เรื่องเล่าจากล่าม 8 ตุลาคม 2559

สัปดาห์นี้ ขอขอบคุณล่ามจั๊ม (คุณอาภัณตรี ปุระเทพ) ล่ามคนไทยจากเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน ที่ส่งเรื่องมาแบ่งปันประสบการณ์การเข้าเป็นผู้รับการฝึกอบรม Lynnwood Citizen Academy เมื่อต้นปี 2016 นี้ สำหรับผู้เป็นล่ามแล้ว ถ้ามีโอกาส ควรไปสมัครลองดูนะคะ สามารถสมัครได้ทุกรัฐ จะเป็นประสบการณ์ที่ดีและจะได้ช่วยให้เห็นภาพพจน์หลายๆ อย่างได้ดีขึ้นค่ะ


...............................

ประสบการณ์ในการนั่งรถไปกับตำรวจสายตรวจ สน. ลินน์วูดของข้าพเจ้า

โดยทั่วไปนั้นการนั่งรถไปกับตำรวจปฏิบัติหน้าที่สายตรวจ (Ride-along) จัดให้มีขึ้นสำหรับพลเมืองที่จะใช้เวลาในการทำงานหนึ่งกะไปกับการนั่งรถในที่นั่งผู้โดยสารไปกับรถสายตรวจของตำรวจ เพื่อสังเกตการปฏิบัติงานในวันหนึ่ง ๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นสิทธิอันชอบธรรมของพลเมืองอเมริกันที่สามารถจะกระทำได้ โดยในหนึ่งปีพลเมืองสามารถนั่งได้หนึ่งครั้ง พอครบกำหนดก็สามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมนี้ใหม่ได้ โดยข้อกำหนดเบื้องต้นคือการเป็นพลเมืองดี ผ่านการสอบประวัติอาชญากรรมแล้ว (ผ่านค่ะ :))

สำหรับประสบการณ์ตรงของผู้เขียนในการนั่งรถไปกับสายตรวจนั้น ผู้เขียนได้มีโอกาสดี ๆ เช่นนี้ในวันอังคารที่ 22 เดือนมีนาคม 2016 ตั้งแต่เวลาหนึ่งทุ่ม – ห้าทุ่ม รวมเป็น 4 ชั่วโมง การนั่งรถไปกับสายตรวจครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสน. ลินน์วูดชื่อจอร์จ บิวโคลทซ์ (Officer George Bucholtz) ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจในคืนดังกล่าว กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จัดให้สำหรับผู้เข้าอบรม Citizen Academy กับสำนักงานตำรวจวินน์วูด (Lynnwood Police Department) กิจกรรมนี้เปิดให้เข้าร่วมโดยสมัครใจ และเนื่องจากผู้เขียนชอบแนวบู๊ ดุเด็ดเผ็ดมัน จึงนับว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ทำความเข้าใจได้ดีขึ้นเกี่ยวกับขอบเขตในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สายตรวจ

ก่อนออกตรวจนั้น นายตำรวจท่านนี้ก็ทำการสรุปแบบสั้น ๆ ให้ผู้เขียนฟังเกี่ยวกับงานสายตรวจ ความเสี่ยง ซึงรวมถึงข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามต่าง ๆ สถานที่จัดเก็บเครื่องมือปฐมพยาบาล คบไฟว่องสว่าง (flare) อุปกรณ์ดับเพลิงติดรถยนต์ กุญแจรถสำรอง และชุดวิทยุสื่อสารของตำรวจ ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าผู้เขียนจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้แต่ถ้ารู้เผื่อไว้ก็น่าจะเป็นการดี ผู้เขียนคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นระเบียบปฏิบัติมาตรฐาน จนท. บิวโคลทซ์ยังบอกผู้เขียนเกี่ยวกับนามเรียกขาน (call sign) สำหรับรถสายตรวจคันนี้ ซึ่งก็คือ 62L1 (ออกเสียงว่า ซิก-ทูว์ -ลิงคอล์น-วัน) ซึ่งได้รับการกำหนดให้สำหรับรถคันที่พวกเรานั่งคันนี้เท่านั้น นามเรียกขานนี้ใช้ในการติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ที่ประจำการในช่วงเวลานั้น นามเรียกขานมีประโยชน์มาก หากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นข้าพเจ้าได้รับอนุญาตให้ใช้วิทยุสื่อสารที่อยู่ในรถตำรวจนี้เรียกขอความช่วยเหลือ หรือขอกำลังสนับสนุนได้ทันที อืมมมนะ...เจ๋งไปเลย

