งานล่ามทำให้ฉันมีอิสระเรื่องเวลา Time Freedom as an Interpreter

สิ่งที่ฉันชอบที่สุดเกี่ยวกับการทำงานเป็นล่ามอิสระคือ "เรื่องเวลา" ฉันมีเวลาที่จะทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ตัวเองชอบได้ ทำให้ฉันสามารถบริหารจัดการเวลาสำหรับชีวิตของตัวเองได้

ฉันโชคดีที่ได้ตัดสินใจมาทำงานด้านภาษา รู้ว่าตัวเองชอบอะไรและถนัดอะไรมาตั้งแต่เด็ก ได้เลือกเรียนสายที่ถูกกับความชอบและความสามารถของตน

หลังจากที่ฉันได้พัฒนาทักษะการแปลของตนจนถึงขั้นที่ลูกค้าพอใจแล้ว ฉันก็สามารถที่จะเลือกงานได้ ส่วนมากฉันจะดูว่าค่าตอบแทนคุ้มค่ากับเวลาหรือไม่ แต่ก็ไม่เสมอไป บางครั้งฉันก็เลือกงานบางอย่างเพราะอยากทำเพื่อหาประสบการณ์ หรือบางงานก็ทำเพื่อช่วยคนบางคน

งานส่วนใหญ่ที่ทำจะเป็นงานล่ามในศาล กระบวนการต่างๆ ในศาลมักจะล่าช้า บางห้องศาลก็มีคดีจำนวนมาก ทำให้ต้องนั่งรอคดีจนกว่าจะถูกเรียก บางทีก็ต้องนั่งรอหลายชั่วโมงจนกว่าอัยการหรือทนายความฝ่ายจำเลยจะมาถึง บางทีผู้พิพากษากับเหล่าทนายความก็ประชุมกันในห้องผู้พิพากษาเกือบครึ่งวันกว่าผู้พิพากษาจะขึ้นบัลลังก์ ช่วงที่ฉันนั่งรอเคสของตัวเองนี่แหละ เป็นช่วงเวลาที่ฉันใช้ในการอ่านหนังสือและเขียนหนังสือ

เชื่อหรือไม่คะ ในช่วงที่ฉันเป็นล่ามมายี่สิบกว่าปี ฉันเขียนหนังสือได้เป็นสิบๆ เล่ม คนมักจะถามฉันว่าเอาเวลาไหนมาเขียนหนังสือทั้งๆ ที่ทำทั้งงานล่ามและงานแปลอยู่ ตลอดเวลา ฉันก็เอาเวลาที่นั่งรอเคสต่างๆ นี่แหละมาเขียนหนังสือหรือทำงานแปล ทำให้มีรายได้สองเด้งสามเด้ง

หลายครั้งเคสของเราก็จะถูกเรียกก่อน เพราะศาลหลายแห่งจะให้เกียรติล่ามเพราะล่ามอาจจะเดินทางมาไกลหรือล่ามอาจจะต้องไปแปลที่ห้องศาลอื่น เคสที่มีล่ามก็จะถูกเรียกก่อน ในกรณีนี้ เราก็จะเสร็จงานเร็วและสามารถกลับไปทำงานอื่นต่อได้ ส่วนมากเคสภาษาลาวหรือภาษาไทยจะมีเพียงหนึ่งเคสในศาลเดียวกันในวันเดียวกัน ยกเว้นนานๆ ทีจะได้ทำสองหรือสามเคสในวันเดียว (ไม่เหมือนกับล่ามภาษาสเปนหรือภาษากวางตุ้งที่มีเป็นหลายสิบเคสในศาลแห่งเดียวสำหรับเมืองซานฟรานซิสโก) ล่ามส่วนมากจะถูกจ้างมาแบบครึ่งวันหรือเต็มวัน แต่หลายครั้งจะทำเพียงไม่กี่นาทีก็จะได้ค่าแรงสำหรับครึ่งวันหรือเต็มวันเลย พองานล่ามเสร็จแล้ว ฉันก็จะกลับบ้านไปเขียนหนังสือ ไปออกกำลังกายหรือไปทำอะไรที่ตัวเองชอบ ถ้าไปต่างเมือง ก็จะเอาเวลาที่เหลือเที่ยวชมเมืองหรือเยี่ยมเพื่อนๆ ที่อยู่ในเมืองนั้นๆ

