เรื่องเล่าจากล่าม 15 ตุลาคม 2559

ในระหว่างทางที่เราออกเดินทางเพื่อทำหน้าที่สายตรวจต่อไป เราก็ได้พบกับรถดับเพลิงที่เปิดหวอสวนทางมาเพื่อมุ่งหน้าไปที่ใดที่หนึ่ง จนท. บิวโคลทซ์ได้อธิบายว่าสน.ลินน์วูดมีระบบคลื่นวิทยุคนละระบบกับสำนักงานตำรวจดับเพลิงลินน์วูด เจ้าหน้าที่ไม่แน่ใจว่าสำนักงานตำรวจดับเพลิงจะต้องการกำลังสนับสนุนจากเขาในภายหลังหรือไม่ ดังนั้นเราจึงขับตามหลังรถหวอมาสักระยะหนึ่ง และเมื่อไม่มีวิทยุขอความช่วยเหลือเรียกเข้ามาเราจึงแยกเส้นทางจากรถดับเพลิงไป

ในขณะที่เราไม่มีวิทยุติดต่อเข้ามา ผู้เขียนถามว่าเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบป้ายทะเบียนรถจากคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งในรถได้หรือไม่ และจนท. บิวโคลทซ์ก็แสดงให้เห็นว่าทำได้อย่างไร เจ้าหน้าที่ตรวจสอบป้ายทะเบียนรถคันหนึ่งที่เราบังเอิญพบเห็นบนถนน ผลออกมาว่าเจ้าของรถคันนั้นได้รับคำสั่งศาลห้ามกระทำการ (restraining order) ในข้อหาเกี่ยวข้องกับคดีการกระทำความรุนแรงในครอบครัว (domestic violence) แต่เนื่องจากเขาขับรถตามกฎจราจร จึงไม่มีเหตุผลที่จะเรียกรถให้หยุดเพื่อตรวจสอบชายผู้นั้น ดังนั้นเราจึงขับผ่านเขาไปบนเส้นทางไฮเวย์ 99

ผู้ขียนยังได้มีโอกาสสอบถามจนท. บิวโคลทซ์เกี่ยวกับการฝึกอบรมเพื่อบรรจุเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาได้ใช้เวลาในการอธิบายให้ผู้เขียนฟังเกี่ยวกับการเรียนและการฝึกอบรมเพื่อเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงเรียนฝึกอบรมตำรวจบิวเรียน (Burien Police Academy) ข้าพเจ้าชมเชยความสามรถในการพิมพ์บนคีย์บอร์ดอันดีเยี่ยมของเขา ผู้เขียนสังเกตเห็นว่าโดยทั่วไปเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้คำย่อ และชวเลขในการเขียนติดต่อสื่อสารค่อนข้างมาก และสังเกตเห็นว่าจนท. บิวโคลทซ์นั้นตื่นตัวตลอดเวลาในการปฏิบัติหน้าที่สายตรวจ แม้ในขณะที่ตอบคำถามของผู้เขียน

ในระหว่างที่อยู่บนท้องถนน จนท. บิวโคลทซ์ต้องการแสดงให้ผู้เขียนเห็นว่าการดำเนินการหยุดรถเพื่อตรวจสอบนั้นกระทำอย่างไร แต่เราไม่สามารถหาเหตุผลในการหยุดรถคันใดคันหนึ่งในขณะนั้น ทั้งจากการเรียกตรวจสอบป้ายทะเบียน และพฤติกรรมในการขับขี่ในขณะนั้น เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งใกล้เวลา 23:00 นาฬิกา จนท. บิวโคลทซ์จึงเสนอให้เดินเข้าไปตรวจตราความเรียบร้อยในบาร์ (bar check) ที่พับ 44 (Pub 44) ในบริเวณนั้น ขณะที่เราเดินเข้าไปในบาร์ ผู้จัดการบาร์ก็เข้ามาหาและแจ้งว่าเธอได้โทรแจ้งเหตุไปยังศูนย์วิทยุเพื่อรายงานว่ามีชายอยู่ในอาการมึนเมาและถูกไล่ให้ออกจากบาร์ก่อนหน้านี้ไม่นาน

