บันทึกจากเบย์แอเรีย
เพ็ญวิภา โสภาภันฑ์



บันทึกจากเบย์เอเรีย 30 พฤศจิกายน 2556

สวัสดีครับ แฟนานุแฟน บันทึกเบย์แอเรียฉบับนี้ พี่แมว “เพ็ญวิภา” เจ้าของคอลัมน์มีภารกิจที่เมืองไทย จึงได้มอบหมายให้ผมเป็นผู้บันทึกแทนไปก่อน จนกว่าเจ้าตัวจะหมดภาระ และกลับมาบันทึกเรื่องราวในเบย์แอเรียให้ท่านได้อ่านกันต่อไป

ภารกิจของพี่แมวเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่คือ “การส่งนางฟ้าสู่สววรค์” นั้นคืองาน “ฌาปณกิจศพ คุณแม่อรวรรณ ปิยวิทยาการ” คุณแม่บังเกิดเกล้า ในวันเสารที่ 30 พฤศจิกายน 2556 ณ เมรุวัดธาตุทอง กทม. คุณแม่เสียชีวิตในวัน เวลา ที่ใกล้เคียงกับที่ สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สวรรคต แม้เลือกเกิดในวันเวลาเดียวกันมิได้ แต่ได้ละโลกและสังขาร ในเวลาอันใกล้เคียงกับผู้ที่มีบุญญาธิการ ถือว่าเป็นกุศลอย่างยิ่ง กระผมขอแสดงความไว้อาลัยและเสียใจในการจากไปของคุณแม่อรวรรณ ไว้โอกาสนี้

ผมมิได้รู้จักกับคุณแม่อรวรรณเป็นการส่วนตัว แต่รู้จักเรื่องราวของคุณแม่จากตัวพี่แมว ความจริงพี่แมวก็ไม่ได้เล่าอะไรเกี่ยวกับคุณแม่ให้ผมฟังมากนัก แต่ดูจากตัวพี่แมวแล้ว ก็สามารถสื่อไปถึงคุณแม่ได้ว่าเป็นคนอย่างไร ถึงจะไม่คล้ายก็คงละม้ายพี่แมวอยู่บ้าง อย่างที่โบราณว่า “ดูวัวให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่” พี่แมวน่ารัก เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีจิตใจสาธารณะ ช่วยเหลือสังคมอย่างไร คุณแม่ก็เป็นอย่างนั้น เพราะท่านปั้นพี่แมวมากับมือ แม้ผมจะไม่ได้มีโอกาสไปร่วมงานครั้งนี้ ก็ขอภาวนาเอาแรงใจแรงบุญกุศล “ส่งนางฟ้าสู่สววรค์” ด้วยนะครับ

ต่อไปคงเป็นบันทึกเรื่องราวของงาน King’s Gala Night ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม นี้ ณ Marriott Hotel, San Mateo, (ใกล้ San Francisco Airport) แม้ว่าบันทึกนี้จะมาไม่ทันผู้อ่านในสังคมเบย์ แอเรีย แต่ก็คงมีประโยชน์ที่ท่านจะได้รับรู้ งาน King’s Ball หรืองานวันเฉลิมพระชนมพรรษาขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดช ในหลวง พ่อหลวง ของปวงชนชาวไทย เป็นงานที่สมาคมไทยฯ จัดกันมาอย่างยาวนานทุกปี จัดว่าเป็นงานประเพณี เป็นภาระเป็นหน้าที่ของนายกสมาคมฯ จะต้องจัดกันทุกสมัย ไม่ว่าจะมีคนมากน้อยอย่างไรก็ต้องจัดเป็นการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี มิใช่เพราะท่านเป็นพระประมุขของชาติเท่านั้น แต่ท่านเป็นพ่อที่รักเคารพ เทิดทูนบูชาของลูกๆ คือพสกนิกรชาวไทยอย่างเรา คนที่เรารัก เราก็อยากให้ท่านอยู่กับเรานานๆ

