Thai and Lao Interpreters' Study Group กลุ่มศึกษาของล่ามภาษาไทยและภาษาลาว ตอนที่ 3

*** Here are some words that I learned and used in the past two days during my interpreting assignment. คำศัพท์บางคำที่ได้เรียนรู้และได้ใช้ตอนเป็นล่ามในสองวันที่ผ่านมา เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ว่า ล่ามอิสระที่รับงานหลากหลายจะต้องรู้คำศัพท์หลากหลายสาขา This shows that a freelance interpreter who works on different kinds of assignments needs to know vocabulary in different fields. เดี๋ยวนี้มีคำศัพท์เฉพาะของเขา ควรแปลตามคำศัพท์ที่บัญญัติไว้แล้ว Nowadays each field has come up with its own vocabulary so the correct translation should be used.

เกษตรพันธสัญญา contract farming

สัตวบาล animal husbandry

การเกษตรเพื่อยังชีพ subsistence farming/agriculture

การเกษตรกรรมยั่งยืน sustainable agriculture

การเกษตรกรรมทางเลือก alternative agriculture

การเกษตรกรรมถาวร permanent agriculture

ราชูปถัมภ์ king's patronage หรือ Royal Patronage of H.M. the King


*** ทำอย่างไรถึงจะได้งานล่ามดีๆ (โพสท์นี้สำคัญสำหรับผู้ที่อยากเป็นล่ามมืออาชีพ )

สำหรับฉันแล้ว การเป็นล่ามอิสระนั้น เป็นอาชีพหนึ่งที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจที่สุดเพราะได้มีโอกาสเดินทาง เรียนรู้คำศัพท์หลากหลายสาขาวิชา ได้เจอผู้คนหลายระดับและรายได้ดี


ถ้าเป็นล่ามประจำที่ใดที่หนึ่ง เช่น ทำให้กับบริษัทเดียว แปลในศาลหรือโรงพยาบาลอย่างเดียวหรือทำงานให้รัฐบาลที่ต้องประจำอยู่ที่ใดที่หนึ่งตลอดหรือแปลแต่สาขาเดิมๆ ตลอด แน่นอนก็จะสามารถแปลสาขานั้นๆ ได้อย่างแม่นยำ มีงานประจำที่มั่นคงกว่า แต่ก็จะไม่มีโอกาสได้ฝึกคำศัพท์สาขาใหม่ๆ ไม่ได้ต้องเดินทางท่องเที่ยวเหมือนกับล่ามอิสระ


วันนี้จะพูดถึงวิธีการหางานของล่ามอิสระ (freelance interpreter)

- ต้องทำเรซูเมให้ดี พยายามหาประสบการณ์ที่เกี่ยวกับภาษาและงานล่ามหรืองานแปลเอกสารลงให้มากที่สุด

- ส่งไปหาเอเจนซี่และหน่วยงานต่างๆ ให้มากที่สุด ดูลิงค์ต่างๆ ข้างล่างนี้

- ต้องส่งไปหลายๆ ที่ ไม่ใช่ส่งไปแค่ 2-3 ที่ เข้าไม่ตอบมา ก็หยุดอยู่ตรงนั้น อย่าหยุด หาต่อเรื่อยๆ

- พยายามไปสอบให้ได้ใบประกอบการสักใบหรือสองใบเพื่อเอามาลงในเรซูเมเพื่อให้ดูดี

- เน็ตเวิร์คกับคนทั้งในและนอกวงการ เช่น ที่วัด งานสมาคมต่างๆ การบอกต่อนี่สำคัญมาก งานส่วนมากของฉันมาจากการบอกต่อ เมื่อลูกค้าพอใจกับผลงาน เขาก็จะบอกต่อกันไป

- ทำอุปกรณ์โฆษณา เช่น นามบัตร เว็บไซท์ เฟซบุ๊ก วิดีโอ

- อย่าชักช้า เพราะสมัยนี้ ข้อมูลข่าวสารเดินทางรวดเร็ว ต้องขยันเช็คเมลเผื่องานเข้าต้องรีบรับ ช้าคนอื่นเอาไปกิน