ต่อมาผู้ประสบเหตุได้โทรศัพท์แจ้งเหตุว่ามีชายนอนหมดสติในพุ่มไม้ด้านล้างป้ายร้านสปอร์ตส์ ออธอริตี้ (Sports Authority) จนท. บิวโคลทซ์ จึงรุดไปตรวจสอบชายหมดสติผู้นั้น ต่อมาไม่นานมีเจ้าหน้าที่อีกสองนายมาถึงยังที่เกิดเหตุ ใช้เวลานานพอสมควรในการปลุกให้ชายผู้นั้นได้สติลุกขึ้นและยืนขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขอดูบัตรประชาชน ชายผู้นั้นปฏิเสธไม่ยอมให้ดู เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงถามว่าเขาสามารถยืนหรือเดินได้อย่างมั่นคง หรือต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ และเขาจะเป็นอันตรายต่อผู้อื่นหรือไม่ เขาตอบว่าเขาสามารถเดินเองได้ และไม่ต้องการความช่วยเหลือ แล้วเขาก็เดินโซซัดโซเซจากไป (ซะงั้น 5555) เป็นอันว่าจบเหตุแบบดื้อ ๆ แบบนี้แหละ

ตลอดเวลาเท่าที่ผ่านมาผู้เขียนได้เรียนรู้จากการเข้าอบรม Lynnwood Citizen Academy ว่าสน. ลินน์วูดได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายในการใช้กำลังแต่น้อย และให้มุ่งใช้การเข้าถึงประชาชนโดยมุ่งเน้นชุมชุนเป็นหลักในการจัดการกับเรื่องราวปัญหาต่าง ๆ ในขณะที่นั่งรถสายตรวจผู้เขียนได้รับรู้ด้วยตนเองผ่านการปฏิบัติหน้าที่ของจนท. บิวโคลทซ์ ผู้เขียนคิดว่าเราได้สิทธิพิเศษมากในการอยู่ในชุมชนที่เชิดชูความสงบสุขในเช่นการอาศัยอยู่ในเมืองลินน์วูด ถึงแม้ว่าผู้เขียนจะมีถิ่นที่อยู่ในเมืองใกล้เคียงก็ตาม

โดยสรุปแล้วเป็นคืนที่ไม่มีอะไรตื่นเต้น ไม่เหมือนกับประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นต่าง ๆ ที่ผู้เข้าอบรมท่านอื่นได้ประสบมาแล้วมาเล่าให้ผู้เข้าอบรมคนอื่น ๆ ฟังในห้องเรียน เราไม่ได้ไปตระเวณตรวจดู “โรดิโออินน์” (Rodeo Inn) [ตามรายงานตำรวจ สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งที่มีการค้ายาเสพติด ค้าประเวณี และมีอาชญากรรม ความรุนแรงต่าง ๆ เกิดขึ้นค่อนข้างบ่อย] หากผู้เขียนขอให้จนท. บิวโคลทซ์ขับรถไปตรวจบริเวณนั้นเขาก็คงยินดีที่จะกระทำตามที่ผู้เขียนร้องขอ

ข้าพเจ้าเข้าใจว่าจนท. บิวโคลทซ์ ต้องการให้เข้าพเจ้ามีประสบการณ์ตรงในเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน มีแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้น แต่ข้อดีก็คือไม่มีเหตุรุนแรงและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ผู้เขียนได้บอกกับจนท. บิวโคลทซ์ว่าผู้เขียนจะนั่งรถไปกับสายตรวจอีกเมื่อได้รับสิทธิให้กระทำได้อีกในโอกาสหน้า ผู้เขียนบอกจนท. บิวโคลทซ์ว่ารู้สึกประทับใจมากในงานสายตรวจที่จนท. บิวโคลทซ์ได้ปฏิบัติ เป็นอันว่าเวลาในการนั่งรถไปกับสายตรวจหมดลง เราจึงบอกลากันหลังเวลา 23.00 นาฬิกาเล็กน้อย


ขอพลังจงอยู่คู่กับท่านMay the force be with you!