งานปีนี้เราจัดกันเหมือนเดิม ท่านกงสุลใหญ่ ณ นครแอนเจลิส ได้มอบหมายให้ท่านกงสุลบรรณา วังวิวัฒน์ มาเป็นประธานในพิธีเปิดกรวย อ่านคำอาศิรวาท ร้องเพลงสดุดีมหาราชา ดื่มถวายพระพร การแสดงนาฏศิลป์รำถวายพระพร ลีลาศเต้นรำ เหมือนเดิม แต่ปีนี้เรามีแขกพิเศษระดับ วีไอพี คือ..ท่านผู้หญิงหม่อมเจ้าพันธ์สวลี กิติยากร ท่านได้ให้เกียรติมาเป็นประธานจุดเทียนชัย ม.ร.ว.จิราคม กิติยากร เป็นแขกรับเชิญและเป็นนักร้องกิตติมศักดิ์ ท่านร้องเพลงได้หลากหลาย โดยเฉพาะสไตล์แอลวิส Rock ’n Roll ผมได้ชมได้ฟังแล้ว คุณชายเป็นนักร้องอาชีพได้สบายๆ แขกวีไอพีอีกท่านหนึ่งคือ Senator Leland Yee Ph.D ท่านเป็นวุฒิสมาชิกของรัฐแคลิฟอร์เนีย จะมาร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรด้วย ท่านบอกว่า ท่านรักในหลวงของเรา และอยากจะมาพบปะกับชุมชนสังคมไทย

คุณสมชาย ไทยทัน ประธานมูลนิธิธารน้ำใจ นำวงดนตรี “ธารน้ำใจ” จากแอลเอ มาร่วมกับวงของ คุณเปิ้ล-อธิป ปิ่นโมรา ขับกล่อมบรรเลงในสไตล์เพลงเต้นรำลีลาศ โดยมีศิษย์เก่าดาวรุ่งของวงสุนทราภรณ์ คุณไก่-สุพรรณิกา ฉายาพันธ์ มาร้องรำทำเพลงให้ท่านได้สนุกสนาน เตรียมมาอย่างน้อยกว่า 40 เพลง สนุกสนานกันให้จุใจเป็นที่ประทับใจมิลืมเลือน

มิใช่แต่เพียงเท่านี้ บิ๊กบ๊อสแห่ง Nat.tv. พี่เบ็ญ-บัญญัติ นพคุณ ต่อสายตรงถึงนายกสมาคมฯ บอกว่าจัดงานให้แกรนด์หน่อย เพราะพี่ได้ส่งช่างภาพฝีมือดี นูโน่-สุรสีห์ มาบันทึกภาพถ่ายและวีดิทัศน์ ซึ่งจะต้องเตรียมการส่งไปร่วมกับทีวีรวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ซึ่งจะออนแอร์ในวันที่ 5 ธันวาคม ในประเทศไทยและต่างประเทศ สายตาชาวไทยนับล้านทั่วโลก ที่จะได้ชื่นชมพระบารมีของในหลวง และได้ชมภาพวีดีทัศน์จากอเมริกา ซึ่งซานฟรานซิสโก เบย์แอเรียของเรานับได้ว่าเป็นหนึ่งที่ได้เลือกสรรแล้ว พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ขอให้ทุกท่านแต่งกายสุภาพเรียบร้อยนะครับ เพราะจะได้เป็นที่ชื่นชมสมพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน และแขกผู้ใหญ่ที่มาร่วมงาน