- ต้องขยันเรียนเพิ่มเติมและฝึกฝนทบทวนความรู้เดิมที่เรียนมา ลูกค้าที่จ้างเราหลายเจ้าไม่เกี่ยงราคา อยากได้ล่ามที่เก่งๆ (แต่ราคาก็ต้องสมเหตุสมผล)

- สมัยนี้ต้องทำงานล่ามฉับพลันให้ได้ ล่ามฉับพลันสำหรับงานประชุมรายได้เฉลี่ยต่อวันมากกว่าล่ามประเภทอื่นๆ ต้องพยายามฝึกจนทำให้ได้ดี

- สำหรับผู้ที่อยู่ต่างประเทศ เช่นที่อเมริกา ควรรีบเป็นอเมริกันซิติเซ่นเพราะงานที่ดีๆ หลายงานจำเป็นต้องเป็นคนที่ถือสันชาตินั้นถึงจะทำได้

ล่ามหลายคนไม่ค่อยมีงานเพราะไม่ขยันโปรโมทและพัฒนาตนเอง สมัครไปไม่กี่แห่งแล้วรอให้เขาเรียก ซึ่งนานๆ จะมาที ทำให้ความสนใจในงานล่ามลดน้อยลง และขาดกำลังใจ

มีล่ามคนหนึ่งที่ฉันรู้จัก เขาเก่งทั้งด้านการแปลเอกสาร การเป็นล่ามฉับพลัน อยู่เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในอเมริกา เขาขยันส่งเรซูเมไปแทบทุกที่ ตอนนี้มีลูกค้าทั้งในอเมริกาและยุโรป ได้เดินทางตลอดปี ลูกค้ายอมจ่ายค่าเดินทางให้ บางทีฉันก็มีโอกาสได้ร่วมงานด้วย เขาฝึกตัวเองและทำอย่างที่ว่าไว้นี้แทบทุกอย่าง ถือว่าเป็นล่ามคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในระดับสูงมาก

และก็รู้จักล่ามอีกคน ที่ฉันคิดว่าภาษาเขาไม่ถึงขั้นดีมาก แต่โปรโมทตัวเองเก่งสุดๆ คนนี้ก็มีงานทำตลอด ถึงแม้จะไม่ได้งานระดับอินเตอร์ แต่ก็ถือว่าโอเค

เพราะฉะนั้นต้องขยันหมั่นศึกษา ขยันหางาน ไม่รอให้งานวิ่งมาหา และแลกเปลี่ยนข้อมูลกับล่ามคนอื่นๆ พยายามติดตามโพสท์ต่างๆ ของกลุ่มนี้ มีคนเก่งๆ อยู่หลายคน ถึงแม้คุณจะไม่ได้ทำงานล่ามก็ตาม ความรู้ที่ได้จากการเรียนภาษาสามารถเปิดโลกทัศน์ สามารถช่วยเรื่องงานและเรื่องอื่นๆ ในชีวิตประจำวันได้


***อาทิตย์นี้เป็นล่ามให้กับนักวิชาการจากประเทศไทย มีศัพท์ที่บัญญัติใหม่เยอะมาก บางคำเราใช้ทับศัพท์จนเคยชิน เดี๋ยวนี้จะต้องแปลให้ถูกต้องเพราะเป็นคำที่ใช้กันในแวดวงนักวิชาการ

ศัพท์ที่ได้เรียนรู้ในสัปดาห์นี้ก็มี

ประชาพิจารณ์ public hearing

ประชามติ referendum

อัตถิภาวนิยม หรืออัตภาวะนิยม existentialism

จิตนิยม idealism

ประสบการณ์นิยม หรือปฏิบัตินิยม pragmatism, experimentalism หรือ instrumentalism

วัตถุนิยม หรือ สสารนิยม materialism

โทมัสนิยมใหม่ neo-Thomism

สัจนิยม realism

สุนทรียศาสตร์ aesthetics


***ทำอย่างไรถึงจะเป็นล่ามที่มีความมั่นใจได้

การสร้างความมั่นใจในการทำงานล่ามก็เหมือนกับการสร้างความมั่นใจในเรื่องอื่นๆ คือจะต้องรู้ในสิ่งที่ตนทำให้ดี ถ้าเรารู้ดีแล้ว เราก็จะมีความมั่นใจขึ้นมาเอง

