สอนภาษาไทยให้นักเรียนต่างชาติครั้งแรกในชีวิต

ตอนเดินทางไปประเทศฝรั่งเศสข้าพเจ้าอายุ 18 ปี ความขี้อายยังคงอยู่ และคราวนี้ไม่มีโอกาสได้ใช้ภาษาที่ถนัดอีกต่อไปเพราะนักเรียนต่างชาติที่มาก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือเรียนภาษาฝรั่งเศส การหาเพื่อนก็ยิ่งยากเป็นทวีคูณด้วยที่ภาษาฝรั่งเศสก็ยังไม่ได้ ภาษาอังกฤษก็ไม่ค่อยมีใครพูด แต่ด้วยความที่หน้าตาเอเชียและแน่นอนเพื่อนๆ รู้ว่าเราไม่ใช่คนจีนหรือญี่ปุ่น

เพื่อนๆ ก็เริ่มสนใจในตัวเรา ยิ่งพอบอกว่ามาจากประเทศไทย ทุกคนก็ตาโตตื่นเต้นเพราะประเทศไทยในสายตาเพื่อนฝรั่งตอนนั้นคือสวรรค์ของการไปท่องเที่ยวแบคแพคและอาหารชั้นเลิศ ด้วยวัยที่ใกล้ๆ กัน 17-23 ปี เพื่อนๆ เริ่มสนใจเรื่องราวในประเทศเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรมและภาษาไทย ในห้องมีเพื่อนๆ ประมาณ 25 คนแต่คนที่สนิทด้วยจะมีอยู่ 5-6 คนพวกเราวางแผนว่าทุกๆอาทิตย์

เราจะหมุนเวียนไปบ้านของแต่ละคนเพื่อนทำอาหารประจำชาติและสอนภาษา ท้องถิ่นให้กัน นั่นก็คือคลาสแรกในชีวิตที่มีโอกาสได้สอนภาษาไทยให้เพื่อนๆ ฝรั่ง ข้าพเจ้าเรียนภาษาฝรั่งเศสอยู่หนึ่ง ปีแต่แล้วก็เหมือนว่าข้าพเจ้าพยายามไม่เพียงพอทำให้สอบที่ฝรั่งเศสไม่ติด ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้ยื่นคะแนนรอผลจาก

แอดมิชชั่นไทยในคณะเดิม (แบบครั้งแรก) ซึ่งผลออกมาปรากฏว่าไม่ได้ และสอบติดอันดับที่ 2 คือมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อีกครั้ง


เริ่มต้นงาน "ครูภาษาไทยฝึกสอน"

เพราะความผิดหวังซ้ำซากจากการสอบแอดมิชชั่นถึง 3 ปีติดๆ กัน ทำให้ข้าพเจ้าตัดสินใจหางานทำ แต่ด้วยว่ามีแค่วุฒิม.6 จึงทำให้ไม่สามารถเลือกงานได้มากนัก งานแรกคือการได้ทำงานในร้านขายงานศิลปะที่ งานนี้เป็นกึ่งงานขายและประชาสัมพันธ์ โดนสัมภาษณ์งานอยู่ 5 วัน แต่งานนี้ก็ทำได้แค่ 1 เดือนก็โดนกดดันให้ออกเหตุเพราะเพื่อนร่วมงานไม่พอใจที่เราวุฒิการศึกษาต่ำกว่าแต่นายจ้างให้เงินเดือนที่สูงกว่า

ถึงแม้นายจ้างจะชี้แจงว่าทักษะด้านภาษาของข้าพเจ้าเป็นประโยชน์ต่องานของบริษัท แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ทุกคนเข้าใจได้ หลายคนกลับรู้สึกไปว่าตัวเองโดนเอาเปรียบ เจ้านายจึงต้องจำใจก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้ อนึ่งข้าพเจ้าไม่เคยเล่าเรื่องเงินเดือนให้ใครฟัง จนวันที่บริษัทเรียกให้มารับค่าจ้างที่เหลือ จึงมีพี่บัญชีเดินมาขอโทษและบอกว่าตนเป็นคนบอกคนอื่นๆ เอง

หลังว่างงาน 1 อาทิตย์ข้าพเจ้าก็เจองานที่อยากทำในที่สุด นั่นก็คือการสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติที่โรงเรียนสอนภาษาชื่อดังแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิทที่เพิ่งมา

เปิดสาขาที่เชียงใหม่ ข้าพเจ้าไม่รอช้ายื่นสมัครพร้อมสัมภาษณ์กับผู้สมัครอีกราว 20 กว่าคนพร้อมๆ กันทีเดียว ในเวลานั้นค่อนข้างกดดันและอึดอัด แต่ข้าพเจ้าคิดว่าตนเองสามารถทำได้เป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง ตำแหน่งครูผู้สอนนี้เปิดแค่ 2 ตำแหน่ง หลังการสัมภาษณ์ข้าพเจ้าค่อนข้างพอใจและมั่นใจในตัวเอง

