42 ยังไม่สายจะมีลูก! “นุ่น-หลุยส์” กว่าจะมีวันนี้แท้ง-รังไข่เสื่อม-ภาวะมีบุตรยาก ต่อสู้ด้วยพลังรัก!
42 ยังไม่สายจะมีลูก นุ่น-หลุยส์ กว่าจะมีวันนี้ แท้ง-รังไข่เสื่อม-ภาวะมีบุตรยาก ต่อสู้ด้วยพลังรัก งานนี้หลายคนมอบกำลังใจให้มากมาย
ต่อสู้ฝ่าฟันมาทุกอุปสรรคในที่สุดก็ถึงเส้นชัยซักที สำหรับคู่รักคู่หวาน “นุ่น รมิดา” กับสามีนักร้อง90 “หลุยส์ สก็อต” ที่ประกาศข่าวดีตั้งครรถ์มาได้เกือบ6 เดือน งานนี้เปิดใจผ่านรายการ “โต๊ะหนูแหม่ม” ช่องเวิร์คพอยท์หมายเลข23 ว่ากว่าจะมีวันนี้ต้องสูญเสียน้ำตา และความหวังมาแล้วมากมาย แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ผ่านมาได้ด้วยความรักนั้นเอง
นุ่น เผยว่า “เรื่องลูกเราคบกันมา20กว่าปีแล้ว แต่งงานมาประมาณ5ปี การรอคอยมีน้องก็ใช้เวลามาประมาณ6ปี หนูแต่งงานตอนอยู่37 หนูแพลนอยากมีลูกตั้งแต่แรกแล้ว ตอนอายุ35 ที่เราคบกัน หนูก็คิดว่าอยากมีลูกแต่คิดว่าหลุยส์ก็คงไม่พร้อม จนคิดว่าเราคงไม่มีแล้ว เพราะตอนนั้นหลุยส์เค้าก็นิ่งๆเข้าใจว่างานเค้าเยอะ กำลังเป็นพระเอก ละครเยอะ ถ้าปล่อยท้องคงไม่ได้ เพรา ะตอนนั้นก็ยังไม่ได้แต่งด้วย พอแต่งงานตอนอายุ37 นุ่นโอเคแล้ว ก็เริ่มปล่อย พอตอน38ท้องจริง อันนี้ไม่เคยบอกใคร”
“เล่าย้อนเหตุการณ์คือตอนท้องอายุ38 ไปเดินป่ากัน แล้วกลับมาลืมว่าต้องเช็คประจำเดือน พอประจำเดือนไม่มา ก็เลยเช็ครู้ว่า2ขีด อันนั้นเป็นครั้งแรกที่แบบว่าหลุยส์ร้องไห้ หนูก็มือสั่นเลยพอเช็คแล้วเห็นว่าเป็น2ขีด อารมณ์แบบว่าไม่ได้ตั้งใจ เราไปเดินป่ามาแล้วเหนื่อย ดีใจมาก บอกทุกคนที่อยู่ใกล้ตัวหมดเลย ผ่านไปเกือบจะเข้า2เดือน อยู่ในชีวิตภาวะแท้ง ไม่ได้มีเลือดไหลหรืออะไร ตอนนั้นรู้ว่าท้องก็เลยไปอัลตราซาวด์ พอไปฝากครรถ์คุณหมอไปตรวจเจอเนื้องอกพร้อมกับน้องและใหญ่ด้วย ตอนนั้นก็ช็อคเพราะมันใหม่มากสำหรับนุ่นเลย หลุยส์เค้าก็ช็อคแต่ว่าตอนนั้นทุกอย่างโอเค หมอก็บอกว่าคอยๆดูทุกวันนี้นุ่นก็ยังมีเนื้องอกอยู่นะ ทั้งที่เอาออกไปแล้ว จนมาเข้าสัปดาห์ที่3ตอนนั้น หมอก็บอกไม่มีสัญญาณหัวใจ เค้าไม่ต่อ นุ่นคิดว่าเค้าน่าจะโครโมโซมไม่ดีด้วย”