สำหรับล่ามแล้ว พื้นฐานสำคัญสำหรับความมั่นใจก็คือ เราต้องมั่นใจในด้านการแปลเพื่อที่จะสื่อสารสิ่งที่เรากำลังแปลนั้นออกไป เราจะต้องสามารถแปลให้คนเข้าใจได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ เราจะต้องรู้คำศัพท์ให้มากกว่าคนทั่วไป สามารถใช้ภาษาได้ถูกต้อง แปลได้อย่างราบรื่น ถ้าเราทำสิ่งนี้ได้ ความมั่นใจก็จะมีขึ้นเอง

ทำอย่างไรล่ะเราถึงจะแปลได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วและราบรื่น

ก็ต้องฝึกๆๆๆ ค่ะ ต้องรู้จุดอ่อนจุดแข็งของตัว ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับทุกสถานการณ์ ต้องขยันมากๆ ขยันท่องศัพท์ ขยันฟัง พูด อ่าน เขียน และถ้าเป็นไปได้ให้ฝึกภาคสนามบ่อยๆ การเป็นล่ามต้องฝึกทักษะทางด้านภาษาทั้งสี่และต้องมีความรู้รอบตัวให้มากกว่าคนทั่วไป ต้องเป็นคนมีไหวพริบ หัดสังเกต เพราะเราจะต้องแปลเร็วมาก ถ้าเรามีข้อมูลอยู่ในหัวและสามารถเรียกกลับมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว การแปลของเราก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นั่นก็คือเราต้องจำ ความจำที่ดีก็จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเราได้

การเป็นล่ามนี่ใช้ความจำลูกเดียว ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว เดี๋ยวในโพสท์หลังๆ ถึงจะพูดถึงวิธีการจำนะคะ

เรื่องเสื้อผ้าหน้าผมก็เป็นเรื่องที่ช่วยได้บ้าง ขอให้เรียบร้อยก็พอ อย่าไปเสียเวลากับมันมาก เดี๋ยวจะพูดถึงเรื่องนี้วันหลังเช่นเดียวกันค่ะ

และอีกอย่างที่จะสร้างความมั่นใจได้ก็คือ การมีปฏิสัมพันธ์กับล่ามคนอื่นๆ หรือการเรียนรู้กับผู้ที่มีประสบการณ์

เพราะฉะนั้นการเป็นสมาชิกในกลุ่มนี้ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะเรียนรู้วิทยายุทธของการเป็นล่ามเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองได้ ฉันอยู่ในวงการนี้มานาน รู้จักล่ามหลายภาษาทั่วอเมริกา เพื่อนๆ หลายคนในกลุ่มนี้เป็นล่ามมืออาชีพที่มีประสบการณ์สูง ถ้ามีคำถามที่ฉันตอบไม่ได้ ฉันจะถามล่ามรุ่นพี่ให้ค่ะ พี่ๆ หลายคนตอนนี้อยู่ในวัยหกสิบ เจ็ดสิบ เกษียณไปแล้วก็มี และพี่ๆ เขาไม่ได้เล่นเฟซตลอดเหมือนพวกเรา ฉันจึงจะเป็นผู้ตอบคำถามให้ (และเป็นคนชอบเขียน) แทบทุกโพสท์ที่ฉันโพสท์ลง จะให้ข้อคิดและประโยชน์กับผู้อ่าน ไม่ทำให้เสียเวลาแน่นอนค่ะ แต่ต้องขยันทำการบ้านเองนะคะ อีกไม่นานฉันจะเริ่มโพสท์วิดีโอต่างๆ ลง จะได้เอาไปฝึกค่ะ


***"เป็นล่ามต้องมีใบมั้ย" เป็นคำถามที่ถามกันบ่อยมาก

ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชน เขาเพียงอยากรู้ว่าเรามีคุณวุฒิและวิทยฐานะพอที่จะมาทำงานนั้นหรือไม่

ภาคเอกชนบางแห่ง จึงมีการจัดสอบเอง ทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์ บางทีก็เพียงแต่สัมภาษณ์

ส่วนภาครัฐนั้น จะมีขั้นตอนซับซ้อนกว่า แล้วแต่หน่วยงาน ข้อสอบบางหน่วยงานก็ง่าย บางแห่งก็ยากมากๆ