งานล่ามบางงานดีตรงที่ได้ค่าแรงถึงแม้งานจะถูกยกเลิก ถ้าลูกค้ายกเลิกงาน ล่ามก็จะได้เงิน บางทีก็ได้เต็ม บางทีก็ได้ครึ่งหนึ่งแล้วแต่ จะตกลงกัน (แต่ถ้ายกเลิกก่อนตามที่กำหนดไว้ในสัญญา ล่ามก็จะไม่ได้ค่าตอบแทน) มีหลายครั้งจะถูกยกเลิกหนึ่งวันหรือสองวันก่อนวันงาน ในกรณีนี้ จะได้ค่าจ้างเต็มๆ (แต่จะไม่ได้ค่าเดินทางและเบี้ยเลี้ยง) ทำให้มีเวลาไปทำอย่างอื่นหรือรับงานอื่นได้ บางงานจองเราไว้เป็นอาทิตย์ แต่พอถูกยกเลิก เราก็มีเวลาทั้งอาทิตย์ที่ จะทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ บางทีฉันก็รับงานอื่น บางทีก็ไม่รับ เวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ได้มานี้ มันมีค่ามหาศาล ฉันสามารถเอาเวลานี้ไปทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ได้ ส่วนมากฉันจะเอาไปใช้ในเรื่องการดูแลสุขภาพและงานเขียน

นอกจากงานแปลในศาลที่ทำให้มีเวลาแล้ว การเป็นล่ามทางการแพทย์ในหลายๆ เคสก็ทำให้มีเวลาเช่นเดียวกัน เช่น เวลาที่รอคนไข้ รอแพทย์ รอผลตรวจ ฯลฯ ช่วงที่นั่งรอ ล่ามจะได้ค่าชั่วโมงด้วย ในขณะที่รอ ก็สามารถอ่านหนังสือหรือเขียนหนังสือได้

แต่ก็มีหลายงานที่ต้องทำงานตลอดเวลา เขาใช้งานล่ามจนคุ้มเลยก็มี ส่วนใหญ่จะเป็นงานเอกชนหรืองานคดีแพ่ง เช่น การบันทึกคำพยานนอกศาล งานการประชุม งานคอนเวนชั่น งานที่ต้องแปลฉับพลันสลับกับพาร์ตเนอร์ แม้แต่งานศาลที่เป็นการพิจารณาคดี ในกรณีนี้ จะไม่มีเวลาเลย เพราะต้องทำงานตลอดและต้องตั้งใจฟัง งานแบบนี้ ล่ามจะเหนื่อยสุดๆ กลับบ้านสลบไสล บางงานต้องใช้เวลาหลายวันในการพักฟื้น โชคดีที่งานในลักษณะนี้มีไม่บ่อยมากนัก

ในช่วงหลังๆ ที่เรามีสมาร์ทโฟนใช้กัน ฉันก็ได้หันมาใช้สมาร์ทโฟนในการบริหารจัดการเวลาของตัวเอง สามารถติดต่อกับลูกค้าได้รวดเร็ว ทำให้ได้งานที่ดีๆ หลายงาน สามารถขอยกเลิกงานบางงานที่รับไว้แล้วเพื่อรับงานที่ดีกว่าได้ (แต่ส่วนมาก ฉันจะไม่ยกเลิกเพราะสงสารลูกค้า ยกเว้นว่ามีงานที่ต้องไปต่างรัฐหรือต่างประเทศ) การมีสมาร์ทโฟนก็ได้ช่วยให้ฉันสามารถเขียนหนังสือหรือร่างหนังสือได้สะดวกขึ้น เช่น ฉันสามารถเขียนบทความต่างๆ ใส่ในโทรศัพท์ไว้ พอกลับบ้าน ค่อยมาเกลาภาษาให้สละสลวยก่อนส่งบทความไปลงในหนังสือพิมพ์ เป็นต้น

เวลาบางส่วนที่ฉันใช้ตอนที่นั่งรอขณะเป็นล่ามก็คือ ฉันจะใช้เวลาแชทกับเพื่อนๆ และครอบครัว มีเวลาเล่นเฟซบุ๊ก เล่นไลน์ ตอนนั่งรอ ก็มีเวลาตอบคอมเม้นต์ต่างๆ ทำให้มีเพื่อนใหม่ๆ เพิ่มขึ้นและได้ติดต่อกับเพื่อนเก่าด้วย แต่ฉันจะแบ่งเวลาในการใช้สื่อสังคม จะไม่ใช้เวลากับมันเกินควร

มีหลายงานที่ฉันจะต้องเดินทางไกลทีละหลายชั่วโมง เช่น ถ้าต้องขับรถ ฉันก็จะใช้เวลานั้นฟังข่าว ฟังธรรมะ ฉันชอบฟังพุทธวจนและการบรรยายเรื่องสุขภาพของแพทย์วิถีธรรม ฉันชอบเรียนภาษาในรถด้วย จะชอบฟังวิดีโอที่ตัวเองทำขึ้นมาสอนนักเรียน ชอบทบทวนคำศัพท์ บางทีก็ใช้เวลาเรียนภาษาอื่น เช่น ตอนนี้เริ่มฝึกภาษาสเปน เพราะกำลังจะเปิดคอร์ สสอนภาษาสเปนให้คนไทยและกำลังฝึกตัวเองเพื่อที่จะเป็นล่ามภาษาสเปนอีกภาษาหนึ่ง ฉันก็จะเรียนภาษาสเปนเวลาขับรถ ถ้าได้นั่งเครื่องบินส่วนมากก็จะดูหนัง ปกติฉันไม่ค่อยมีเวลาดูหนังมาก ดังนั้น เวลานั่งเครื่องก็จะถือโอกาสดู หนังทีละหลายๆ เรื่อง เท่าที่เวลาจะอำนวย