เสร็จจากการบรรยายสรุป รวมถึงการรับทราบถึงอันตรายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในการนั่งรถออกปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนี้ และเซ็นเอกสารแสดงการสละสิทธิที่จะเรียกร้องค่าเสียหายแล้ว พวกเราก็เริ่มต้นด้วยการติดตามผลการแจ้งเหตุเรื่องคนหาย บุคคลที่สูญหายที่ญาติแจ้งเข้ามานั้นเป็นสตรีอายุสิบเก้า หายตัวไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 18 ที่ผ่านมา เมื่อเรามาถึงยังสถานที่ที่เป็นที่อาศัย ปรากฎว่าบุคคลผู้ที่แจ้งเหตุเข้ามานั้นไม่อยู่บ้าน ดังนั้นจนท.บิวโคลทซ์จึงเขียนรายงานการติดตามผลว่าไม่สามารถติดต่อบุคคลผู้ที่แจ้งเหตุเข้ามานั้นได้

จนท.บิวโคลทซ์ยินดีในการตอบทุก ๆ คำถามที่ผู้เขียนถาม มีตอนหนึ่งที่ผู้เขียนถามว่าโดยทั่วไปแล้วนั้นการที่มีผู้โดยสาร (เช่นเดียวกับพวกเราที่กระทำอยู่นี้) เป็นอุปสรรคสำหรับเขาในการปฏัติหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายหรือไม่ เขาตอบว่าการมีผู้โดยสารนั่งมาด้วยนั้นทำให้เขาตระหนักและรับรู้ถึงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ซึ่งก็แตกต่างจากการขับรถออกปฏิบัติงานคนเดียวเล็กน้อย เขาบอกว่ากิจกรรมการนั่งรถไปกับสายตรวจนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องและเป็นประสบการณ์ที่สำคัญและมีความหมายของผู้ที่นั่งมาด้วย จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ซึ่งก็นับว่าเป็นการดีทีเดียวที่เจ้าหน้าที่เข้าใจ

นับว่าเป็นคืนที่เชื่องช้า ไปเรื่อย ๆ ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้น จนท.บิวโคลทซ์จึงค้นหาข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งไว้ในรถสายตรวจ พบว่ามีคดีที่ยังค้างคาอยู่จากสำนักงานตำรวจสโนโฮมิชเคาน์ตี (Snohomish County Sheriff Office หรือเรียกย่อว่า SCSO) ซึ่งร้องขอให้สน. ลินน์วูดติดตามเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนทางโทรศัพท์จากสตรีผู้หนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเธอสามารถกำหนดหาจุดพิกัดที่อยู่ที่ไอแพดของเธอที่ถูกโขมยไปได้ บ้านของเธอถูกทุบและข้าวของถูกโขมยเมื่อสัปดห์ที่แล้ว และคนร้ายได้โขมยทรัพย์สินส่วนตัวของเธอไปมากมาย รวมทั้งแล็บท็อป และไอแพดด้วย จนท.บิวโคลทซ์ได้สอบถามถึงเลขอนุกรมของไอแพด (serial number) และขอให้เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่รับโทรศัพท์และแจ้งการส่งกำลังตำรวจออกไปปฏิบัติหน้าที่ (dispatch) ให้ติดตามค้นหาเครื่องตามเลขอนุกรมนั้น เรื่องกลับกลายเป็นว่าสถานที่ที่แสดงให้เห็นนั้นเป็นสถานเก็บของกลางของตำรวจของสน.ลินน์วูดเอง พวกเราจึงกลับไปที่สถานีตำรวจเพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบันทึกการรับและจัดเก็บหลักฐานและของกลาง ในบันทึกแสดงให้เห็นว่าคนร้าย ซึ่งอาจมีคนเดียวหรือหลายคนได้ทิ้งกระเป๋าที่บรรจุไอแพดที่ตนโขมยมาไว้ที่สถานโบว์ลิ่งและสเกตลินน์วูด (Lynnwood Bowling Skate) เนื่องจากพวกเขารู้ว่าในไอแพดนั้นมีแอพพลิเคชันติดตามตัว (คราวนี้เจอโจรฉลาด 5555) จนท.บิวโคลทซ์จึงโทรศัพท์แจ้งใหผู้ที่แจ้งเหตุเข้ามาทราบว่าให้เธอรอรับจดหมายแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับหลักฐาน และเธอสามารถนำจดหมายฉบับนี้ไปยื่นเพื่อขอรับไอแพดได้ในสัปดาห์หน้า