พอสมควรซึ่งเจ้านายก็เห็นด้วยและเลือกให้ข้าพเจ้าเป็นหนึ่งในนั้นและไปนั่งอบรมการเรียนการสอนระบบโรงเรียนเพื่อเตรียมการสอนอย่างเต็มตัว แต่แล้วก็เหมือนโดนกลั่นแกล้งอีกครั้งเมื่อเจ้านายฝรั่งพบว่าเรามีวุฒิการศึกษาแค่ ม.6 และขอต่อรองเงินเดือน ที่ตอนแรกระบุไว้ว่าหมื่นต้นๆ แต่นั้นคือสำหรับวุฒิปริญญาตรี เค้าไม่สามารถให้ได้ และต่อรองเหลือแค่หลักพันตาม โครงสร้างของบริษัท ข้าพเจ้าค่อนข้างเสียดายแต่เมื่อคิดว่า จริงๆ แล้วความสามารถเราก็มี ทำไมเราถึงไม่ลองลงมือสอนเองเสียเลย


นักเรียนออนไลน์คนแรก

เมื่อ 11 ปีก่อน เฟซบุคเพิ่งจะเริ่มต้นและยังไม่เป็นที่นิยมในไทยเหมือนทุกวันนี้ แต่ในฝรั่งเศสตอนนั้นเพื่อนๆ ทุกคนมี ทำให้ข้าพเจ้าและเพื่อนที่อยู่ฝรั่งเศสติดต่อสื่อสารกันอยู่ ระหว่างนั้นข้าพเจ้าก็ได้งานทำเป็นงาน

ในร้านอาหารจนวันหนึ่งได้เห็นข้อความจากเพื่อนชาวฝรั่งเศสว่าอยากเรียน

ภาษาไทย (ในฝรั่งเศส) ให้เราช่วยหาให้เพราะเค้ากำลังจะเดินทางมาแบกแพคคนเดียวที่ประเทศไทยหนึ่งเดือน ด้วยความที่ไม่รู้จักคนไทยในฝรั่งเศสและเมืองที่เพื่อนอยู่ก็ไม่มีโรงเรียนสอนภาษาไทยข้าพเจ้าจึงอาสาสอนภาษา

ไทยให้เพื่อนผ่านทางออนไลน์ อีเมล์บ้าง แชทข้อความบ้างโดยคิดราคาค่าสอนเป็นโปสการ์ดจากเมือง หรือประเทศต่างๆ ที่เค้าไปเที่ยวและแลกเปลี่ยนการสอนภาษาฝรั่งเศสเพื่อไม่ให้เราลืม


การสอนภาษาไทยอย่างจริงจัง

หลังจากทำงานในร้านอาหารไปด้วยและสอนให้เพื่อนชาวฝรั่งเศสคนนี้ข้าพเจ้าก็ได้ย้ายไปทำงานที่กรุงเทพฯ และที่นี่เองที่ทำให้มีรายได้เสริมจากการสอนภาษาไทยข้าพเจ้าได้ทำงานประจำอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่าน

สุขุมวิท ซึ่งครั้งนี้ได้ทำตำแหน่งในออฟฟิศ ด้วยความที่ในบริษัทมีทั้งพนักงานและเจ้านายต่างชาติหลายคน ข้าพเจ้าจึงทำหน้าที่กึ่งล่ามกึ่งสอนภาษาไทยให้ เพื่อนร่วมงานโดยขัดเสียไม่ได้ หลายครั้งที่เพื่อนๆ ก็พาไปทานข้าวหรือให้เงินเล็กๆ น้อยๆ เป็นสินน้ำใจตอบแทน ข้าพเจ้าทำงานอยู่ในออฟฟิศ ได้ไม่นานก็ลาออกเพราะไม่ถนัดงานด้านเอกสารการตอกบัตรทำงานเลยจริงๆ ความคิดการสอนภาษาไทยจึงกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ข้าพเจ้าเพิ่ม

ความถนัดอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือการรับจ้างเขียนรายงาน เรียงความ และทำการบ้านภาษาไทย (ซึ่งผิดมากๆ แต่ ณ ตอนนั้นคิดแค่ว่าความสามารถเราสามารถทำรายได้เป็นอาชีพได้) ข้าพเจ้าทำป้ายติดตามที่ที่ให้ลงโฆษณา ตามห้างร้านและมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นก็มีคนติดต่อมาเรื่อยๆ ข้าพเจ้าเริ่มสอนภาษาไทยอย่างจริงๆ จังๆ ผ่านการแชท Messenger แต่กระนั้นก็มีนักเรียนต่างชาติแค่สองคนมีการรับสอนตามร้านกาแฟแต่ก็ไม่ประสบ

ความสำเร็จเท่าที่ควรเพราะด้วยความที่ยังเด็กอายุแค่ 20 ต้นๆ และไม่ได้จบทางด้านการสอนภาษาไทยมาโดยตรง นักเรียนบางคนก็ถามว่าจบมาทางนี้หรือไม่ ทำให้นักเรียนที่มาเรียนบางคนก็ไม่ค่อยเชื่อถือในความสามารถ เรียนครบครั้งก็ไม่เรียนต่อ ข้าพเจ้าจึงเริ่มหารายได้เพิ่มจากการรับแปลอีเมล์ภาษาอังกฤษภาษาไทยให้สาวๆ ที่ทำงานกลางคืนละแวกนั้น ข้อความละ 20-50 บาท ก็เป็นงานที่ทำรายได้ในช่วงเวลาสั้นๆ