สวัสดีปีใหม่ พ.ศ. 2556 นะคะ ยังปักหลักรายงานมาจากกรุงเทพมหานครนะคะ สำหรับผู้ที่อยู่ในสหรัฐฯท่านคงฉลองคริสต์มาสและปีใหม่กันท่ามกลางหิมะและฝน เป็นบรรยากาศที่คนที่เมืองไทยอยากจะให้เป็นเช่นนั้นบ้าง จะเห็นจากที่ชาวกรุงและนอกกรุงจำนวนมากพากันมุ่งออกจากเมืองทะยานสู่ภาคเหนือของประเทศไทยเพื่อสัมผัสอากาศหนาวเย็นบ้าง
ส่วนผู้เขียนและญาติๆ ถือโอกาสวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่เก็บเกี่ยวความสุขอยู่ในกรุงเทพฯ สบายใจที่สามารถนั่งรถไปไหนมาไหนในเมืองหลวงของประเทศโดยไม่เสียอารมณ์กับการจราจรที่ตัดขัดมาทั้งปี แม้กระทั่งแท็กซี่ก็ขับรถได้ด้วยความสุข เรียกว่าสุขในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แท้จริง สภาพการจราจรไม่จราจลที่ได้ประสบทำให้อดคิดเป็นเรื่องยาวว่าทำไมหนอประเทศไทยจึงต้องมีกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง ก็ดูซิแรงงานทั้งหลายมาจากไหน ทำไมไม่ขยายโรงงานไปทางนั้น จะได้ไม่ต้องมาแออัดกับสภาพอันแสนจะเต็มไปด้วยมลพิษในกรุงเทพฯ ให้โคราชเป็นเกตเวย์อิสาน (เป็นแบบจริงๆ ไม่ใช่โครงการที่ฟังหรูๆ) ให้เชียงราย ที่มีแรงงานต่างชาติเดินทางเข้ามาทางนั้นแล้วเข้ากรุงเทพฯเข้าสมุทรสาคร
ก็ดูซิ เวลามีวันหยุดเทศกาล คนกรุงเทพฯ ก็ออกไปใช้เงินสะพัดกันแถวที่ดิฉันเอ่ยถึงเป็นส่วนมาก อาทิ ปาย พูเรือ วังน้ำเขียว เขาใหญ่ แปลว่าอากาศต่างจังหวัดน่าพิสมัยกว่าในกรุงเทพฯ ทำไมหนอรัฐจึงใม่นำงบประมาณมาสร้างรถไฟความเร็วสูงไปจังหวัดที่มีแรงงานเข้ามาทำงานในกทม. แทนที่จะมาสร้างในเมือง เจาะถนนหนทางซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้รถติดระนาวเช่นปัจจุบัน เขียนมาเนี่ย อาจจะมีนักวิชาการนินทาว่า ยายคนเขียนเนี่ยหารู้เรื่องไม่ ไอ้ที่รถติดอยู่นี่มันคนละเรื่องที่เรื่องเดียวกันกับที่ต้องสร้างถนนใหม่เพื่อนำรถไฟฟ้ามาแล่นเพิ่ม คนจะได้ไม่ต้องใช้รถยนต์ รถจะได้ไม่เต็มถนน....
