บันทึกจากเบย์แอเรีย
ผอ.นสพ.เพ็ญวิภา โสภาภัณฑ์



บันทึกจากเบย์เอเรีย 15 พฤศจิกายน 2568

“พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ในความทรงจำของผู้เขียน”

ขอเปิดคอลัมน์ฉบับนี้ด้วยการน้อมถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งได้เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สิริพระชนมพรรษา 93 พรรษา นับเป็นความสูญเสียอันใหญ่หลวงต่อพสกนิกรชาวไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นที่สุด

ในโอกาสนี้ ผู้เขียนใคร่ขอเล่าถึงเหตุการณ์หนึ่งในอดีตเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีหลวง เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินมายังสหรัฐอเมริกาและนครซานฟรานซิสโก โดยขอกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ หากมีข้อบกพร่องในราชาศัพท์ประการใด

เมื่อปี ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) ได้ประกาศมอบรางวัล Women of the Year 1993 ซึ่งทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายโดย Dr. Iris Litt ผู้อำนวยการ The Institute for Research on Women and Gender ในโอกาสนั้น สมเด็จพระพันปีหลวงได้เสด็จพระราชดำเนินมายังนครซานฟรานซิสโก ระหว่างวันที่ 23–28 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 และได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังมหาวิทยาลัย Stanford เมือง Palo Alto รัฐ California เพื่อทรงรับรางวัลดังกล่าวเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2536

ในห้วงเวลาการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนั้น สมเด็จพระพันปีหลวงยังได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์ ณ อุโบสถวัดพุทธานุสรณ์ เมืองฟรีมอนต์ และทรงเปิดศูนย์วัฒนธรรมไทย ณ วัดมงคลรัตนาราม เมืองเบิร์กเล่ย์ ในวันเดียวกัน คือวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 กิจกรรมทั้งสองแห่งนับเป็นหมุดหมายสำคัญของการธำรงและเผยแพร่วัฒนธรรมไทยและพระพุทธศาสนาในเขตเบย์แอเรียอย่างเป็นรูปธรรม

ในค่ำวันเดียวกันนั้น สมเด็จพระพันปีหลวงยังได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรม ราชานุญาตให้พสกนิกรชาวไทยในเขตนครซานฟรานซิสโกและบริเวณเบย์แอเรียเข้าเฝ้าฯ ณ โรงแรมที่ประทับ ใจกลางนครซานฟรานซิสโก เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่ปลาบปลื้มปีติของชุมชนไทยในต่างแดนอย่างยิ่ง และเป็นสิ่งที่ชุมชนไทยในพื้นที่นั้นน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ตราบจนปัจจุบัน

ในมิติส่วนบุคคล ผู้เขียนได้รับมอบหมายภารกิจจากสถานกงสุลไทย ผ่านคุณพิศักดิ์ จักกะพาก ผู้ประสานงานกับสถานกงสุลไทยประจำนครลอสแอนเจลิส ให้ไปพักและปฏิบัติหน้าที่ประจำอยู่ ณ ห้องประชาสัมพันธ์ของสมาคมไทย ร่วมกับคุณบุญศิริ โด–นอม โดยมีเพื่อนๆ จากสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคเหนือ ผลัดเปลี่ยนกันมาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลและการประสานงานกับสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ในขณะนั้นคุณอุไร หาญสมุทร ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมไทย

เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นความทรงจำอันล้ำค่าที่ผู้เขียนเชื่อว่าจะไม่มีวันเลือนหายไปจากชีวิต คือทุก ครั้งก่อนที่สมเด็จพระพันปีหลวงจะเสด็จพระราชดำเนินออกจากที่ประทับ ท่านกงสุลชอบ (กราบขออภัยที่ผู้เขียนจำนามสกุลท่านไม่ได้) จะกรุณาแจ้งแก่คณะทำงานว่า พระองค์ท่านกำลังจะเสด็จลงมาแล้ว คณะของผู้เขียนก็จะพร้อมใจกันออกมาเข้าเฝ้ารับเสด็จทุกครั้ง

เมื่อเสด็จฯ ลงมาทุกครั้ง สมเด็จพระพันปีหลวงทรงมีพระราชปฏิสันถารด้วยพระสุรเสียงอ่อนโยนไพเราะ อันยังคงก้องอยู่ในความทรงจำของผู้เขียนและผู้ที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ จนถึงวันนี้ ตัวอย่างเช่น พระราชปฏิสันถารที่ว่า

“มาเฝ้ากันทุกวัน ไม่เหนื่อยกันหรือคะ” และ “คนซานฟรานนี่ สวยๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ”

คำตรัสอันเปี่ยมด้วยพระเมตตาเช่นนี้สร้างความปลาบปลื้มปีติอย่างหาที่สุดมิได้ พสกนิกรที่เฝ้ารับเสด็จต่างพากันทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ก้มกราบแทบพระบาทด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นประสบการณ์ที่ผู้เขียนน้อมเก็บรักษาไว้ในดวงใจอย่างลึกซึ้ง และเชื่อมั่นว่าเป็นประสบการณ์ที่ “จะไม่มีวันลืมเลือนตลอดชีวิต”

ในช่วงเวลาหลังการเสด็จสวรรคต ชุมชนไทยในเขตเบย์แอเรียได้ร่วมกันจัดกิจกรรมทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ วัดพุทธานุสรณ์ เมืองฟรีมอนต์ โดยมีการจัดงานทำบุญสวดพระอภิธรรมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลในวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568 และในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 มีการทำบุญสวดพระอภิธรรมครบกำหนด สัตตมวาร เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลอีกครั้งหนึ่ง

กิจกรรมดังกล่าวมิได้เป็นเพียงพิธีกรรมทางศาสนา หากยังสะท้อนให้เห็นถึงความจงรักภักดี และความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพสกนิกรชาวไทยในต่างแดน ที่มีต่อสมเด็จพระพันปีหลวงอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

ในนามของผู้เขียนคอลัมน์ “บันทึกจากเบย์แอเรีย” ขอน้อมส่งเสด็จ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สู่สวรรคาลัย พร้อมทั้งน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และขอถือโอกาสนี้บันทึกความทรงจำในครั้งนั้นไว้ในเชิงประจักษ์พยานทางประวัติศาสตร์ของชุมชนไทยในเขตเบย์แอเรีย ซึ่งล้วนสะท้อนถึงสายใยแห่งความผูกพันระหว่างพระมหากษัตริย์ไทยกับพสกนิกรในต่างแดนอย่างลึกซึ้งและยั่งยืน