช่วงที่ไม่ได้ทําโอลิมปิกก็จะรับงานจากบริษัทอื่น ซึ่งแบบงานก็ไม่ต่างอะไรนัก และก็ไปติดตั้งกล้องถ่ายทอดตามสนามแข่งขันต่างๆ ด้วย

ค.ศ. 2002 รับเลือกให้ไปทำงานในกลุ่มติดตั้งห้องส่งเคลื่อนที่สำหรับกีฬาโอลิมปิก ก็เลยได้ทำงานด้านนี้มาเรื่อยตั้งแต่งานกีฬาที่ Utah, U.S.A. Italy, Greece, Beijing, Vancouver และ ณ ปัจจุบันเพิ่งเดินทางไปลอนดอน เพื่อติดตั้งเครื่องให้กับงานกีฬาโอลิมปิก 2012 และเดินสายต่อไปยัง Russia, Brazil, และ South Korea Game

งานอดิเรก

ชอบหลายอย่างครับ ขับรถ เดินป่า แต่ที่ชอบมากที่สุดคือร้องเพลง การแสดงดนตรีไทย รำไทย จริงๆแล้วฟังเพลงทุกแนวและชอบที่สุดคือ คาราบาว ก็ถือว่าเป็นพรสวรรค์ของตัวเองที่สามารถร้องเพลงของพี่แอ๊ด-คาราบาว ได้ (สงสัยจะดวงสมพงษ์กับ “คนชื่อแอ๊ด”) และเสียงร้องก็ถือว่าใกล้เคียงกับพี่เขา (คนเขาพูดกันนะ) แต่จะว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้คาราบาว หรือพี่แอ๊ดคนเดียวก็ไม่เชิงนะครับ เพราะวงดนตรีเพื่อชีวิตรุ่นเก่าๆ ก็มีหลายวง ก็ฟังหมดทุกวงครับ ผมก็จะเดินทางไปอังกฤษเร็วๆ นี้ พอดีกับที่วงคาราบาวเดินสายทางยุโรปก็จังหวะเหมาะได้ไปดู

ปณิธานที่ตั้งไว้

ไม่ว่าจะทำอะไรต้องเอาใจใส่กับที่ทำ (เอาใจ-ใส่กับงาน) ถึงผลจะออกมาไม่ดีกว่าที่คาดหมาย หรือล้มเหลว แต่เราก็ได้ตั้งใจทำดีที่สุดแล้ว

เป็นประโยคปิดท้ายที่ถูกต้องที่สุด เพราะว่าผู้เขียนได้สัมผัสกับปณิธานของธนา มากับตัวเองหลายๆ เรื่อง ล่าสุด ธนาบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก หยุดงานประจำที่กำลังทำอยู่ที่โอลิมปิกวิลเลจ กลับมาเบย์แอเรียสามวัน เพียงเพื่อมาช่วยคณะครู และนักเรียนวัดพุทธานุสรณ์ขับเคลื่อนงานไทยคลาสิคอลไนท์ครั้งที่ 18 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยเหตุว่าต้องการทำหน้าที่ช่วยจัดฉาก จัดเวที เสียง และแสงตามที่ได้รับปากไว้กับคณะกรรมการจัดงาน หัวใจทำงานเกินร้อย ระยะทางไม่ใช่ปัญหา ดั่งคำเอ่ยประมาณนี้ล่ะค่ะ

“ระยะทางพิสูจน์แรงม้า กาลเวลาพิสูจน์ใจคน”

ดังนั้นผู้เขียนจึงมิรีรอแม้แต่น้อยที่จะยกตำแหน่ง คนของสังคมอีกคนหนึ่งที่สมควรกล่าวถึง ธนา วัฒนานันท์

พบกันใหม่ฉบับหน้าค่ะ