ฉันให้ความสำคัญกับการใช้เวลามาก พยายามใช้เวลากับสิ่งที่มีประโยชน์ในชีวิตเพราะชีวิตของเราสั้นนัก ฉันจะไม่ใช้เวลาไปติดกับสิ่งที่ มีประโยชน์น้อยหรือไร้สาระ เช่น การเล่นเกมในมือถือหรือคอมพิวเตอร์ การดูละครที่เป็นซีรีย์ยาวๆ การทำอาหารกินทีละหลายๆ ชั่วโมง การเล่นการพนัน การจับกลุ่มกันนินทา การดื่มแอลกอฮอล์ เรื่องเล่นเกม ฉันจะเล่นเกมภาษาที่ฝึกสมองเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น สำหรับละครนานๆ จะดูทีเพื่อเป็นการฝึกภาษา (ยกเว้นซีรีย์เรื่องพระพุทธเจ้า กลับไปดูบางคลิปหลายรอบ) เรื่องแต่งหน้า แต่งตัว ฉันใช้เวลากับมันน้อยมาก

ฉันไม่เคยเอาเวลาไปให้กับงานที่ ตัวเองไม่ชอบ ไม่เคยมีบอส ตั้งแต่เรียนจบมา ฉันก็เป็นนักเขียนและนักแปลมาโดยตลอด งานที่ฉันทำอยู่ ไม่ได้ทำให้ฉันเป็นเศรษฐี แต่ฉันมีเงินใช้จ่ายอย่างสบาย มีเวลาทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ มีร่างกายที่แข็งแรง มีปัญญาที่จะช่วยเหลือตัวเองและผู้อื่น ทำให้ฉันมีความมั่นใจและภูมิใจในตัวเอง และตอนนี้ฉันก็ได้เอาเวลาส่วนหนึ่งมาจัดทำบทเรียนเพื่อสอนภาษาอังกฤษและวิชาการแปลให้ กับเพื่อนๆ และรุ่นน้องเพื่อที่เขาจะได้เก่งภาษาและเอาความรู้นั้นไปพัฒนาตนเอง

ฉันรู้ว่าหลายคนไม่มีโอกาสเช่นนั้นเพราะหลายคนมีครอบครัว มีลูก มีงานประจำ จึงไม่ค่อยมีเวลาเป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ฉันรู้จักหลายคนที่มีครอบครัว มีลูกหลายคน บางคนก็เป็นซิงเกิลมอม แต่ก็สามารถส่งลูกเรียนจนจบมหาวิทยาลัยและยังมีเวลาทำในสิ่งที่ตนชอบ ฉันคิดว่าการบริหารจัดการเวลาเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าเราจะทำอาชีพใด ยิ่งเราอยู่ในสังคมเมืองที่ชีวิตมีความซับซ้อน เวลาที่จะเป็นตัวของตัวเองยิ่งมีน้อย ทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงในหนึ่งวันเท่ากัน แต่จะต่างกันตรงที่เราจะเลือกบริหารเวลาของตนอย่างไร

ฉันใช้เวลากับการศึกษามากเพราะฉันเข้าใจถึงความสำคัญของการเรียนรู้ ฉันตัดสินใจที่จะเอาดีทางด้านนี้ เลยใช้เวลาในช่วงแรกๆ ของชีวิตทุ่มเทกับการเรียนภาษา ผลที่ได้มันคุ้มค่าจริงๆ


ฉันชอบคำคมนี้ของท่านอับราฮัม ลินคอล์นมาก

“Give me six hours to chop down a tree and I will spend the first four sharpening the axe.” – Abraham Lincoln "ให้เวลาฉันหกชั่วโมงที่จะตัดต้นไม้ ฉันจะใช้เวลาสี่ชั่วโมงแรกฝนขวานให้คมก่อนที่ จะลงมือตัด" – อับราฮัม ลินคอล์น

งานล่ามทำให้ฉันสามารถบริหารจัดการเรื่องเวลาของตนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ทำให้ฉันเลือกทำในสิ่งที่มี ประโยชน์ต่อตนเองและต่อผู้อื่นเท่าที่ตนจะทำได้และทำให้ฉันมี ความสุขกับการทำงานทุกวัน


- ล่ามเอ๋ เบญจวรรณ