นุ่น เล่าต่อว่า “ตอนนี้ก็ทำใจไม่ถูกเราไม่รู้ว่าเนื้องอกคืออะไร แล้วนุ่นเพิ่งเสียคุณแม่ด้วยโรคมะเร็งด้วย ไม่รู้ว่าจะกังวลเรื่องอะไรเรื่องลูกหรือว่าเรื่องเนื้องอก อย่างแรกก็ต้องผ่าตัดจัดการเรื่องเนื้องอกและเรื่องน้องด้วย ก็ไม่รู้ว่าเนื้องอกคือมะเร็งด้วยหรือเปล่า ตอนนั้นก็จัดการเรื่องภาวะแท้ง ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นตัวเองนานพอสมควร
หลังจากนั้นก็ปล่อยธรรมชาติ แต่ใช้เวลานานหน่อยเพราะว่าถ่ายละครด้วย ไม่ได้โฟกัสเรื่องการหาหมอก็ดูแลตัวเองไป หลังจากนั้นก็ไม่ทำอะไรเลยจนอายุ 39 เว้นไป1ปี เราก็ไม่ชอบจะไปหาสตูเพราะส่วนมากจะเป็นผู้ชาย จนมีโอกาสได้มารู้จักหมอสูติที่เป็นผู้หญิง ก็เลยแอบไปคุยกับเค้า ตอนแรกก็ตกใจต้องไปหาหมอที่สุพรรณฯ เพราะคุณหมอมีคลินิคอยู่ที่นั้น ก็เลยตัดสินใจไปหาคุณหมอที่สุพรรณฯ เฝ้าดูอาการเนื้องอก ดูฮอร์โมน แล้วก็ภาวะการมีบุตรยาก พอตรวจแล้วก็พบว่าเป็นรังไข่เสื่อม ด้วยอายุแล้วก็ด้วยการทำงานที่เราพักผ่อนไม่เพียงพอ เราทำงานใช้ร่างกายหนักฉะนั้นฮอร์โมนของเราก็ไปมากกว่าคนอื่น เราก็มาปรับอะไรใหม่หมดตอนอายุ40
ตอนแรกก็คิดว่าได้แน่ๆ มันก็ได้จริงแต่เป็นตัวอ่อนที่ยังไม่แข็งแรง อย่างเก็บมาได้10ใบ มาผสมกับสเปิร์มหลุยส์ เหลือใช้ได้แค่1ใบ นุ่นเก็บไข่มาทั้งหมด7-8 ครั้ง มันก็ยังได้ไม่ดี เพราะเรายังไม่จริงจังเชื่อคุณหมอ คือระหว่างทางนั้นก็ยังมีแวะไปปาร์ตี้กับเพื่อน กินไวน์กินอะไรสุดเหมือนกัน”
“เรื่องมีลูกยาก ก็โชคดีค่ะ ที่นุ่นเป็นคนอดทนเป็นคนไม่คิดอะไรเลย ถ้าร่างกายนุ่นไม่เจ็บปวด นุ่นยังไปได้ต่อ อย่างตอนแรกเก็บไข่ครั้งที่ 1-2 มันยังไม่เวิร์ค มันเครียด หมอก็จะโทรรายงานทุกวัน มันรับรู้มาตลอดว่ายังไม่เกิดผล รู้สึกว่ามันยากจัง ที่ทุกอย่างสัมฤทธิ์ผลเป็นวันที่นุ่นลุกขึ้นมาทำเพื่อหลุยส์ นุ่นโฟกัสที่สุขภาพ เรารู้สึกว่ามันไม่ได้ละ มัน40ล่ะ อีกอย่างทุกอย่างมันวนลูป ไม่มีไรทำก็ปาร์ตี้ เมาแฮ้งค์ๆ เลยคิดว่ามันไม่ได้แล้ว เราต้องจริงจังแล้ว อีกอย่างถ้าเรายังเป็นแบบนี้อีกต่อไปมันจะไม่มีเลย เคยคุยกับหลุยส์ว่าหยุดมั้ย เค้าก็เห็นว่าเราสู้ เราเจ็บตัว แต่พอเห็นหน้าเค้าเราจะพยายามให้ถึงที่สุด และก็หาวิธีดูแลตัวเอง ทุกครั้งที่มันผ่านขั้นตอน เราจะเห็นเค้าดีใจและภูมิใจ สิ่งที่นุ่นผ่านมา นุ่นไม่เจ็บหรือลำบากมันเป็นสิ่งที่นุ่นทำมาจนชินแล้ว เราเห็นสามีเรามีความสุขและความหวัง”...