หรือว่าเราจะเขียนนวนิยายอีกสักเรื่อง กระตุ้นจิตสำนึกให้คนรักถิ่นที่อยู่ของตัวเอง อนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน นำทรัพยากรท้องถิ่นมาพัฒนาให้เป็นรายได้ จะได้ไม่ต้องเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ คิดไปคิดมา เอ๊ะ! เรานี่เริ่มจะเขียนคอลัมน์เอาอย่างเพื่อนเลิฟ ไพฑูรย์ สุขกสิกร เจ้าของวลี ความจริงหรือความคิด เข้าไปทุกทีแล้ว แต่ไม่แน่นะคะ เรื่องที่ดิฉันจินตนาการนี้อาจจะเป็นจริงเข้าสักวันก็ได้นะคะ ร.บ.อาจจะกระจายความเจริญไปสู่ชนบทได้สำเร็จก็ได้ อะไรก็เกิดได้ ดูประเทศเมียนมาร์ซิคะ ใครจะคาดคิดว่าร.บ.เขาจะเปลี่ยนนโยบายประเทศได้ ทำเอาตอนนี้แรงงานจากประเทศเขาในเมืองไทยดีอกดีใจกะจะกลับไปทำมาหากินในประเทศกันเป็นแถว ขณะเดียวกันนโยบายค่าแรงชั้นต่ำสามร้อยบาทต่อวันของร.บ.ป.ท.ร. แปลว่าร.บ.ประเทศเรา ก็เริ่มออกพิษรับปีใหม่โรงงานขนาดเล็กประกาศปิดตัวเพราะไม่สามารถจ่ายลูกจ้างได้ตามมาตรการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของกระทรวงแรงงาน อันเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ในประเทศไทยอยู่ ณ เวลานี้
บ่นไปก็เท่านั้นนะคะ ย้อนกลับมาสังคมเบย์แอเรียสักนิดเดี๋ยวจะหาว่าบันทึกไม่เห็นเกี่ยวกับเบย์แอเรียเลย คอลัมน์นี้ขาดคนรายงานแทนเพราะว่าอาทิตย์นี้ วัลลภ คชินทร หรือผู้เฒ่าหัวใจสะออนของเรา เหินฟ้าพาครอบครัวไปฉลองปีใหม่ที่ฮาวาย พาลูกสาว น้องน้ำหวาน พิมวลี คชินทร ไปส่งเข้ามหาวิทยาลัยที่ฮาวาย น้องเขาจะไปเรียนที่นั่น ก็ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ และที่ไปฉลองไกลถึงเมืองไทย ก็มี ครอบครัวคุณบุญส่ง-ลดาวัลย์ ทวีไทย พี่สุรีย์ ปรารถนาดี... อนุโมทนาบุญ คุณป๋อง รอน ฤทธิประเสริฐ เข้าอุปสมบทหนึ่งเดือน ที่ ลพบุรี สาธุ..จิราณี ทองอุไทย คนนี้นอกจากจะไปเที่ยวทั่วไทยแล้วยังไปปรับปรุงคอนโดมิเนี่ยมย่านทองหล่อ เตรียมเสนอขาย ในราคากันเองกับเพื่อนๆ...พี่สมพจน์-คำนึง ทรัพย์สุนทร ไปถึงไทยก็ตรงเข้าวัดดาวดีงษาราม ทำบุญร่วมญาติสนิทมิตรสหายและศิษย์เก่าครูอาสาวัดพุทธานุสรณ์ ซึ่งไปรวมตัวกันทำบุญส่งท้ายปีเก่ารับปีใหม่หลายสิบคน งานนี้ได้ ธนา วัฒนานันท์ ชนันพร อารีย์กุล และ วิสันต์ อังคเดช เป็นกำลังสำคัญในการประชาสัมพันธ์ ซึ่งฉบับต่อไปจะนำภาพแห่งความสมัครสมานสามัคคีในวันนั้นมาเผยแพร่ค่ะ
ส่วนฉบับนี้ขอนำภาพประกอบจากกิจกรรมวันส่งท้ายปีเก่าขั้นปีใหม่ของวัดมงคลรัตนาราม เบิร์กเล่ย์ด้วยการสวดมนต์ เจริญจิตภาวนา และฟังธรรมบรรยาย ส่วนวัดพุทธานุสรณ์ ชมภาพคณะปฏิบัติธรรมเดินจงกรมที่ปาร์กเมืองฟรีมอนต์ ดูแล้วสุขกาย สบายใจ อนุโมนทนากับญาติธรรมทุกท่าน และภาพจากกรุงเทพฯ ที่ดิฉันขึ้นไปชมพลุไฟสวยงามส่งท้ายปีเก่ารับปีใหม่ทีชั้น 38 ของสาทรเจ้าพระยาคอนโด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เห็นเรือที่เขายิงจุดพลุสวยงามจากแม่น้ำหน้าโรงแรมแชงกรีล่าและโอเรียนเต็ล สวยงามจริงๆ ค่ะ ประสบสุข สมปรารถนา ทุกท่านนะคะ