การที่เราสอบผ่านและมีใบรับรองจากสถาบันใดสถาบันหนึ่งจะทำให้เรซูเมดูดีเพราะผู้ที่ว่าจ้างไม่ต้องมาห่วงเรื่องการทดสอบความสามารถของล่ามเพราะส่วนใหญ่ไม่มีเวลาหรืองบประมาณ

ล่ามบางคนไม่เคยสอบอะไรเลย แต่มีประสบการณ์เยอะ บางแห่งก็รับ แต่บางแห่งไม่รับ ต้องผ่านการสอบเท่านั้น

เช่น ฉันสอบผ่านข้อสอบของสภาตุลาการรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่รัฐออริกอนก็อนุญาตให้ทำงานได้ที่รัฐนั้นโดยที่ไม่ต้องสอบ ตอนนี้ฉันขึ้นทะเบียนกับรัฐแคลิฟอร์เนียกับรัฐออริกอน เวลามีเคสก็จะบินไป หลังๆ คนไทยคนลาวกระจายไปทั่วอเมริกา บางทีฉันก็ต้องบินไปต่างรัฐไกลๆ เพราะเขาหาล่ามไม่ได้ การที่เป็นล่ามที่ขึ้นทะเบียนกับสภาตุลาการของรัฐแคลิฟอร์เนียทำให้เรามีความน่าเชื่อถือ เดี๋ยวนี้การเป็นล่ามในศาลในอเมริกาจะต้องใช้ล่ามที่มีประสบการณ์และผ่านการอบรม ไม่ใช่จะเป็นได้ง่ายๆ (ยกเว้นหาคนไม่ได้จริงๆ)

นอกจากนี้ฉันก็ได้ไปสอบกับภาครัฐและเอกชนอื่นๆ เช่น กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และเอเจนซี่เอกชนต่างๆ ผ่านหมดแล้ว (เป็นคนชอบสอบ) ทำให้หน่วยงานต่างๆ อยากจ้างเราเพราะเขามั่นใจ และมีประสบการณ์เป็นล่ามมืออาชีพมากว่ายี่สิบปี งานจึงเยอะตลอด มีแทบทุกวัน บางวันมีคนเสนอมาสามหรือสี่จ๊อบ ฉันก็จะเลือกเอางานที่ดีหรือน่าสนใจ ฉันชอบงานศาลเพราะถนัดแปลศัพท์กฎหมายที่สุด และส่วนใหญ่มีเวลาว่างมาก ฉันมักใช้เวลาเขียนโพสท์ต่างๆ ตอนนั่งรอคดีในศาล (เช่นโพสท์นี้)

ศาลในบางรัฐจะไม่ใช้ล่ามที่ขึ้นทะเบียนกับรัฐอื่น เช่น รัฐวอชิงตันหรือมินิโซตา ต้องไปสอบกับทางรัฐนั้นๆ โดยตรง แต่ก่อนฉันบินไปแปลที่ซีแอตเติลประจำ แต่เดี๋ยวนี้ เขาเอาคนที่นั่นก่อน ยกเว้นบางคดีที่ต้องใช้ล่ามที่มีคุณวุฒิหลายคน เขาจึงเรียกไปช่วย

ดังนั้น ถ้าเราไม่มีใบอะไรเลย เราก็จะไม่ได้งานดีๆ ถูกพวกเอเจนซี่เอาเปรียบ เขาให้เท่าไหร่ก็เอา ไม่มีอะไรมาต่อรอง (ยกเว้นว่าอยากทำเพื่อเอาประสบการณ์) พวกล่ามที่ทำงานศาลด้วยกันจะไม่รับงานเอกชนที่ให้น้อยกว่า US$80 ต่อชั่วโมง และต้องได้อย่างน้อยทีละสองชั่วโมง + ค่าเดินทาง (แต่ฉันหลายครั้งก็ทำให้ฟรี ถ้าเป็นงานเพื่อสังคม)

ดังนั้น ถ้าอยากได้งานดีๆ แต่ไม่มีประสบการณ์มากมาย ต้องไปสอบให้ได้ใบสักอย่างเพื่อเอามาใส่ในเรซูเมเรา มีบางสถาบันที่ออกใบรับรองสำหรับล่ามทางการแพทย์ให้