ต่อไปนี้ขอบันทึกความในใจของผม ซึ่งได้รับตำแหน่งนายกสมาคมฯ มาถึงวันนี้ก็ครบวาระ 2 ปีแล้ว ก็รับภาระทำงานมาด้วยความเต็มใจ แม้จะได้ไม่เต็มร้อย แต่ก็ตั้งใจทุ่มเทให้กับกิจกรรมของสมาคมฯ รับใช้ชุมชนสังคมไทยมาตลอดเวลา 2 ปี สุภาษิตว่า “งานเลี้ยงย่อมวันเลิกรา” หมดเวลาของผมแล้วก็ต้องขอตัว เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ไฟแรง มีกำลัง มีสติปัญญา เข้ามาบริหาร มารับใช้สังคมสืบต่อจากผม มีหลายท่านขอให้ผมอยู่เพื่อสานงานสมาคมฯ ต่อไป กิจกรรมจะได้ต่อเนื่อง ความหวังดีปรารถนาดีของท่านผมขอน้อมรับด้วยใจ แต่ด้วยวัยและสังขารอันโรยรา ที่เขาเรียกว่าวัย “กล้วยไม้” และเรื่องธุรกิจที่ขาดผู้ยลบริหารจัดการ เรื่องครอบครัว และการเดินทางไกล ณ วันนี้ต้องขอพักก่อนขอรับ แต่มิได้หมายความว่าจะละทิ้งไปไหน สังคมไทยเรายังอบอุ่นอบอวลด้วยความรักใคร่สามัคคี ผมยังอยู่ช่วยเหลือครับ แต่ขอเป็นผู้สนับสนุน

ที่ผ่านมาตลอดเวลา 2 ปี ผมขอขอบคุณคณะกรรมการ “ยังเติร์ก” ทีมงานคนหนุ่มสาวไฟแรง และผู้อาสาสมัครที่มาช่วยขับเคลื่อนผลักดันสมาคมฯ ให้ล้อหมุนลื่นไหลรับใช้มวลชน ความจริงก็แพลนที่จะให้คนหนุ่มสาวขึ้นมารับงานต่อ แต่ทุกคนบอกว่า วุฒิภาวะยังไม่พอ ก็ต้องให้คนแก่เข็นกันต่อไป จะนอนหยอดน้ำเกลือรอ ผู้มีวุฒิภาวะขึ้นมารับตำแหน่ง ลูกหลานเอ๋ย วุฒิภาวะและบารมีเราต้องสร้างกันเอง ไม่ต้องรอเวลาและหาคนมาสร้างให้ สังคมเราต้องการคนเก่ง คนดี คนที่เสียสละ ถ้าลูกหลานไม่สานต่อ แล้วจะให้ใครมาทำ ฝากไว้ ฝากไว้ให้คิด

ผมขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้การอุปถัมภ์สนับสนุนกิจกรรมของสมาคมฯ ด้วยดีตลอดมา ผมซาบซึ้งและประทับใจทุกครั้งที่ได้จัดงาน ได้ร่วมงานกับท่านทั้งหลาย สมาคมฯแม้จะไม่ยิ่งใหญ่ ไม่มีสถานที่รับรอง แต่เราก็ขับเคลื่อนกิจกรรมของเรารับใช้ชุมชนไทยได้อย่างอบอุ่น อย่างงาน King’s Ball, Queen’s Ball งานโบว์ลิ่ง งานกีฬา และกระทั่งงานสงกรานต์ที่ผ่านมา เราได้มาร่วมพบปะสังสรรค์ ได้พบญาติสนิทมิตรสหาย สนุกนานรื่นเริงบันเทิงใจ นับว่าเป็นความประทับใจ ชื่นใจ ด้วยมิตรภาพอันอบอุ่น เก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีงาม ผมว่าสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่ยิ่งใหญ่ในความทรงจำ จะมีอะไรเล่าครับ ชีวิตเราล่วงเลยผ่านไปๆ ถ้าอยู่กับสิ่งที่ดีงาม ความทรงจำที่งดงาม ก็หาความสุขได้ไม่อยาก

อย่าลืมนะครับ..พบกันวันงาน “ราตรีรวมน้ำใจ เทิดไท้องค์ราชันย์” สละเวลาเพียงเล้กน้อย ออกมาพบปะสังสรรค์รื่นเริงและร่วมถวายพระพรชัยให้ “พ่อหลวง” ของเรา ทรงพระเจริญฯ สวัสดีครับ พบกันฉบับหน้า


วัลลภ คชินทร รายงาน