เวลาประมาณ 21:17 น. เรากลับออกไปทำหน้าที่สายตรวจอีกครั้ง ขณะที่ออกตรวจเราได้ยินจากวิทยุตำรวจว่าไม่ไกลจากที่เราอยู่นักมีการเรียกรถให้หยุดเพื่อตรวจ (traffic stop) โดยรถของเจ้าที่สายตรวจอีกคันหนึ่ง ดังนั้นเราจึงทำหน้าที่เป็นกำลังสนับสนุน “backing” จนท.บิวโคลทซ์ได้กรุณาอธิบายให้ฟังว่าเป็นกำลังสนับสนุนการเรียกรถให้หยุดเพื่อตรวจนั้นสำคัญมาก เหตุผลประการหนึ่งก็คือช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่นายอื่นดำเนินการการเรียกรถให้หยุดเพื่อตรวจได้อย่างปลอดภัย และในบางกรณีนั้นช่วยได้ในแง่ที่ทำให้ผู้ขับขี่ยวดยาน ต้องคิดแล้วคิดอีกให้รอบคอบหากเขาหรือเธอกำลังคิดแผนในการต่อสู้ ขัดขืน หรือขับรถหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเรามาถึงจุดที่เจ้าที่สายตรวจอีกนายกำลังดำเนินการการเรียกรถให้หยุดเพื่อตรวจ เจ้าหน้าที่นายนั้นส่งสัญญาณมือ “code 4” อ่านออกเสียงว่า “โค้ดฟอร์” พร้อมทำนิ้วมือประกอบ 4 นิ้วโดยการเก็บพับนิ้วหัวแม่มือไว้ ซึ่งหมายความเขาปลอดภัยดี

ผู้เขียนถามจนท.บิวโคลทซ์ว่ามีรหัสอื่นที่ใช้ในการสื่อสารในบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยกันอีกหรือไม่ เขายังอธิบายเพิ่มเติมดังนี้

โค้ดวัน (Code 1) – เป็นการตอบสนองต่อเหตุการณ์ตามปกติ ต้องการเจ้าหน้าที่สนับสนุนเพิ่ม 1 นาย

โค้ดทูว์ (Code 2) – ต้องการเจ้าหน้าที่สนับสนุนเพิ่ม 2-3 นาย ให้มาถึงที่เกิดเหตุโดยด่วนที่สุด พร้อมใช้ไฟขอทางที่ติดตั้งบนหลังคารถ

โค้ดทรี (Code 3) – ส่งกำลังสนับสนุนทุกนายในสน.เท่าที่จะกระทำได้


ตามที่ขียนได้กล่าวไว้ข้างต้น ดูเหมือนจะเป็นคืนที่ดำเนินไปเรื่อย ๆ ไม่มีเหตุรุนแรง พวกเราขับรถครอบคลุมพื้นที่ทางภูมิศาสตร์เมืองลินน์วูด จากเหนือจรดใต้ และจากฝั่งตะวันออกไปจนถึงตะวันตก ถึงแม้ว่าพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายให้ออกตรวจจะเป็นเพียงเขต 1 ก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 22:09 น. มีสายเรียกเข้ามาจากศูนย์วิทยุ แจ้งว่าหญิงผู้แจ้งเหตุบอกว่าเธอลืมกุญแจไว้ในบ้าน และมีอาหารที่กำลังอบอยู่ในเตาอบ หลานชายของสตรีชราผู้นี้มาจะยังไม่กลับถึงบ้านเร็ว ๆ นี้ เมื่อเรามาถึงสถานที่ตามที่อยู่ที่แจ้งเหตุ ก็ปรากฏว่าทำอะไรได้ไม่มาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สมควรที่จะเตะพังหน้าต่างหรือประตูบ้านเข้าไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็ได้เดินดูรอบ ๆ ตัวบ้านและมองเข้าไปเพื่อดูว่ามีควันไหม้ออกมาจากเตาอบหรือไม่ ในขณะนั้นทุกอย่างดูเป็นปกติ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยโทรศัพท์หาช่างทำกุญแจ และช่างรายที่สองที่เขาโทรศัพท์ถึงได้ตกลงที่จะออกมาพบเพื่อตกลงราคาในการบริการปลดล็อคประตูบ้านกับผู้แจ้งเหตุ ดังนั้นเราจึงออกไปจากที่เกิดเหตุ ก่อนออกไปเจ้าหน้าที่ได้บอกผู้แจ้งเหตุว่าหากสังเกตุเห็นควันไฟให้เธอรีบแจ้ง 911 ทันที